คณะรัฐบาลของนายไบเดนชี้ จีนเป็น “บททดสอบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุด” สำหรับสหรัฐฯ
นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า “การแข่งขันกับจีนที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” เป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญ โดยนักการทูตระดับสูงของนายไบเดนอธิบายว่า รัฐบาลเผด็จการจีนเป็น “บททดสอบทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุด” แห่งศตวรรษนี้
คณะรัฐบาลของสหรัฐฯ แสดงจุดยืนของตนในเอกสารจำนวน 24 หน้าที่ระบุถึงนโยบายความมั่นคงแห่งชาติของนายไบเดน ประธานาธิบดี พร้อมกับการปราศรัยนโยบายต่างประเทศที่สำคัญครั้งแรกของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
เอกสารด้านความมั่นคงแห่งชาติระบุถึงสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า “เป็นคู่แข่งเพียงหนึ่งเดียวที่สามารถรวมอำนาจทางเศรษฐกิจ การทูต การทหาร และเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างความท้าทายให้คงอยู่ต่อไปต่อระบอบของนานาชาติที่มั่นคงและเปิดกว้าง”
โดยเสริมว่า ในการเผชิญกับความท้าทายจากจีนและรัสเซีย กองทัพสหรัฐฯ จะเปลี่ยนการมุ่งเน้นจาก “ยานรบและระบบอาวุธเก่า ๆ ที่ไม่จำเป็น ไปที่การเพิ่มทรัพยากรสำหรับการลงทุน” ในเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
สหรัฐอเมริกาและจีนมีความขัดแย้งด้านอิทธิพลในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก การปฏิบัติทางเศรษฐกิจของรัฐบาลจีน ฮ่องกง ไต้หวัน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีน
“ความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับจีนจะเป็นการแข่งขันกันในยามที่ควรเป็น ร่วมมือกันในยามที่ทำได้ และเป็นปฏิปักษ์กันในยามที่จำเป็น” นายบลิงเคนกล่าวที่งานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
การมีส่วนร่วมกับจีน “ด้วยสถานะที่เป็นต่อ” ตามที่คณะรัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจะทำ “จำเป็นต้องอาศัยการยืนหยัดเพื่อค่านิยมของเราเมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง หรือเมื่อมีการเหยียบย่ำระบอบประชาธิปไตยในฮ่องกง เพราะหากเราไม่ทำเช่นนั้น จีนจะยิ่งกระทำการอย่างไม่กลัวเกรงมากขึ้น” นายบลิงเคนกล่าว
นายบลิงเคนกล่าวว่าเห็นด้วยกับความมุ่งมั่นของนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้ดำรงตำแหน่งคนก่อนหน้า ที่ว่ากำลังมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมในซินเจียง แต่นายบลิงเคนไม่ได้ใช้คำนี้ในการปราศรัยของตน
นักเคลื่อนไหวและผู้เชี่ยวชาญขององค์การสหประชาชาติกล่าวว่า มีชาวมุสลิมอุยกูร์ 1 ล้านคนถูกคุมขังอยู่ในค่ายของจีน จีนปฏิเสธว่าไม่มีการละเมิดและกล่าวว่าค่ายเหล่านั้นเป็นที่ฝึกอบรมอาชีพ ซึ่งจำเป็นต้องมีเพื่อต่อสู้กับลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่ง
แม้ว่านายบลิงเคนจะกล่าวถึงพม่า อิหร่าน และความขัดแย้งในเยเมนว่าเป็นความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น แต่จีนเป็นเพียงประเทศเดียวที่ถูกระบุให้เป็นหนึ่งในแปดสิ่งที่มีลำดับความสำคัญสูงสุด ซึ่งยังรวมถึงการหลีกเลี่ยงการแพร่ระบาดทั่วโลกอีกครั้ง การรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และการส่งเสริมประชาธิปไตยในต่างประเทศ
ภาพจาก: ไอสต็อก