เรื่องเด่น

การยึด โควิด-19 เป็นศูนย์กลาง

การเรียนรู้เบื้องต้นของเรดอาร์ออสเตรเลียและความท้าทายที่จะเกิดขึ้น

นางเคิร์สเตน เซเยอร์ส/เรดอาร์ออสเตรเลีย

การระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ให้คำจำกัดความใหม่แก่ยุคของเรา การแพร่ระบาดนี้ได้ท้าทายวิธีคิดและการปฏิบัติตัวเกี่ยวกับประเด็นด้านสาธารณสุขของเรา และยังได้เริ่มกำหนดร่องรอยของปัญหาเศรษฐกิจและความยากจนขึ้นใหม่ รวมถึงเปลี่ยนแปลงวิธีการที่มนุษย์เคลื่อนที่ภายในและระหว่างชายแดน ที่สำคัญที่สุดคือ การระบาดใหญ่นี้ได้ส่งผลต่อทุกเผ่าพันธุ์ ชนชั้น และเพศ นั่นคือต่อมนุษยชาติทั้งหมดโดยไม่เลือกฝักฝ่าย

เรดอาร์ออสเตรเลีย เป็นหน่วยงานตอบสนองด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศที่จัดหาบุคลากรที่มีทักษะและให้การฝึกอบรมเพื่อช่วยเหลือชุมชนในการวางแผน เตรียมตัว สร้างใหม่ และฟื้นฟู ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังวิกฤตและความขัดแย้ง เรดอาร์ออสเตรเลียภูมิใจที่จะให้การสนับสนุนด้านมนุษยธรรมแก่องค์กรหุ้นส่วนของเราทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ดีเด่นของเราคือบุคลากร บุคลากรของเรามอบจิตใจอันมีศักดิ์ศรี ความเมตตา และความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้แก่เหล่าผู้ที่มีความเสี่ยงมากที่สุด บุคลากรของเรามีจิตใจที่รักการบริการเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ถือเป็นสิทธิพิเศษที่เราได้รับเชิญให้ทำงานร่วมกับชุมชนท้องถิ่น

เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ทั่วโลก เมื่อโควิด-19 แพร่ระบาด ความสามารถของเราในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเพิ่มเติมแก่ชุมชนที่กำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตก็ถูกจำกัดขอบเขตลงทันที แม้ว่าจะมีบุคลากรที่มีทักษะตามความต้องการ เช่น การจัดการความเสี่ยงและการฟื้นฟูจากภัยพิบัติ สุขภาพและการปกป้อง แต่พวกเราส่วนใหญ่ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เนื่องจากเส้นทางการขนส่งทั่วโลกปิดลง

นายแดเนียล นอริเอกา (ขวา) จากโครงการความช่วยเหลือของออสเตรเลียและสมาชิกทีมตอบสนองด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดจากพายุหมุนเขตร้อนฮาโรลด์ในเมืองนัมบูคาเลวู-อิ-รา ประเทศฟิจิ เรดอาร์ออสเตรเลีย

การไม่สามารถเคลื่อนย้ายบุคลากรและทรัพย์สินของเราย่ำแย่ลงยิ่งกว่าเดิม เพราะผู้ให้บริการประกันภัยของโลกขาดความสามารถในการรับรองถึงการอพยพทางการแพทย์หรือการขนย้ายฉุกเฉิน ในขณะที่โลกของเราต้องหยุดชะงักลง เราตระหนักว่าเราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแนวทาง มิฉะนั้นเราคงทำได้เพียงเฝ้าดูอยู่ห่าง ๆ ในขณะที่ความเสี่ยงรุนแรงขึ้น

เรดอาร์ออสเตรเลียได้ตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ รวมถึงอีโบลา ไข้หวัดนก และซาร์ส โดยได้ส่งผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคไปช่วยเหลือในช่วงเวลาวิกฤต เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกันเพื่อช่วยต่อต้านการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือเค้าโครงวิธีการที่เรดอาร์ออสเตรเลียได้ปรับใช้การดำเนินงานและเอาชนะความท้าทายระหว่างทาง โดยมุ่งเน้นไปที่ภัยพิบัติแบบคู่ในแปซิฟิกใต้ และวิกฤตผู้ลี้ภัยในซีเรียและโรฮีนจา

