เรื่องเด่น

ผลประโยชน์ ในความสัมพันธ์

กองกำลังทางทหารของมนุษย์และเครื่องจักรใช้ประโยชน์จากข้อดีของแต่ละฝ่าย

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ภาพโดย ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ครั้งหนึ่งของการอ้างอิงนิยายแนววิทยาศาสตร์ เพื่อแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่ปัญญาประดิษฐ์ของเครื่องจักรมีความทัดเทียมกับกำลังสมองของมวลมนุษยชาติ

“ปัญญาประดิษฐ์เกิดขึ้นแล้ว” พล.จ. แมทธิว อีสลีย์ ผู้อำนวยการกองบัญชาการด้านอนาคตและหน่วยเฉพาะกิจปัญญาประดิษฐ์แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ กล่าว “มีแอปพลิเคชันที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์จำนวนมหาศาลในมือคุณ ในสมาร์ทโฟนของคุณ มีทั้งในอุปกรณ์และในระบบทั้งหมดที่มีการเชื่อมต่อ”

อธิบายง่าย ๆ ว่า ปัญญาประดิษฐ์เป็นเหมือนระบบประมวลผลประเภทที่ใช้เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจ รวมถึงความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเอง

นักวิจัยที่ทำงานเพื่อใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์สำหรับการประยุกต์ใช้ทางการทหารกล่าวว่า กองทัพยังห่างไกลจากการนำเครื่องจักรกลที่มีความสามารถในการตัดสินใจเต็มที่ในสนามรบมาใช้ อนาคตของปฏิบัติการแบบหลายมิติ (มีอีกชื่อว่า ปฏิบัติการข้ามขอบเขต) จะมีทีม “เซนทอร์” มาแทน ซึ่งเป็นทีมที่มนุษย์และเครื่องจักรผนึกความสามารถระดับสูงสุดของแต่ละฝ่ายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด

“ความจริงที่ว่ามนุษย์ผู้เล่นหมากรุกได้เก่งที่สุดไม่สามารถรุกฆาตสุดยอดคอมพิวเตอร์ผู้เล่นหมากรุกได้อีกต่อไปนั้นเป็นเรื่องเก่าไปแล้ว แต่เรื่องที่ใหม่คือ ผู้เล่นหมากรุกสมัครเล่นที่มีคอมพิวเตอร์ซึ่งสามารถซื้อหาได้จากร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เอาชนะทั้งผู้เล่นหมากรุกระดับเซียนและสุดยอดคอมพิวเตอร์ในเกมหมากรุก” พันเอก(เกษียณอายุุ)บร็อค เปอร์คูชินของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่ในองค์กรด้านวิศวกรรมและโลจิสติกส์ในตะวันออกกลาง เอเชีย และสหรัฐอเมริกา กล่าวระหว่างการประชุมสัมมนาและนิทรรศการกองกำลังทางบกแปซิฟิก ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 ในเมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย “นั่นเป็นเพราะทีมเหล่านี้ ทีมมนุษย์และเครื่องจักรเหล่านี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นเซนทอร์ตามชื่อสัตว์ครึ่งมนุษย์ครึ่งม้าในตำนาน ได้ดึงจุดแข็งของสิ่งที่มนุษย์พึงแสดง ซึ่งได้แก่ สัญชาตญาณ การตัดสินใจ และความคิดสร้างสรรค์ และจุดแข็งของสิ่งที่เครื่องจักรพึงมีในแง่ของความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและความจุข้อมูล”

จากมุมมองทางการทหาร ทีมเซนทอร์ต้องได้รับการบูรณาการที่เสมือนการผสานร่างกายและจิตใจเข้าด้วยกัน พ.อ.

(เกษียณอายุ) เปอร์คูชินกล่าว ปัจจุบันเขาทำงานในบริษัทคูการ์ ซอฟต์แวร์ ในฐานะรองประธานด้านโซลูชั่นสำหรับรัฐบาล และเป็นผู้นำของบริษัทในความพยายามที่จะยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผ่านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ระบบมัลติเอเจนต์ของบริษัท

“นี่ไม่เกี่ยวกับการที่ปัญญาประดิษฐ์จะมาแทนที่ทหาร และไม่เกี่ยวกับทหารที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เป็นเครื่องมือ” พ.อ.

