ติดอันดับ

นายสี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน แสวงหาความได้เปรียบให้จีนผ่านการดำเนินกิจกรรมแต่ฝ่ายเดียว แม้มีการเรียกร้องจากตะวันตก

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

นับตั้งแต่เริ่มมีการระบาดของโควิด-19 สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ยกระดับการดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวของตนเพื่อกดดัน รวมทั้งควบคุมประเทศต่าง ๆ และภูมิภาคอื่นทั่วโลก

ในช่วงปีที่ผ่านมา จีนได้เข้ายึดครองภูมิภาคชายแดนของอินเดีย ผลักดันการอ้างสิทธิ์ที่ผิดกฎหมายในทะเลจีนใต้ เพิ่มการคุกคามทางทหารต่อไต้หวัน อีกทั้งยังปราบปรามและกำหนดให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดกดขี่ของจีนกับฮ่องกง ท่ามกลางการรุกรานฝ่ายเดียวครั้งอื่น ๆ

นอกจากกิจกรรมเชิงบีบบังคับดังกล่าวแล้ว นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ยังกล่าวหาว่าสหรัฐอเมริกายัดเยียดกฎหมายของตนแก่ประเทศอื่นด้วย

นายสี กล่าวในการปราศรัยที่บันทึกไว้ล่วงหน้า (ภาพ) บนหน้าจอวิดีโอที่มีเดียเซ็นเตอร์ ซึ่งออกอากาศเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2564 ผ่านลิงก์วิดีโอจากโป๋อ่าว ในมณฑลไห่หนานของจีนว่า “จะหนึ่งประเทศหรือสองสามประเทศก็ไม่ควรบังคับใช้กฎหมายของตนต่อผู้อื่น และโลกไม่ควรถูกชักนำด้วยการกระทำฝ่ายเดียวของเพียงไม่กี่ประเทศ” ตามรายงานของบลูกเบิร์ก นักวิเคราะห์กล่าวว่า นายสีกำลังหมายความถึงสหรัฐฯ

นายสีได้กล่าววิจารณ์ทางอ้อมในระหว่างการประชุมเอเชียโป๋อ่าว ซึ่งเป็นการประชุมประจำปีที่จัดขึ้นโดยสภาเศรษฐกิจโลก

ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ได้ทำงานร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในระดับพหุภาคี เพื่อส่งเสริมอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เช่น การที่พันธมิตรและหุ้นส่วนของสหรัฐฯ ซึ่งได้แก่ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ได้ดำเนินการเสริมสร้างเสรีภาพในการฝึกซ้อมเดินเรือในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรับรองถึงความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก

นอกจากนี้ นายสียังอ้างว่า “สิ่งที่เราต้องการในโลกปัจจุบันคือความยุติธรรม ไม่ใช่การใช้อำนาจครอบงำ”

ตามรายงานข่าวระบุว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์ความคิดเห็นของนายสีเป็นจำนวนมากในทวิตเตอร์

นายซาลีห์ ฮูดายาร์ ผู้ก่อตั้งขบวนการเพื่อการตื่นรู้แห่งชาติเตอร์กิสถานตะวันออกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทวีตข้อความว่า โลกต้องการความยุติธรรมโดยการดำเนินคดีกับนายสีและเจ้าหน้าที่จีนคนอื่น ๆ ที่ศาลอาญาระหว่างประเทศ “ข้อหาออกคำสั่งฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของ #อุยกูร์ และชาวเติร์กอื่น ๆ ใน #เตอร์กิสถานตะวันออก ที่ถูกยึดครอง

ประเทศตะวันตกหลายประเทศ รวมทั้งสหรัฐอเมริกากล่าวหาว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นผู้กระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์ในภูมิภาคซินเจียงของจีน ด้วยการบังคับให้ทำหมันและทำแท้ง ทำการทรมาน ใช้แรงงานบังคับ พรากเด็กจากครอบครัว และกักขังชาวอุยกูร์มากกว่า 1 ล้านคนในค่ายที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนอ้างว่าเป็น “ศูนย์ฝึกอาชีพ” นอกจากนี้ ประเทศตะวันตกยังได้ประณามพรรคคอมมิวนิสต์จีนเกี่ยวกับเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในฮ่องกง ทิเบต และที่อื่น ๆ รวมถึงเรื่องการบีบบังคับไต้หวัน

ซึ่งพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงยืนยันว่าประเด็นเหล่านี้เป็นกิจการภายใน

นายสี กล่าวในการปราศรัยของตนว่า “การบงการผู้อื่นหรือการเข้าไปก้าวก่ายกิจการภายในของประเทศอื่น จะไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ”

นายศรีรัม ชอเลีย คณบดีวิทยาลัยนานาชาติจินดาลของมหาวิทยาลัย โอ.พี. จินดัล โกลบอล ในอินเดีย ทวีตข้อความตอบกลับว่า “ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียต้องการความยุติธรรมเรื่องการรุกรานดินแดนจากจีน ประชาชนใน #Xinjiang #Tibet และ #HongKong ต้องการความยุติธรรม ซึ่ง #XiJinping ควรหยุดสั่งสอนผู้อื่นและทบทวนนโยบายที่ไร้มนุษยธรรมของตนเอง”

นายชอเลียทวีตอีกว่า โลกยังต้องการความยุติธรรมในเรื่องที่จีนเป็นต้นเหตุการระบาดของโควิด-19 อีกด้วย ตามรายงานข่าว

จีนยังคงเดินหน้าผลักดันโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในต่างประเทศท่ามกลางการระบาดใหญ่ แม้จะมีความตึงเครียดด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นก็ตาม

นายโจว เสี่ยวชวน อดีตผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ยอมรับว่าการระบาดใหญ่ครั้งนี้ทำให้ปัญหาหนี้ในประเทศกำลังพัฒนาที่มีส่วนในโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางนั้นแย่ลง ตามรายงานของบลูมเบิร์ก

ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เตือนจีนเกี่ยวกับแนวทางการปล่อยสินเชื่อและการลงทุนแบบเอารัดเอาเปรียบที่ผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ใช้แผนการทางการเงินที่เอาตัวรอดไม่ได้ โดยในเวลาต่อมาจะเป็นเพิ่มผลประโยชน์ทางการเมืองของจีนให้อยู่เหนือประเทศลูกหนี้

ภาพจาก: รอยเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button