นวัตกรรมและความคล่องตัว

การห้ามการเดินทาง การปิดน่านฟ้า และข้อจำกัดในตลาดประกันภัยที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วล้วนส่งสัญญาณให้ต้องมีการแก้ไขปัญหาการดำเนินงานแบบมีนวัตกรรมตั้งแต่ระยะแรกของการระบาดใหญ่ เรดอาร์ออสเตรเลียมีส่วนร่วมกับนายหน้าผู้เชี่ยวชาญในการปูทางไปสู่การจัดซื้อประกันภัยเพิ่มเติมเพื่อปกป้องการดำเนินงาน และทำงานร่วมกับรัฐบาลออสเตรเลียเพื่อระบุเส้นทางที่อาจเป็นไปได้ผ่านการห้ามการเดินทางของประเทศ

จำนวนเที่ยวบินทั่วโลกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญถือเป็นหนึ่งในอุปสรรคทางโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งของเรดอาร์ออสเตรเลีย เครือข่ายเที่ยวบินที่มีกำหนดการสำหรับแรงงานด้านมนุษยธรรมเป็นเสมือนสัญญาว่าจะให้สิทธิ์การเข้าถึง ผ่านการลงทะเบียนกับโครงการบริการร่วมของโครงการอาหารโลก ในทุกกรณี การมอบหมายงานให้บุคคลและคณะทำงานภายในอย่างชัดเจนควบคู่ไปกับรายงานความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอต่อองค์กรที่ใหญ่ขึ้น เป็นการรับรองให้เกิดความคล่องตัวตลอดช่วงเวลาแห่งการหยุดชะงัก

แปซิฟิก: การเตรียมความพร้อม และการปรับให้เข้ากับท้องถิ่น

ในขณะที่ประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกส่วนใหญ่รอดจากการติดเชื้อโควิด-19 และอัตราการเสียชีวิตที่สูงดังเช่นในประเทศอื่น แต่ประเทศเหล่านั้นต้องจัดการกับวิกฤตด้านสุขภาพภายในวิกฤตด้านมนุษยธรรมทั้งที่มีอยู่และทั้งที่เป็นวิกฤตใหม่

ในช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 พายุหมุนเขตร้อน ฮาโรลด์ หมวดหมู่ที่ 5 พัดทำลายทั่วทั้งแปซิฟิก ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชากรของวานูอาตูกว่าร้อยละ 30 ในเวลานั้น วานูอาตูไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 และมีการควบคุมชายแดนที่เข้มงวด แม้ว่าการควบคุมดังกล่าวอาจปกป้องประเทศจากโควิด-19 แต่ก็ได้ทำให้เส้นทางการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่มีอยู่ลดลง สำหรับเรดอาร์ออสเตรเลียและอีกหลายหน่วยงานในภาคส่วนนี้ นี่เป็นการเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเตรียมความพร้อมด้านการดำเนินงานที่เข้มแข็ง เพื่อสนับสนุนวิธีแก้ปัญหาที่นำโดยส่วนท้องถิ่น รัฐบาลวานูอาตูเป็นผู้นำการตอบสนองต่อพายุหมุนเขตร้อนฮาโรลด์ โดยได้รับการสนับสนุนจากแผนการเตรียมพร้อมและการรับมือที่นำมาใช้ใหม่และโครงสร้างพื้นฐานที่ทนต่อพายุหมุนที่พัฒนาขึ้นหลังจากพายุหมุนแพมใน พ.ศ. 2558

จากโครงการความช่วยเหลือของออสเตรเลียที่ได้รับเงินทุนจากรัฐบาลออสเตรเลีย เราได้ทำงานเคียงข้างรัฐบาลประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกอย่างน้อย 7 ประเทศและชุมชนของประเทศนั้น ๆ รวมถึงองค์กรส่วนท้องถิ่นและส่วนภูมิภาค เพื่อเสริมการเตรียมความพร้อมรับมือและขีดความสามารถในการตอบสนองต่อภัยพิบัติระดับชาติ ภารกิจนี้สนับสนุนการจัดทำแผนและขั้นตอนการจัดการภัยพิบัติระดับชาติ โดยเสริมสร้างความสามารถของประเทศในแปซิฟิกใต้หลายประเทศ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่ซับซ้อนและหลากหลาย

