สหรัฐฯ เตรียมเปิดสถานเอกอัครราชทูตในมัลดีฟส์ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์กับจีน
ไนก์ ฉิง/วอยซ์ออฟอเมริกานิวส์
สหรัฐฯ กำลังเปิดสถานทูตในมัลดีฟส์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความมั่นคงหลังจากทั้งสองชาติได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตขึ้นเมื่อห้าทศวรรษก่อน
การดำเนินการนี้สะท้อนให้เห็นถึง “ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับมัลดีฟส์ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นไม่หวั่นไหวของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อมัลดีฟส์และภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์หลังการประชุมในมัลดีฟส์กับนายอิบราฮิม โมฮาเหม็ด โซลี ประธานาธิบดีมัลดีฟส์ และนายอับดุลลา ชาฮิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมัลดีฟส์
ผู้คนมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันแนวคิดอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างของสหรัฐฯ เพื่อยับยั้งความพยายามของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่จะครอบครองอิทธิพล (ภาพ: นายไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เตรียมตัวเดินทางจากโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ไปยังมัลดีฟส์ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2563)
สหรัฐอเมริกาดำเนินการศูนย์อเมริกันในกรุงมาเล่ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของมัลดีฟส์ เอกอัครราชทูตและเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในศรีลังกาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นทูตที่มัลดีฟส์และเดินทางเยือนหมู่เกาะแห่งนี้เป็นประจำ
สหรัฐฯ และมัลดีฟส์ได้ลงนามในข้อตกลงด้านกลาโหมเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 เพื่อ “เสริมสร้างความผูกพันและความร่วมมือ” ในด้านสันติภาพและความมั่นคงของมหาสมุทรอินเดีย ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เข้าเทียบท่าชั่วคราวที่มัลดีฟส์เป็นประจำ ซึ่งช่วยสนับสนุนความพยายามของสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายและการจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย
สหรัฐฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่มัลดีฟส์เป็นจำนวน 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 61 ล้านบาท) เพื่อการฟื้นฟูประเทศจากสถานการณ์โควิด-19 และให้คำมั่นว่าจะให้การสนับสนุนทางเศรษฐกิจเป็นเงินจำนวนหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความโปร่งใสทางการเงิน ความมั่นคงทางทะเล และการต่อต้านการก่อการร้ายของมัลดีฟส์
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับมัลดีฟส์ใน พ.ศ. 2509 หลังจากมัลดีฟส์ได้รับเอกราชจากอังกฤษ