มองภูมิภาคแผนก

ปาเลา: สหรัฐฯ ได้รับการตอบรับให้สร้างฐานทัพทหาร ท่ามกลางความกดดันจากอิทธิพลของจีน

ประเทศแปซิฟิกขนาดเล็กอย่างปาเลาได้เร่งให้กองทัพสหรัฐอเมริกาสร้างฐานทัพบนดินแดนของตน ซึ่งตั้งอยู่ในภูมิภาคที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังตอบโต้ความพยายามขยายอิทธิพลของสาธารณรัฐประชาชนจีน

นายมาร์ค เอสเปอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 และกล่าวหาจีนว่า “ดำเนินการกิจกรรมก่อความไม่มั่นคง” ในอินโดแปซิฟิก

นายโธมัส เรเมเงเซา ประธานาธิบดีปาเลา กล่าวกับนายเอสเปอร์ว่ายินดีให้กองทัพสหรัฐฯ สร้างฐานทัพในประเทศของตน ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่อยู่ห่างจากฟิลิปปินส์ไปทางตะวันออกประมาณ 1,500 กิโลเมตร

“คำขอของปาเลาต่อกองทัพสหรัฐฯ ยังคงเรียบง่าย นั่นคือการสร้างฐานทัพสำหรับใช้งานร่วม จากนั้นก็มาใช้งานอย่างสม่ำเสมอ” นายเรเมเงเซา กล่าวในจดหมายถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

ข้อความกล่าวไว้ว่าประเทศที่มีประชากร 22,000 คนแห่งนี้เปิดรับการสร้างฐานทัพบนบก สิ่งอำนวยความสะดวกทางท่าเรือ และสนามบิน นายเรเมเงเซายังได้เสนอแนะให้กองกำลังรักษาชายฝั่งสหรัฐฯ ประจำการในปาเลาเพื่อช่วยลาดตระเวนเขตอนุรักษ์ทางทะเลอันกว้างใหญ่ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่ปาเลาจะตรวจสอบ แม้ว่าปาเลาจะเป็นประเทศเอกราช แต่กลับไม่มีกองทัพ และสหรัฐฯ มีความรับผิดชอบในการป้องกันประเทศแห่งนี้ภายใต้ข้อตกลงที่เรียกว่า สัญญาความสัมพันธ์เสรี

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว กองทัพสหรัฐฯ จะสามารถเข้าถึงหมู่เกาะแห่งนี้ได้ แม้ว่าจะไม่มีทหารประจำการอยู่ที่นั่นอย่างถาวรก็ตาม

“เราควรใช้กลไกของสัญญาดังกล่าวเพื่อตั้งฐานทัพประจำของกองทัพสหรัฐฯ ในปาเลา” นายนายเรเมเงเซากล่าว โดยเสริมว่า ฐานทัพในปาเลาจะเพิ่มความพร้อมให้กองทัพสหรัฐฯ และช่วยเหลือเศรษฐกิจในประเทศซึ่งกำลังประสบปัญหาเนื่องจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศหยุดชะงัก

นอกเหนือจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสหรัฐฯ แล้ว ปาเลายังเป็นหนึ่งในสี่พันธมิตรของไต้หวันในแปซิฟิกด้วย

พรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งมองว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ได้พยายามเอาชนะใจพันธมิตรของรัฐบาลไต้หวันในแปซิฟิกโดยการชักชวนให้หมู่เกาะโซโลมอนและคิริบาตีเปลี่ยนฝ่ายใน พ.ศ. 2562

ปาเลาได้ปฏิเสธ ซึ่งส่งผลให้จีนสั่งห้ามนักท่องเที่ยวชาวจีนไปปาเลาใน พ.ศ. 2561

“ส่วนหนึ่งแล้วดูเหมือนว่าประธานาธิบดีเรเมเงเซาจะมองว่านี่เป็นทางออกทางเศรษฐกิจที่เป็นไปได้ในการรับมือกับการพึ่งพาการท่องเที่ยวอย่างมากของปาเลา ซึ่งรวมถึงการท่องเที่ยวของชาวจีน” นางแอนนา พาวส์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในแปซิฟิกจากมหาวิทยาลัยแมสซีของประเทศนิวซีแลนด์กล่าว

นายเรเมเงเซากล่าวกับนายเอสเปอร์ว่า “ผู้มีบทบาทที่ทำให้เกิดความวุ่นวายได้เดินหน้าใช้ประโยชน์” จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับไวรัสซึ่งประเทศหมู่เกาะขนาดเล็กกำลังประสบอยู่ โดยไม่ได้เอ่ยชื่อจีน
เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button