นางลิเทียนา มานา (ซ้าย) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขแผนกย่อยประจำคาดาวู ประเทศฟิจิ และนายแดเนียล นอริเอกา จากโครงการความช่วยเหลือของออสเตรเลียจัดกำหนดการตรวจเยี่ยมโดยทีมตอบสนองของสมาคมอนามัยเจริญพันธุ์และครอบครัวฟิจิไปยังหมู่บ้านบนเกาะในคาดาวู เรดอาร์ออสเตรเลีย

เรดอาร์ออสเตรเลียส่งตัวพนักงาน 20 คนเข้าประจำการในแปซิฟิกก่อนช่วงโควิด-19 เรามี 17 คนที่ยังทำงานอยู่ในพื้นที่และอีก 18 คนที่ทำงานระยะไกลในช่วงการระบาดใหญ่ เราตัดสินใจจะสนับสนุนบุคลากรของเราตั้งแต่เนิ่น ๆ ให้อยู่และทำงานเคียงข้างกับหุ้นส่วนแปซิฟิกของเราในจุดที่เป็นไปได้ ซึ่งรวมถึงการค้นหาและชักชวนคนในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกที่มีความสามารถและประสบการณ์ให้มาทำงานร่วมกับเรา เพื่อเพิ่มความเชี่ยวชาญในประเทศ

นี่คือตัวอย่างบางส่วนของวิธีการแก้ปัญหาในท้องถิ่นและในเชิงปฏิบัติ

การสรรหาผู้เชี่ยวชาญในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้มีการเข้าถึงและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว ความเข้าใจในบริบทและเครือข่ายที่ตนดำเนินงานเป็นสิ่งสำคัญในช่วงภัยพิบัติ พนักงานคนหนึ่งของเรดอาร์ออสเตรเลียในวานูอาตูอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเสบียงด้านมนุษยธรรม โดยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าเสบียงเหล่านั้นเป็นไปตามกฎระเบียบการนำเข้าระหว่างประเทศและระดับประเทศ รวมทั้งได้รับการแจกจ่ายอย่างเหมาะสม

กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติคาดการณ์ว่ามีความรุนแรงที่มีสาเหตุมาจากเพศภาวะเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ต่อปี ซึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดในช่วงโควิด-19 รวมถึงการปิดเมืองด้วย สำหรับประเทศในแปซิฟิกบางประเทศ การคาดการณ์เหล่านี้อาจเป็นเชิงอนุรักษ์นิยม นอกจากนี้ ผู้หญิงและเด็กผู้หญิงยังมีความเสียเปรียบ เนื่องจากหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพแปลงทรัพยากรที่ใช้เพื่อการดูแลสุขภาพทางเพศและการสืบพันธุ์ไปใช้เพื่อตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินแทน การปิดตัวลงของคลินิกสุขภาพและความล่าช้าหรือการยกเลิกบริการตามชุมชนทำให้ผู้หญิงและทารกมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายการติดตามและประเมินผลของเรดอาร์ออสเตรเลียช่วยติดตามกิจกรรมการเตรียมความพร้อม และตอบสนองในแง่ของการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ โดยร่วมมือกับสหพันธ์วางแผนครอบครัวแห่งโลกและกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ ซึ่งรวมถึงการเตรียมความพร้อมเครื่องมือการติดตามและประเมินผลเฉพาะของประเทศ และการสนับสนุนสมาชิกให้ทำการช่วยชีวิตและให้การดูแลสุขภาพทางเพศและการสืบพันธุ์ หากหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพอยู่ในจุดที่ไม่สู้ดีเนื่องจากโควิด-19

