ติดอันดับ

ฐานข้อมูลที่รั่วไหลแสดงให้เห็นถึงการแทรกซึมไปทั่วโลกของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนสาขาต่าง ๆ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เอกสารที่รั่วไหลเผยให้เห็นถึงการแทรกซึมไปทั่วโลกของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งมีสมาชิกพรรคเกือบ 2 ล้านคนที่เข้าร่วมในบริษัทข้ามชาติ สถานกงสุลต่างประเทศ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ตามรายงานของสมาชิกสภานิติบัญญัติและองค์กรสื่อ

นายลุค เดอ พอลฟอร์ด นักเคลื่อนไหวและผู้ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนชาวอังกฤษของสหภาพรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรจีน กล่าวกับสำนักข่าวนิกเคอิเอเชียเมื่อปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 ว่า “ผู้สังเกตการณ์ประเทศจีนรู้ดีว่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์แทรกซึมอยู่ในรัฐบาลและธุรกิจต่าง ๆ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีรายชื่อที่พิสูจน์ได้”

ทะเบียนที่รั่วไหลของสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน 1.95 ล้านคนระบุชื่อ วันเกิด ตำแหน่งในพรรค หมายเลขประจำตัวประชาชน และเชื้อชาติ ตามรายงานของสำนักข่าวอินโด-เอเชียน นิวส์ เซอร์วิส มีรายงานว่า ผู้คัดค้านชาวจีนได้ลบข้อมูลออกจากเซิร์ฟเวอร์ในเซี่ยงไฮ้เมื่อ พ.ศ. 2559 และส่งต่อให้แก่สหภาพรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรจีนและกลุ่มสื่อนานาชาติในภายหลัง

สหภาพรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรจีนก่อตั้งขึ้นในช่วงกลาง พ.ศ. 2563 และมีสมาชิกสภานิติบัญญัติจากทวีปแอฟริกา อเมริกา ยุโรป และอินโดแปซิฟิก ภารกิจของสหภาพรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรจีนส่วนหนึ่งคือ “ช่วยสร้างแนวทางเชิงรุกและเชิงยุทธศาสตร์” เกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสาธารณรัฐประชาชนจีนโดยมุ่งเน้นไปที่ด้านต่าง ๆ เช่น การเพิ่มความมั่นคง การปกป้องสิทธิมนุษยชน และการปกป้องความสงบเรียบร้อยตามกฎระเบียบระหว่างประเทศ

นายชาร์รี มาร์กสัน นักข่าวสืบสวนของหนังสือพิมพ์ดิออสเตรเลียน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรสื่อที่มีเอกสารที่รั่วไหลดังกล่าวระบุว่า “สิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับฐานข้อมูลนี้ไม่ใช่เพียงแค่การเปิดเผยสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งขณะนี้อาศัยและทำงานอยู่ทั่วโลกตั้งแต่ออสเตรเลีย สหรัฐฯ ไปจนถึงสหราชอาณาจักร แต่ฐานข้อมูลดังกล่าวน่าทึ่งเพราะเผยให้เห็นถึงวิธีการดำเนินงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ภายใต้การปกครองของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรค

นอกจากนี้ ทะเบียนดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่า มีการจัดตั้งสาขาพรรคคอมมิวนิสต์จีนภายในบริษัทต่าง ๆ ประมาณ 79,000 สาขาซึ่ง “ช่วยให้สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่รับคำสั่งโดยตรงจากพรรคและนายสีแทรกซึมไปยังบริษัทต่าง ๆ หากได้รับเลือก” นายมาร์กสันระบุไว้ในรายงานสำหรับสกายนิวส์ในออสเตรเลียเมื่อกลางเดือนธันวาคม

บริษัทเหล่านี้ได้แก่ ผู้รับเหมาด้านกลาโหม ผู้ผลิตรถยนต์ ธนาคาร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม และผู้ผลิตยา ตามรายงานของสื่อ โดยมีบริษัทเภสัชกรรมอย่างน้อยสองแห่งที่พัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาและกำลังแจกจ่ายให้แก่หลายประเทศในขณะนี้

พรรคคอมมิวนิสต์จีนมีจำนวนสมาชิกประมาณ 92 ล้านคน ซึ่งนับเป็นร้อยละ 6.5 ของประชากรจีน (ภาพ: คณะผู้แทนจากพรรคคอมมิวนิสต์จีนเข้าร่วมพิธีปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติในกรุงปักกิ่งเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563)

มีสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนประมาณ 5,000 คนในญี่ปุ่น โดยเป็นพนักงานของบริษัทหรือบริษัทในเครือเกือบ 300 แห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในสายการผลิต ตามรายงานของนิกเคอิเอเชีย นายยาสึฮิโระ มัตสึดะ ศาสตราจารย์ด้านการเมืองระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยโตเกียว กล่าวกับสำนักข่าวภาษาอังกฤษแห่งนี้ว่า “หากสมมติว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกคำสั่งให้รวบรวมข้อมูลข่าวกรอง เหล่าสมาชิกจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมปฏิบัติตาม”

สถานเอกอัครราชทูตจีนในญี่ปุ่นปฏิเสธรายงานเกี่ยวกับฐานข้อมูลดังกล่าวโดยระบุว่าเป็นเท็จ “เจตนารมณ์ที่แท้จริงของรายงานเหล่านั้นคือการสร้างความเป็นปรปักษ์ต่อจีนและปลุกปั่นให้เกิดการปะทะกันทางอุดมการณ์” สถานเอกอัครราชทูตจีนในญี่ปุ่นระบุในแถลงการณ์ที่ออกให้แก่นิกเคอิเอเชีย

นายมาร์กสันกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานที่ยืนยันว่าสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ระบุในทะเบียนเป็นสายลับ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือบริษัทและรัฐบาล “รู้จักสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนหรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้น มีการดำเนินการขั้นตอนใด ๆ เพื่อปกป้องข้อมูลและบุคลากรของตนหรือไม่”

ผู้สังเกตการณ์กล่าวว่า การเปิดเผยครั้งนี้ช่วยให้รูปแบบความพยายามในการแทรกซึมและสร้างอิทธิพลต่อองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั้งแบบเปิดเผยและซ่อนเร้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เพิ่มความเข้มงวดในการจำกัดวีซ่าสำหรับสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีนและครอบครัว เพื่อตอบโต้ “การแทรกแซงโดยเจตนาร้ายของพรรคคอมมิวนิสต์จีนทั้งในกิจการด้านการเมืองภายในประเทศ เสรีภาพทางวิชาการ ความเป็นส่วนตัวของบุคคล หรือกิจกรรมทางธุรกิจ”

ในแถลงการณ์ของสองพรรคที่ออกในเดือนธันวาคมนั้น นายมาร์โค รูบิโอ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ และนายมาร์ค วอร์เนอร์ ผู้รักษาการตำแหน่งประธานและรองประธานคณะกรรมาธิการคัดเลือกด้านข่าวกรองแห่งวุฒิสภาสหรัฐฯ ตามลำดับ ได้อ้างถึงการแทรกซึม “โดยเจตนาและแอบแฝง” ของรัฐบาลจีนในสังคมสหรัฐฯ นอกจากนี้ นายรูบิโอยังเป็นประธานร่วมของสหภาพรัฐสภาของกลุ่มพันธมิตรจีนอีกด้วย

“ข่าวกรองของเราชัดเจนว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะไม่หยุดขยายอิทธิพลไปทั่วโลก” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ

 

ภาพจาก: เอเอฟพี/เก็ตตี้อิมเมจ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button