สิงคโปร์ต่อต้านโจรสลัดด้วยกองเรือรบเล็กทางทะเลกองใหม่
ชายสามคนจากเรือเล็กสองลำกระโดดขึ้นเรือท้องแบนติดธงชาติมาเลเซียที่กำลังมีการลากจูงผ่านช่องแคบสิงคโปร์เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ทั้งสามขโมยลวดเหล็กจำนวน 150 กิโลกรัมและขนย้ายไปยังเรือของตน ตามรายงานของศูนย์แบ่งปันข้อมูลของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย
โชคดีที่หน่วยลาดตระเวนรักษาความมั่นคงทางทะเลของกองทัพเรืออินโดนีเซียสังเกตเห็นเหตุการณ์ดังกล่าวและยึดเรือ พร้อมทั้งจับกุมคนห้าคนและเก็บกู้ลวดเหล็กที่ถูกขโมยไป นี่เป็นการปล้นทางทะเลครั้งที่ 5 บริเวณช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์ใน พ.ศ. 2564 ตามรายงานของความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย หลังจากเกิดเหตุการณ์การกระทำอันเป็นโจรสลัดจำนวน 34 ครั้งใน พ.ศ. 2563 ซึ่งถือเป็นจำนวนครั้งที่มากที่สุดในรอบ 5 ปี
การปล้นที่เพิ่มขึ้นได้กระตุ้นความเป็นผู้นำของสิงคโปร์และกระตุ้นให้กองทัพเรือของสิงคโปร์เริ่มใช้กองเรือรบเล็กเพื่อความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเล เพื่อต่อต้านการปล้นทางทะเล การกระทำอันเป็นโจรสลัด และการบุกรุกเข้าสู่น่านน้ำของสิงคโปร์โดยไม่ได้รับอนุญาต
“กองเรือรบเล็กเพื่อความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเลจะเสริมสร้างขีดความสามารถของสิงคโปร์ในการจัดการกับภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเล ซึ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นและมีความซับซ้อนขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา” น.ท. ลี จุน เม็ง ผู้บัญชาการกองเรือรบเล็กเพื่อความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเล กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “ขีดความสามารถที่เพิ่มเข้ามาจะทำให้เรามีความพร้อมรับมือมากขึ้นและมีการตอบสนองที่หลากหลายขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้เราส่งกำลังพลไปปกป้องน่านน้ำอาณาเขตของสิงคโปร์ได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้น”
ในเบื้องต้น กองเรือรบเล็กจะประกอบด้วยเรือรักษาความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเลชั้นเซนทิเนลตกแต่งใหม่ 4 ลำและเรือลากจูงเพื่อความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเล 2 ลำ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ ทั้งนี้ จะเริ่มเพิ่มจำนวนเรือใหม่ใน พ.ศ. 2569 เรือของกองเรือรบเล็กทุกลำจะมีแถบสีแดงบริเวณหัวเรือตามอนุสัญญาว่าด้วยความมั่นคงทางทะเลระหว่างประเทศ
เรือรักษาความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเลชั้นเซนทิเนลความยาว 47 เมตรจะติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารที่ปรับปรุงแล้ว ระบบเตือนภาพและเสียงที่พัฒนาขึ้น รวมทั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ เรือที่จะเพิ่มเข้ามาในอนาคตอยู่ระหว่างการออกแบบโดยจะมีขนาดใหญ่กว่าและมีประสิทธิภาพมากกว่าเรือรักษาความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเลชั้นเซนทิเนลดังกล่าว (ภาพ: มีการเปิดตัวหน่วยพิทักษ์เรือรักษาความมั่นคงและการตอบสนองทางทะเลชั้นเซนทิเนลในพิธีหนึ่งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2564 ที่ฐานทัพเรือชางงี ประเทศสิงคโปร์)
ดร. เอิง เอ็ง เฮ็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ คาดการณ์ว่ากองเรือรบเล็กดังกล่าวจะเริ่มดำเนินบทบาทในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ขณะประกาศปรับโครงสร้างกองกำลังเฉพาะกิจด้านความมั่นคงทางทะเลของกองทัพเรือสิงคโปร์ ดร. เอิงกล่าวว่า จะมีการเคลื่อนกำลังเรือลาดตระเวนของกองเรือรบเล็กเพื่อป้องกันน่านน้ำอาณาเขตของสิงคโปร์ “อย่างต่อเนื่องมากขึ้น” โดยเสริมว่า กองทัพเรือและหน่วยยามชายฝั่งของอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยกำลังดำเนินการร่วมกันเพื่อต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดข้ามชาติ การปล้น และภัยคุกคามความมั่นคงทางทะเลอื่น ๆ
ทั้งสี่ประเทศเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยลาดตระเวนบริเวณช่องแคบมะละกา ซึ่งดำเนินการลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศเป็นประจำควบคู่ไปกับการฝึกอบรมและการฝึกซ้อมร่วม
นายทอม แอบกี เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากประเทศสิงคโปร์
ภาพจาก: กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์
