มองภูมิภาคแผนก

ญี่ปุ่น: กองทัพ มุ่ง เพิ่มงบประมาณติดต่อกันเป็นครั้งที่แปด

กองทัพญี่ปุ่นขอเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมประจำปีติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 เพื่อจ่ายค่าขีปนาวุธสกัดกั้น เครื่องบินขับไล่ล่องหน และยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ในการรับมือกับภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและสาธารณรัฐประชาชนจีน

ข้อเสนอด้านงบประมาณของกระทรวงกลาโหมเมื่อปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 เรียกร้องให้ใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.2 ซึ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 5.32 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) สำหรับปีนี้ซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2563 เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังจะพิจารณาคำขอดังกล่าวก่อนที่คณะรัฐมนตรีของนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรี จะให้การอนุมัติ

แม้จะมีรัฐธรรมนูญที่ห้ามครอบครองอาวุธสำหรับโจมตีประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นก็เป็นหนึ่งในประเทศที่มีค่าใช้จ่ายด้านการทหารมากที่สุดในโลก จากการที่ญี่ปุ่นเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านการทหารเป็นร้อยละ 10 ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ซึ่งการเพิ่มขึ้นนี้มีแรงกระตุ้นมาจากการปรับปรุงกองทัพของประเทศข้างเคียง

ในปีงบประมาณหน้าซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 เจ้าหน้าที่กลาโหมญี่ปุ่นได้ของบประมาณ 1.12 แสนล้านเยน (ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อซื้อเครื่องบินขับไล่ล่องหน เอฟ-35 ของบริษัทล็อกฮีด มาร์ติน จำนวน 9 ลำ ซึ่งรวมถึงรุ่นบีที่สามารถบินขึ้นในระยะสั้นและลงจอดในแนวดิ่ง 6 ลำ ที่ญี่ปุ่นต้องการนำมาใช้บนเรือบรรทุกอากาศยานเป็นครั้งแรก การซื้อดังกล่าวจะช่วยให้ญี่ปุ่นควบคุมอำนาจทางทหาร โดยขยายขอบเขตพิสัยที่กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นสามารถปฏิบัติการได้

นอกจากนี้ กระทรวงกลาโหมยังต้องการใช้งบ 1.16 แสนล้านเยน (ประมาณ 3.5 หมื่นล้านบาท) เพื่อเสริมสร้างการป้องกันขีปนาวุธ รวมถึงเป็นเงินสำหรับขีปนาวุธสกัดกั้นรุ่นใหม่เพื่อยิงหัวรบที่เข้ามาใกล้ในอวกาศ ญี่ปุ่นยังต้องการเงินทุนสำหรับระบบควบคุมการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแนวดิ่งเพื่อติดตั้งในเรือและสถานีติดตามขีปนาวุธด้วยเรดาร์ เอจิส อะชอร์ ภาคพื้นดินที่วางแผนไว้ 2 แห่งด้วย รอยเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button