วิกฤตชาวโรฮีนจา: ความร่วมมือและการเข้าถึง

กลุ่มชาติพันธุ์ชาวโรฮีนจาประมาณ 1 ล้านคนที่ได้หลบหนีจากพม่าอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกในค๊อกซ์บาซาร์ของบังกลาเทศ โดยมีจำนวนผู้คนมากถึง 60,000 ถึง 90,000 คนต่อตารางกิโลเมตร ทำให้การเว้นระยะห่างทางสังคมในช่วงการระบาดใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ จำนวนคนที่แออัดเกินไป สุขาภิบาลที่จำกัด และหน่วยงานด้านการดูแลสุขภาพที่มีภาระมากเกินไป ทั้งหมดนี้ทำให้การเตรียมความพร้อมสำหรับการแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นสิ่งที่ท้าทาย ผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจารายแรกได้รับการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 และมีรายงานการเสียชีวิตครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2563 แม้ว่าค่ายจะเตรียมรับมือกับวิกฤตการณ์ด้านสุขภาพที่จะทำให้วิกฤตการณ์ด้านมนุษยธรรมอันยืดเยื้อเลวร้ายลง แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่รายงานโดยรวมยังคงอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำจนถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563 อย่างไรก็ตาม อัตราการตรวจโรคที่ต่ำอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เป็นเช่นนั้น

เรดอาร์ออสเตรเลียได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านมนุษยธรรมจำนวน 52 คนไปสนับสนุนวิกฤตผู้ลี้ภัยตั้งแต่ พ.ศ. 2560 ความร่วมมือและการประสานงานแบบหลายภาคส่วนและหลายหุ้นส่วนยังคงเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จ เจ้าหน้าที่ของเรดอาร์ออสเตรเลียหันเหความสนใจไปที่การเตรียมความพร้อมและการตอบสนองโควิด-19 ในค็อกซ์บาซาร์อย่างรวดเร็ว

เมื่อเทียบกับบริบทของแปซิฟิกที่ยังคงมีการควบคุมพลเรือนอยู่เพื่อสนับสนุนระเบียงทางมนุษยธรรม การเพิ่มการกำกับดูแลทางทหารในการเคลื่อนย้ายสินค้าในพม่ามีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการเข้าถึงทางมนุษยธรรมและห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งอาจเพิ่มความความเสี่ยงของโควิด-19 และการเสียชีวิตขึ้น พลเรือนและผู้นำทางการเมือง รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างความมั่นคงและหน่วยงานพิทักษ์กฎหมายและความยุติธรรม ยังคงเป็นกุญแจสำคัญในการทำให้การบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมสามารถดำเนินการต่อไปได้หรือไม่ได้

นายนีล โดเฮิร์ทตี (ซ้าย) วิศวกรไฮดรอลิกของเรดอาร์ออสเตรเลีย ร่วมฉลองการส่งออกซิเจนไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เพื่อเป็นศูนย์กักตัวและรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ในค็อกซ์บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ เรดอาร์ออสเตรเลีย

เรดอาร์ออสเตรเลียมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์อันสามารถสร้างขึ้นได้แม้ว่าจะมีความท้าทายอยู่ ซึ่งประกอบไปด้วย

วิศวกรไฮดรอลิกของเราที่ทำงานร่วมกับองค์การผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติในบังกลาเทศ ได้เปลี่ยนทิศทางงานของตนจากการสร้างแบบจำลองน้ำท่วมในช่วงมรสุมในค็อกซ์บาซาร์ มาเป็นการปรับเปลี่ยนจุดประสงค์การใช้งานของสถานอำนวยความสะดวกในค่ายเพื่อการแยกและกักกันโควิด-19 แทน

ผู้ประสานงานด้านการป้องกันการแสวงหาประโยชน์และการล่วงละเมิดทางเพศแห่งพม่าของกองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติของเรา ได้ช่วยเหลือในการกระจายข้อความเชิงป้องกันในศูนย์กักตัว รวมถึงทางดิจิทัลด้วย

ที่ปรึกษาด้านการเข้าถึงกิจการด้านมนุษยธรรมของเรากับสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติและพม่าช่วยจัดตั้งปฏิบัติการ ประเมินความต้องการ และเคลื่อนย้ายเสบียงด้านมนุษยธรรม บุคลากร และบริการไปยังประชากรที่ได้รับผลกระทบ

ที่ปรึกษาโครงการการปกป้องและความรับผิดชอบต่อประชากรพม่าของโครงการอาหารโลกของเรา ให้คำแนะนำและการฝึกอบรมเกี่ยวกับเพศและการปกป้องที่สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปเพราะโควิด-19

