ติดอันดับ

พรรคคอมมิวนิสต์จีนพยายามลดความรู้สึกต่อต้านรัฐบาลด้วยหลักสูตร “แนวคิดของนายสี”

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เด็กนักเรียนทั่วทั้งจีนแผ่นดินใหญ่ รวมถึงในเขตปกครองตนเองฮ่องกง จะเริ่มได้รับการเรียนการสอนอย่างเข้มข้นเกี่ยวกับอุดมการณ์ของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า “แนวคิดของนายสี จิ้นผิง เกี่ยวกับสังคมนิยมลักษณะเฉพาะแบบจีนสำหรับยุคใหม่” ตามข้อมูลจากคำสั่งฉบับใหม่

อุดมการณ์ของนายสีได้รับการคุ้มครองไว้ในรัฐธรรมนูญของสาธารณรัฐประชาชนจีนใน พ.ศ. 2561 และเมื่อไม่นานมานี้ สื่อของรัฐจีนได้เริ่มเรียกขานปรัชญาทางการเมืองของนายสีว่า “แนวคิดของนายสี จิ้นผิง” หรือ “แนวคิดของนายสี” ตามแบบอย่างนายเหมา เจ๋อตง อดีตประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งแนวคิดของนายเหมา เจ๋อตง ได้รับการบรรจุไว้ในรัฐธรรมนูญจีนและได้รับการส่งเสริมอย่างจริงจังโดยกองทัพ กรมโฆษณาชวนเชื่อ และยุวชนกองกำลังพิทักษ์แดงระหว่างช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมจีน พ.ศ. 2505 – 2519 นักวิเคราะห์กล่าวว่า แนวคิดของนายสีแบบใหม่นี้เป็นเพียงความพยายามครั้งล่าสุดในการปราบปรามการประท้วงต่อต้านรัฐบาลของฝ่ายสนับสนุนประชาธิปไตย เช่นที่เกิดขึ้นในฮ่องกงเกือบตลอด พ.ศ. 2562

คณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ออกแนวนโยบายเพื่อเรียกร้องให้มีการส่งเสริมการศึกษาเชิงอุดมการณ์ในกลุ่มยุวชนจีนบุกเบิก ซึ่งเป็นองค์กรเยาวชนแห่งชาติในสังกัดพรรครัฐบาล “องค์กรแห่งชาตินี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนโรงเรียนขนาดใหญ่ ซึ่งจะพัฒนาบุคลิกลักษณะและทักษะทุกประเภทของสมาชิก รวมถึงความรักที่มีต่อพรรค มาตุภูมิ และประชาชนชาวจีน” นายสีกล่าว ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี

กลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกซึ่งก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2492 ประกอบด้วยเด็กชาวจีนอายุ 6 ถึง 14 ปีเกือบทั้งหมด โดยมีการสอนให้เด็กเหล่านั้นปฏิบัติตามและเชื่อฟังพรรคคอมมิวนิสต์จีน เด็กที่เรียนอยู่ในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 1 และ 2 จะได้ทำกิจกรรมของกลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกตามแนวคิดของนายสีหนึ่งคาบต่อสัปดาห์ ตามรายงานของบลูกเบิร์กเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายเควิน หยวน เลขาธิการการศึกษาฮ่องกง ประกาศมาตรการใหม่ให้สถานศึกษาเป็นฝ่ายรับผิดชอบหากไม่มีการรายงานการละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งยังเป็นที่ถกเถียงภายในบริเวณสถานศึกษา ประกาศของฮ่องกงระบุว่า ครูอาจารย์และนักเรียนนักศึกษาจะต้องรายงานให้ตำรวจทราบหากพบเห็นการทำกิจกรรม เช่น การท่องคำขวัญต่อต้านพรรคหรือการสร้างลูกโซ่มนุษย์ ซึ่งนักเรียนนักศึกษาบางคนทำในช่วงที่เกิดความไม่สงบทางสังคมใน พ.ศ. 2562 บีบีซีรายงาน

นายหวง เสี่ยวหมิน นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชียว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกมีความเป็นชมรมเยาวชนมากขึ้นและเป็นองค์กรทางการเมืองน้อยลง

“มีความรู้สึกว่ากลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกเริ่มไม่น่าเชื่อถือในฐานะองค์กรทางการเมือง และไม่สามารถไว้วางใจให้ทำงานสำคัญ” นายหวงกล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย “ทันใดนั้นกลุ่มนี้ก็รู้สึกตัวขึ้นมาว่าไม่อาจพลาดโอกาสนี้” เพื่อมีส่วนร่วมในการปลูกฝังแนวคิดทางการเมืองให้แก่เด็ก ๆ ในชาติ

กลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกจะสอนประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจีนให้แก่เด็กเล็ก ขณะที่เด็กโตจะได้รับฟังความสำคัญของสถาบันต่าง ๆ เช่น กองทัพปลดปล่อยประชาชน ซีเอ็นเอ็นรายงาน (ภาพ: กลุ่มยุวชนจีนบุกเบิกเข้าร่วมพิธีชูธงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในวันครบรอบ 71 ปีของการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2563 ณ กรุงปักกิ่ง)

ที่ปรึกษาสูงสุดคนหนึ่งของนางแคร์รี แลม ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง กล่าวกับซีเอ็นเอ็นในช่วงตึงเครียดของเหตุการณ์ความไม่สงบเมื่อ พ.ศ. 2562 ว่า บุคคลสำคัญที่สนับสนุนรัฐบาลได้กล่าวโทษหลักสูตรการศึกษาแบบเสรีนิยมและครูอาจารย์ที่ทำให้เยาวชนของจีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นพวก “หัวรุนแรง” และหันมาต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“ปัญหาพื้นฐานคือคุณมีเยาวชนทั้งรุ่นที่ไม่เพียงต่อต้านจีนอย่างสุดตัว แต่ยังเกลียดจีนมากด้วย” ที่ปรึกษาคนดังกล่าวระบุกับซีเอ็นเอ็นโดยไม่เปิดเผยตัวตน “คุณจะใช้แนวทาง ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ’ ได้อย่างไร หากคนทั้งรุ่นเกลียดประเทศนั้น”

อย่างไรก็ตาม ชาวเมืองและนักวิเคราะห์ในจีนแผ่นดินใหญ่กลุ่มหนึ่งเรียกมาตรการปลูกฝังแนวคิดเหล่านี้ว่าเป็นความพยายามในการยับยั้งการคัดค้านและการประท้วงการกระทำของจีนที่เพิ่มขึ้น และกล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์จีนควรมุ่งเน้นไปที่ประเด็นที่สำคัญกว่า เช่น การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

“เป็นเรื่องน่าขันที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับอุดมการณ์ ขณะที่ประชาชน 1.4 พันล้านคนในประเทศนี้กำลังเผชิญทุกปัญหาเดียวกันเฉกเช่นคนอื่น ๆ ในโลกขณะนี้” ชาวเมืองไท่หยวนคนหนึ่งในจังหวัดซานซีทางตอนเหนือของจีนซึ่งเปิดเผยเพียงว่าตนนามสกุลหวัง กล่าวกับเรดิโอฟรีเอเชีย “หากฉันมีลูกที่กำลังเรียนอยู่ ฉันจะไม่มีวันให้ลูกเข้าร่วมกลุ่มยุวชนจีนบุกเบิก”

 

ภาพจาก: เก็ตตี้อิมเมจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button