(เกษียณอายุ) เปอร์คูชินกล่าว “แต่เกี่ยวกับความสัมพันธ์แบบการอยู่ร่วมกันที่บูรณาการทางกายภาพและทางจิตใจ โดยแต่ละฝ่ายต่างดึงจุดแข็งที่พึงมีออกมาต่อสู้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ก็เป็นเรื่องของเครื่องจักรและมนุษย์ที่ช่วยกันคิด”

นายนิโคลัส โอเทโร อธิบายคุณสมบัติของหุ่นที่เรียกว่าเซนทอร์ ที่บริษัทเอนเดเวอร์โรโบติคส์ ในเมืองเชล์มสฟอร์ด รัฐแมสซาชูเซตส์ หุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ต่อสู้ แต่จะได้รับการออกแบบเพื่อช่วยมนุษย์ชายหญิงที่ต้องต่อสู้

การฝึกปัญญาประดิษฐ์

นอกเหนือจากการวิจัยและการพัฒนาแล้ว การปรับใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างเหมาะสมในปฏิบัติการแบบหลายมิติต้องมีกระบวนการ โครงสร้างพื้นฐาน เครือข่าย นโยบาย และบุคลากรที่ได้รับการตรวจสอบ พล.จ.อีสลีย์ ผู้ดำรงตำแหน่งประธานคณะความสามารถด้านปัญญาประดิษฐ์และระบบอัตโนมัติกล่าวระหว่างการประชุมสัมมนาและนิทรรศการกองกำลังทางบกแปซิฟิก

พล.จ.อีสลีย์กล่าวว่า ส่วนหนึ่งของกระบวนการต้องมีการเรียนรู้เชิงลึก ซึ่งเกี่ยวข้องกับการฝึกร่วมกันระหว่างทหารกับปัญญาประดิษฐ์ เช่น การฝึกพลแม่นปืน ทหารหนึ่งคนจะใช้สโคปอัจฉริยะที่มีเทคโนโลยีคล้ายกันกับสมาร์ทโฟน ซึ่งจะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประสิทธิภาพของทหารเพื่อช่วยคาดการณ์ความแม่นยำ และแม้แต่ระบุผู้ยิงที่แม่นที่สุดในหน่วย
นอกจากนี้ การเรียนรู้เชิงลึกยังเกี่ยวข้องกับการค้นพบวิธีทำงานของเครื่องจักร และการสอนวิธีเรียนรู้ให้เครื่องจักรขณะเก็บรวบรวมข้อมูล

ซึ่งนักพัฒนายังต้องฝึกแบบจำลองเครื่องจักรเกี่ยวกับวิธีระบุความช่วยเหลือเทียบกับอันตราย ความกลัว และความรู้สึกอื่น ๆ ตลอดจนวัตถุที่จับต้องได้ในสถานการณ์จำลอง โดยผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การสร้างองค์ความรู้พื้นฐานสำหรับปัญญาประดิษฐ์ควรเป็นไปตามวัตถุประสงค์เสมอ เพราะการจัดการข้อมูลในระดับใด ๆ และโดยวิธีการใดก็ตาม มีความท้าทายและความเสี่ยงอันจะนำมาซึ่งการป้อนข้อมูลเท็จหรือข้อมูลอันตราย มนุษย์มาพร้อมอคติของตนเอง นักประดิษฐ์ต้องระมัดระวังไม่ให้เพิ่มอคติเหล่านั้นลงไปในส่วนประกอบของปัญญาประดิษฐ์ด้วย

“เทคโนโลยีใด ๆ หรือสิ่งใดก็ตามที่เราสร้างนั้น สะท้อนถึงค่านิยม บรรทัดฐาน และแน่นอนว่าสะท้อนถึงอคติของผู้สร้างด้วย เรารู้ว่าผู้ที่สร้างระบบปัญญาประดิษฐ์ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย เป็นคนผิวขาวและชาวเอเชีย รวมทั้งนวัตกรรมจำนวนมากมาจากสหรัฐอเมริกา” นายดักลาส ยึง นักจิตวิทยาสังคมที่บริษัทแรนด์คอร์ปอเรชันซึ่งเชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมมนุษย์กล่าว “ผู้คนแสดงความวิตกว่านี่อาจนำมาซึ่งอคติก็เป็นได้ ซึ่งถือว่าน่าวิตกเนื่องจากตามคำนิยามที่หลากหลายแล้ว ปัญญาประดิษฐ์สามารถส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง เราควรตั้งคำถามว่า ‘สิ่งใดอาจเป็นผลสืบเนื่องจากอคติโดยไม่เจตนา'”