วิกฤตชาวซีเรีย: การเข้าถึงและการปกป้อง

วิกฤตโควิด-19 เกิดขึ้นในปีที่เก้าของความขัดแย้งในซีเรีย ประชาชนกว่า 13.2 ล้านคนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม รวมถึงผู้พลัดถิ่นภายในจำนวน 6.2 ล้านคนและผู้ที่มีความต้องการเฉียบพลัน 5 ล้านคน การรับรองเจตนารมณ์ทางการเมืองและความสามารถในการประสานงานการดำเนินการด้านมนุษยธรรมเป็นเรื่องท้าทายของวิกฤตการณ์ซีเรียมาอย่างยาวนาน และโควิด-19 ยังส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ดังกล่าวมากขึ้น ทำให้ผู้มีบทบาทด้านมนุษยธรรมแทบไม่สามารถดำเนินการได้ หากไม่มีเจตนารมณ์ทางการเมือง ผู้นำท้องถิ่นที่เข้มแข็ง และการประสานงานแบบพหุภาคีที่สอดคล้องกัน วิกฤตด้านมนุษยธรรมจะร้ายแรงขึ้น ซึ่งจะบ่อนทำลายทั้งเสถียรภาพของภูมิภาคและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและสังคมยิ่งขึ้นไปอีก

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 (รวมถึงผู้ลี้ภัยชาวซีเรียและผู้พลัดถิ่นภายใน) ในอิรัก เลบานอน ซีเรีย และตุรกี มีแนวโน้มว่าจะมากเกินกว่าที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการ โดยมีการติดตามการติดต่อและการตรวจหาเชื้ออย่างจำกัด การระบาดของโควิด-19 ไม่เพียงแต่เป็นหายนะต่อประชากรผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหน่วยงานและบริการด้านสุขภาพที่อ่อนแอลงอย่างรุนแรงอยู่แล้วด้วย บ่อยครั้งที่ความเสี่ยงต่อผู้หญิง เด็กผู้หญิง และคนชราเกิดขึ้นโดยเฉียบพลันเป็นพิเศษ

ด้วยความเข้าใจในเรื่องนี้ เรดอาร์ออสเตรเลียจึงให้ความสำคัญกับผู้คนที่มีทักษะและประสบการณ์ที่เหมาะสม เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาในทันทีต่อความท้าทายที่เกิดขึ้นจากโควิด-19 รวมถึง:

เจ้าหน้าที่ประสานงานความร่วมมือระหว่างพลเรือนและทหารทั้งซีเรียของสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมของเราทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างองค์การสหประชาชาติและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมดที่จำเป็น เพื่ออำนวยความสะดวกในการปกป้องสิ่งอำนวยความสะดวกและการเคลื่อนไหวทางมนุษยธรรมที่สำคัญ นี่เป็นการช่วยรักษาความสมบูรณ์ของห่วงโซ่อุปทานด้านมนุษยธรรมสู่ซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ และสนับสนุนการดำเนินการตามแผนการตอบสนองด้านมนุษยธรรมทั่วโลกกับโควิด-19 ซึ่งรวมถึงการรับประกันเส้นทางการอพยพทางการแพทย์สำหรับบุคลากรด้านมนุษยธรรมจากซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือไปยังเออร์บิลในอิรัก เมื่อจำเป็น

ที่ปรึกษาด้านเพศประจำจอร์แดนของโครงการอาหารโลกของเราให้การสนับสนุนโครงการฝึกอบรม พัฒนาเครือข่ายที่ยั่งยืน และปลูกฝังความตระหนักทางเพศที่เพิ่มขึ้นสู่ในโครงการต่าง ๆ เพื่อป้องกันการล่วงละเมิด การแสวงหาผลประโยชน์ และการคุกคามทางเพศ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่มีความรุนแรงอันมีสาเหตุมาจากเพศภาวะเพิ่มขึ้น

เจ้าหน้าที่ศูนย์พักพิงประจำตุรกีของข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติของเราได้ปรับปรุงการวางแผนสถานที่ เพื่อให้มั่นใจว่าโครงสร้างพื้นฐานสนับสนุนความต้องการของผู้พลัดถิ่นภายในที่อาจได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมถึงผู้สูงอายุและผู้พิการ เจ้าหน้าที่ยังได้เป็นผู้นำและสนับสนุนการวางแผนในสถานที่หลายแห่ง รวมทั้งกิจกรรมการฝึกอบรมที่ได้รับการออกมาให้เหมาะกับเมือง โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้มีบทบาทในท้องถิ่น

