กองทหารฟิลิปปินส์สังหารผู้บัญชาการกบฏและช่วยเหลือตัวประกันคนสุดท้าย
กองทัพฟิลิปปินส์ระบุว่า กองทหารฟิลิปปินส์ได้สังหารผู้บัญชาการกบฏกลุ่มอะบูซัยยาฟคนหนึ่งซึ่งเป็นผู้ดำเนินการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่มานานหลายปี และได้ช่วยชีวิตเชลยชาวอินโดนีเซียหนึ่งในสี่คนสุดท้ายเอาไว้เมื่อปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564
นายอมาจัน ซาฮิดจวน ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้ด้วยอาวุธปืนกับนาวิกโยธินและเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยอาการเสียเลือดมากที่เกาะคาลูปัก ทางตอนใต้สุดของจังหวัดทาวี พล.ท. คอร์เลโต วินลวน จูเนียร์ ผู้บัญชาการกองทัพส่วนภูมิภาคกล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธอีก 2 คนหลบหนีไปพร้อมกับพาตัวประกันชาวอินโดนีเซียหนึ่งในสี่คนสุดท้ายไปด้วย แต่ในที่สุด กองทหารฟิลิปปินส์ก็ช่วยตัวประกันเอาไว้ได้
ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน ตำรวจได้ช่วยชีวิตชายชาวอินโดนีเซีย 3 คนไว้ โดยยังได้จับกุมหนึ่งในผู้กักขังตัวประกันของกลุ่มอะบูซัยยาฟบริเวณเลียบชายฝั่งของเมืองอูเบียนใต้ในทาวี
กองทัพฟิลิปปินส์กล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธอะบูซัยยาฟที่นำโดยนายซาฮิดจวนกำลังหลบหนีการโจมตีใกล้กับจังหวัดซูลู เมื่อเรือเร็วของกลุ่มถูกคลื่นยักษ์ซัดคว่ำลง
เจ้าหน้าที่ทหารคนหนึ่งกล่าวว่ากลุ่มติดอาวุธพยายามข้ามทะเลไปยังเกาะแทมบิซานในรัฐซาบาห์ของมาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อปล่อยตัวเชลยแลกกับค่าไถ่อย่างน้อย 5 ล้านเปโซ (ประมาณ 3.2 ล้านบาท) แต่กองทัพฟิลิปปินส์ทราบแผนการดังกล่าวและดำเนินการโจมตีลับ
เจ้าหน้าที่กล่าวกับดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส โดยไม่ประสงค์ออกนาม เนื่องจากไม่มีอำนาจในการพูดในที่สาธารณะ
พล.ท. วินลวนกล่าวว่า การช่วยชีวิตชายชาวอินโดนีเซียซึ่งเป็นตัวประกันกลุ่มสุดท้ายที่ทราบว่ากลุ่มอะบูซัยยาฟจับไว้ จะช่วยให้กองกำลังฝ่ายรัฐบาลยุติกบฏที่ต้องการเรียกค่าไถ่ได้
“จะไม่มีการไว้หน้าในปฏิบัติการทางทหารขนาดใหญ่และมุ่งเน้น เพราะตอนนี้เราไม่ต้องกังวลว่าเหยื่อที่ถูกลักพาตัวจะถูกโจมตีแล้ว” พล.ท. วินลวนกล่าวต่อผู้สื่อข่าว
พล.ท. วินลวนกล่าวว่ายังมีมือปืนของกลุ่มอะบูซัยยาฟในจังหวัดซูลูและเกาะรอบนอกเหลืออยู่ประมาณ 80 คน หนึ่งในผู้นำสูงวัยที่ยังเหลืออยู่ คือนายราดูลัน ซาฮิรอน มีอาการป่วยและได้รับบาดเจ็บในการรุกคืบล่าสุดที่จังหวัดซูลู พล.ท. วินลวนกล่าว (ภาพ: ในภาพถ่ายที่ไม่ระบุวันที่นี้ปรากฏภาพของนายอาบู ซาบายา โฆษกของกลุ่มอะบูซัยยาฟ (คนหน้าทางขวา) กับกลุ่มหัวรุนแรงติดอาวุธของตน)
นายซาฮิดจวนซึ่งใช้นามแฝงว่า อาปูห์ มิเค ถูกกล่าวโทษว่าเป็นผู้ดำเนินการลักพาตัวเรียกค่าไถ่มาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2542) มีรายงานว่านายซาฮิดจวนเป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มติดอาวุธอะบูซัยยาฟที่โจมตีเมืองอิพิลทางตอนใต้ซึ่งมีชาวคริสต์อาศัยอยู่เป็นส่วนใหญ่ใน พ.ศ. 2538 โดยสังหารผู้คนมากกว่า 50 ชีวิตหลังจากปล้นธนาคารและร้านค้า รวมทั้งเผาทำลายศูนย์กลางของเมืองซึ่งเป็นหนึ่งในการโจมตีที่อุกอาจที่สุดของกลุ่มนี้
กลุ่มอะบูซัยยาฟเป็นกลุ่มขนาดเล็กแต่หัวรุนแรง ซึ่งฟิลิปปินส์และสหรัฐอเมริกาได้ขึ้นบัญชีดำแยกกันในฐานะองค์กรก่อการร้ายที่มีการวางระเบิด การลักพาตัวเรียกค่าไถ่ และการตัดหัว กลุ่มย่อยบางส่วนของกลุ่มดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มรัฐอิสลาม
กองกำลังติดอาวุธนี้อ่อนแอลงอย่างมากจากการรุกรานของกองทัพ การยอมแพ้ และความล้มเหลวในการรบมาหลายปี แต่ยังคงเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงของชาติ กลุ่มติดอาวุธนี้ได้ก่อให้เกิดความตื่นกลัวในภูมิภาคเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่เริ่มออกเดินทางจากค่ายพักแรมในป่าที่จังหวัดซูลูซึ่งเป็นจังหวัดที่แร้นแค้นของชาวมุสลิมในประเทศที่ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแห่งนี้ และเปิดฉากลักพาตัวประกันในเมืองชายฝั่งของมาเลเซียโดยมุ่งเป้าไปที่ลูกเรือของเรือบรรทุกสินค้า
ภาพจาก: ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