การจัดการอคติ

บริษัทต่าง ๆ ตระหนักว่า ตนเองไม่สามารถฝึกฝนเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าโดยใช้รูปถ่ายเป็นหลัก เนื่องจากทำให้เกิดอคติในอัลกอริทึม นายโอซานเด เอ. โอโซบา นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลของบริษัทแรนด์ที่มีประวัติด้านการออกแบบและการเพิ่มประสิทธิภาพอัลกอริทึมการเรียนรู้ของเครื่องจักร อธิบาย

“แต่ข้อมูลการฝึกที่ดีขึ้นเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ปัญหาเบื้องลึกของการสร้างอัลกอริทึมที่มีความเป็นกลางได้” นายโอโซบากล่าว “อัลกอริทึมสามารถบอกคุณได้ถึงสิ่งที่คุณอาจต้องการอ่าน คนที่คุณอาจต้องการนัดเจอ และสถานที่ที่คุณอาจได้งาน เมื่อสามารถแนะนำว่าใครที่ได้รับการว่าจ้าง ใครที่ได้รับเงินกู้ หรือระยะเวลาของโทษจำคุก ปัญญาประดิษฐ์จะต้องโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงมีความรับผิดชอบและเคารพค่านิยมและบรรทัดฐานของสังคมมากขึ้น ความรับผิดชอบเริ่มต้นด้วยการควบคุมดูแลโดยมนุษย์เมื่อปัญญาประดิษฐ์ต้องตัดสินใจเรื่องละเอียดอ่อน”

พ.อ.(เกษียณอายุ) เปอร์คูชินกล่าวเห็นด้วย “ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันในจุดที่เรากล่าวถึง ณ ตอนนี้ เราทำทุกอย่างด้วยปัญญาประดิษฐ์ เราจึงต้องทำให้แน่ใจว่ามีเทคนิคการตรวจสอบที่เหมาะสม” พ.อ.(เกษียณอายุ) เปอร์คูชินกล่าว “มีความแตกต่างระหว่างการสร้างความพร้อมด้านการตัดสินใจกับการตัดสินใจจริง ๆ เรายังห่างไกลจากการตัดสินใจอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการตัดสินใจที่จะยิงหรือไม่ หรือจะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง”

เพราะฉะนั้น สิ่งสำคัญคือการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ส่งเสริมประสิทธิภาพของทหารและไม่ทำให้ชีวิตของทหารยุ่งยากขึ้น พล.จ. อีสลีย์กล่าว “ระบุเฉพาะสิ่งจำเป็นเพื่อให้ทหารสามารถเอาชนะและได้เปรียบในการตัดสินใจ เพื่อปฏิบัติการในระดับสูงสุดต่อความเสี่ยงที่เปิดเผยออกมา” พล.จ. อีสลีย์กล่าว

ทหารไม่ใช่เครื่องจักร ทหารควรรักษาอำนาจการตัดสินใจขั้นสุดท้าย และกล่าวเสริมว่า “คุณยังคงต้องใช้การตัดสินใจของผู้บัญชาการ กฎแห่งสงครามไม่ได้หายไปไหน ระบบที่ออกแบบยังคงช่วยผู้ปฏิบัติการมนุษย์ในการตัดสินใจ”

การประยุกต์ใช้ในอนาคต

การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นไปได้สามประการในระดับปฏิบัติการ แสดงให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ในวงกว้าง ได้แก่ ยานพาหนะอัตโนมัติที่พบได้ทุกที่และรอบรู้ การสร้างแบบจำลองที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ การจำลองสถานการณ์และการทำสงคราม รวมถึงการรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรองแบบมุ่งเน้น ตามรายงานของนายแซ็กคารี เอส. เดวิส นักวิชาการอาวุโสของศูนย์วิจัยความมั่นคงระดับโลกที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ ลิเวอร์มอร์ และศาสตราจารย์ด้านการวิจัยที่บัณฑิตวิทยาลัยกองทัพเรือ ในเมืองมอนเทอเรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยเขาอธิบายเรื่องดังกล่าวไว้ในรายงานเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ชื่อ “ปัญญาประดิษฐ์ในสมรภูมิ: การสำรวจเบื้องต้นเกี่ยวกับนัยด้านการป้องปราม เสถียรภาพ และการจู่โจมในทางยุทธศาสตร์”

การใช้ประโยชน์จากยานพาหนะอัตโนมัติรุ่นใหม่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการประยุกต์ใช้ทางการทหาร เนื่องจากการมุ่งเน้นด้านการนำทางสำหรับระบบไร้คนขับที่หลากหลายทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ นายเดวิสกล่าว “ยานพาหนะอัตโนมัติและหุ่นยนต์พร้อมที่จะปฏิวัติการทำสงคราม” นายเดวิสระบุ “ซอฟต์แวร์นำทางที่ใช้ระบบ