การเรียนรู้และมองไปข้างหน้า

‘ความท้าทายและโอกาสที่มีลักษณะเฉพาะอันเกิดจากการระบาดของโควิด-19 ยังคงเผยตัวออกมา วิกฤตการณ์ระดับโลกนี้ทำให้เรดอาร์ออสเตรเลียต้องมุ่งหน้าดำเนินการไปในสองเส้นทางที่ขนานกันอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด นั่นคือ รับรองให้เจ้าหน้าที่ของเราทั่วโลกมีความเป็นอยู่ที่ดี พร้อมกันนี้ยังยึดมั่นในความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อหุ้นส่วน และขยายออกไปถึงหลักการของมนุษยชาติ ความเป็นกลาง ความเท่าเทียมกัน และความเป็นอิสระ

วิกฤตนี้เป็นสิ่งที่ทดสอบความพยายามของเราในหลาย ๆ ด้านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อการจัดเตรียมการสนับสนุนการเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติให้กับชุมชนล่วงหน้า อีกทั้งยังเร่งรัดความแน่วแน่ของเราเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านมนุษยธรรม โดยการแสวงหาแนวทางแก้ไขปัญหาในท้องถิ่นในช่วงภัยพิบัติ เรายินดีปรีดากับความสำเร็จและถ่อมตนกับภารกิจที่เรายังคงต้องสานต่อ แต่ในทั้งสองกรณี ถือว่าเรากำลังเรียนรู้อยู่

นางเคิร์สเตน เซเยอร์ส เป็นประธานกรรมการบริหารของเรดอาร์ออสเตรเลีย บทความฉบับนี้เดิมตีพิมพ์ในลิเอซอน วารสารรายครึ่งปีเกี่ยวกับความร่วมมือด้านการจัดการภัยพิบัติและการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรม ซึ่งจัดทำโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านการจัดการภัยพิบัติและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยมีการเรียบเรียงเนื้อหาเพื่อให้เหมาะสมกับการนำเสนอของ ฟอรัม


ตัวตนของเรา

เรดอาร์ออสเตรเลีย เป็นองค์กรตอบสนองด้านมนุษยธรรมที่ให้การฝึกอบรมและมอบบุคลากรที่มีทักษะเพื่อทำงานร่วมกับชุมชนในการวางแผน เตรียมตัว สร้างใหม่ และฟื้นฟู ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังภัยพิบัติและความขัดแย้ง เรดอาร์ออสเตรเลียมีทะเบียนรายชื่อสมาชิกซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคมากกว่า 750 รายใน 76 กลุ่มทักษะโดยรวมถึงการจัดการความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การตอบสนองทางมนุษยธรรม การปกป้อง และการรักษาเสถียรภาพ เรดอาร์ออสเตรเลียก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2535 โดยนายเจฟ โดเบล วิศวกรซึ่งเรียกร้องให้เพื่อนร่วมอาชีพนำทักษะของพวกเขามาใช้ในการบรรเทาภัยพิบัติ วิสัยทัศน์ของนายโดเบลคือการส่งวิศวกรไปสนับสนุนชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในช่วงวิกฤตระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นไปได้จริงด้วยการสนับสนุนจากองค์กรผู้ก่อตั้ง 4 แห่ง ได้แก่ สถาบันวิศวกรออสเตรเลีย สถาบันวิศวกรรมงานสาธารณะออสเตรเลีย สถาบันที่ปรึกษาออสเตรเลีย และสถาบันผู้เชี่ยวชาญวิชาชีพออสเตรเลีย เรดอาร์ออสเตรเลียพึ่งพาการบริจาคสาธารณะและการสนับสนุนจากหน่วยงานก่อตั้ง หุ้นส่วนองค์กร และผู้บริจาคของรัฐบาล


บทเรียนที่ได้รับ

เรดอาร์ออสเตรเลียมีส่วนร่วมกับทีมติดตามและประเมินผลเพื่อปรับปรุงการเรียนรู้แบบตามเวลาจริงของเราเกี่ยวกับสิ่งที่กลายเป็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมอันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นั่นคือ การระบาดของโควิด-19 นี่คือสิ่งที่เราได้เรียนรู้มาจนถึงตอนนี้