ปัญญาประดิษฐ์ซึ่งรองรับโดยเซ็นเซอร์ที่มีอยู่แพร่หลายนั้น ช่วยให้ยานพาหนะไร้คนขับสามารถค้นหาเส้นทางผ่านภูมิประเทศของข้าศึก และในที่สุดอาจเกิดเป็นการจัดรูปขบวนที่ซับซ้อนของโดรนหลากหลายประเภท เพื่อปฏิบัติการแบบหลายมิติโดยมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่สอดคล้องกัน”

พล.จ.อีสลีย์เผยทัศนคติที่คล้ายคลึงกันระหว่างการประชุมสัมมนาและนิทรรศการกองกำลังทางบกแปซิฟิกเมื่อเขากล่าวว่า “ปล่อยให้หุ่นยนต์ทำงานสกปรกและอันตรายไป โดยที่เหล่าทหารไม่ต้องเสี่ยง เราจะใช้โดรนหรือฮาร์ดแวร์อื่น ๆ แทน”

เช่น เมื่อเกี่ยวข้องกับข้อมูลขนาดใหญ่และการจำลองสถานการณ์ แบบจำลองช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ยืนยันความน่าเชื่อถือของคลังอาวุธนิวเคลียร์โดยไม่ต้องมีการทดสอบนิวเคลียร์

“การจำลองสถานการณ์และการสร้างแบบจำลองเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการออกแบบสำหรับระบบอาวุธหลักเกือบทั้งหมด ตั้งแต่เครื่องบินไอพ่นและเรือ ไปจนถึงยานอวกาศและอาวุธนำวิถีที่แม่นยำ” นายเดวิสระบุ “การสร้างแบบจำลองและการจำลองสถานการณ์ขนาดใหญ่มีความจำเป็นต้องออกแบบในระบบหลายมิติที่ครอบคลุมของระบบต่าง ๆ ทั้งหมดที่คิดไว้สำหรับการจัดการการสู้รบและภารกิจที่ซับซ้อน เช่น ระบบออกแบบ วางแผน และจัดการสำหรับการตระหนักรู้ถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ในอวกาศ”

สำหรับการรวบรวมและการวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรอง การเรียนรู้ของเครื่องจักร จะยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญของนักวิเคราะห์ทุกคนที่พิจารณาข้อมูลจากแหล่งข้อมูล สถานที่ และระเบียบข้อบังคับรวมกัน เพื่อทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงทั่วโลก นายเดวิสระบุ “นอกจากนี้ การเรียนรู้ของเครื่องจักรทำให้มีความเป็นไปได้ในการรวมข้อมูลการค้าและการเงินแบบเปิดเผยแหล่งที่มา เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการถ่ายโอนเทคโนโลยีที่ผิดกฎหมาย เครือข่ายการแพร่ขยาย และผู้เผยแพร่ที่พยายามหลีกเลี่ยงการตรวจจับ ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้นักวิเคราะห์แจ้งต่อผู้กำหนดนโยบาย รวมถึงสนับสนุนนโยบายและการดำเนินการต่อต้านการแพร่ขยาย”

จากการระบุของพ.อ.(เกษียณอายุ) เปอร์คูชิน ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมจากปัญญาประดิษฐ์ยังมีการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติในด้านนี้ด้วย ปัญญาประดิษฐ์สามารถช่วยหาสิ่งเล็กน้อยที่สำคัญ คาดการณ์ว่าเมื่อใดแพลตฟอร์มจะเสียหาย และขจัดปัญหาการสื่อสารระหว่างกองทัพที่ไม่ได้ใช้ภาษาเดียวกัน พ.อ. (เกษียณอายุ) เปอร์คูชินกล่าว

“ที่สำคัญที่สุด การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ในวงกว้างขึ้น ช่วยให้ผู้บัญชาการของปฏิบัติการแบบหลายมิติมาบรรจบกันสำเร็จ ซึ่งเป็นการบูรณาการความสามารถอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกมิติ ซึ่งนั่นคือหัวใจหลักของกองทัพเซนทอร์ที่จะขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์อย่างดีที่สุด”

ท้ายที่สุด พ.อ.(เกษียณอายุ) เปอร์คูชินสรุปว่า “ทีมมนุษย์และเครื่องจักรจะทรงพลังที่สุดในอีกหลายปีข้างหน้า เพื่อยกระดับทหาร ยกระดับสภาพแวดล้อมการบังคับบัญชา”

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button