การไม่ทำอะไรเลยไม่ใช่ทางเลือก เราทำการตัดสินใจเชิงยุทธศาสตร์ตั้งแต่ช่วงต้น ตราบใดที่ไม่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของบุคลากรที่เราส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่ เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้พวกเขาปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างราบรื่นหากพวกเขาเลือกที่จะอยู่ต่อ เราได้ส่งกลับเฉพาะผู้ที่เลือกกลับบ้าน มีความเสี่ยงสูงกว่า หรือหน่วยงานเจ้าบ้านระงับการดำเนินการ

การลงทุนในความร่วมมือของเราและการตอบสนองด้วยความพยายามและจิตวิญญาณอันเป็นหนึ่งเดียวกันความร่วมมือกันเหล่านี้ผูกพันไว้ด้วยความไว้วางใจที่เกิดขึ้นระหว่างบุคลากรของเรากับชุมชนและผู้นำที่ทุกคนร่วมงานด้วย การยืนหยัดเคียงข้างกันเพื่อเผชิญกับความท้าทายด้านมนุษยธรรมระดับโลกนี้เป็นคำสัญญาของเรา ไม่มีประเทศใดที่พ้นอันตราย

กฎเบื้องต้นของการปฐมพยาบาลคือ การรับรองถึงความปลอดภัยของตัวคุณเองสำหรับเรา เรากำลังตอบสนองต่อวิกฤตระหว่างประเทศในช่วงเวลาที่ชุมชนของเราเองกำลังประสบปัญหากับความวิตกกังวล ความหวาดกลัว และความไม่แน่นอน เรามีทีมงานที่ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสำนักงานใหญ่ในเมลเบิร์น สำนักงานส่วนภูมิภาคฟิจิและจอร์แดน รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของเรา มีความปลอดภัย มั่นคง และมีทรัพยากรที่เหมาะสมในการทำงานทางไกลและในรูปแบบใหม่

ในช่วงเวลาวิกฤต การสื่อสารที่มีความเห็นอกเห็นใจและแม่นยำจะขับเคลื่อนวัตถุประสงค์ที่มีร่วมกัน และระดมทรัพยากรไปสู่การบรรลุเป้าหมายขององค์กรโชคดีที่ร่องรอยการเดินทางทั่วโลกและประเด็นการปิดพื้นที่ชั่วคราว หมายความว่าพนักงานของเราได้มีประสบการณ์การทำงานทางไกลเมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้จัดตั้งจุดเช็คอินด้วยการสื่อสารแบบมีโครงสร้างกับพนักงานและเจ้าหน้าที่ที่ส่งตัวไปปฏิบัติงานผ่านทางโทรศัพท์ อีเมล และวิดีโอ เราตระหนักว่าความหลากหลายของพนักงานหมายความว่า พวกเขาจะมีความต้องการที่หลากหลาย ภายในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 พนักงานทั้งหมดของเราและเจ้าหน้าที่ที่ส่งตัวไปปฏิบัติงานหลายคนทำงานจากที่บ้าน รวมทั้งยังคงมีส่วนร่วมกับผู้บริจาคและดำเนินการการตอบสนองของเรา

ความมุ่งมั่นของเราในการปรับให้เข้ากับท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมีความคืบหน้าแล้ว เรามุ่งเน้นที่การเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบปฏิบัติการและระบบองค์กรในแปซิฟิก การสำรวจวิธีต่าง ๆ เพื่อเตรียมความพร้อมและให้การฝึกอบรมฉุกเฉินในระดับภูมิภาคและท้องถิ่น รวมทั้งการขยายความร่วมมือกับเรดอาร์อินเตอร์เนชันแนลของเรา ตลอดจนโครงการและการส่งกำลังร่วมกับเรดอาร์อินโดนีเซียและเรดอาร์อินเดีย

เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ชุมชนต่าง ๆ ต้องสามารถเป็นผู้นำการตอบสนองการจัดการกับภัยพิบัติของตนเอง และตอบสนองการร้องขอความช่วยเหลือได้การฟื้นตัวของวานูอาตูจากพายุหมุนแพมทำให้ประเทศสามารถสร้างการเตรียมความพร้อมและระบบการตอบสนองที่เข้มแข็งขึ้น อีกทั้งสร้างสถาปัตยกรรมที่พิสูจน์แล้วว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 และพายุหมุนโซนร้อน ฮาโรลด์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button