มองภูมิภาคแผนก

อินโดนีเซีย: สหรัฐอเมริกาจะทำให้ความสัมพันธ์กับหน่วยรบพิเศษเป็นปกติ

นายแพทริก ชานาแฮน ผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ในขณะนั้น ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซียเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 เนื่องจากสหรัฐฯ พยายามปรับปรุงความสัมพันธ์กับหน่วยรบพิเศษของอินโดนีเซียที่ถูกจำกัดเนื่องจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทศวรรษ 1990 (พ.ศ. 2533-2543)

โดยทางอินโดนีเซียได้กล่าวกับนายจิม แมตทิส ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากนายชานาแฮน ในระหว่างการเดินทางไปกรุงจาการ์ตาใน พ.ศ. 2561 ว่า อินโดนีเซียหวังว่านายแมตทิสจะช่วยลดข้อจำกัดในการติดต่อของสหรัฐฯ ได้ ทั้งนี้สหรัฐฯ ได้ประกาศใน พ.ศ. 2553 ว่าได้ยกเลิกการห้ามการติดต่อทางการทหารกับหน่วยรบพิเศษของอินโดนีเซีย ที่รู้จักกันในชื่อโกปาสซัส ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับกิจกรรมในติมอร์-เลสเตขณะช่วงเตรียมประกาศเป็นเอกราช (ภาพ: กองกำลังโกปาสซัสเข้าร่วมการซ้อมรบต่อต้านการก่อการร้ายก่อนการแข่งขันกีฬา เอเชียนเกมส์ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2561) เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ กล่าวว่า ตั้งแต่นั้นมา ข้อจำกัดทางกฎหมายทำให้สหรัฐฯ ไม่สามารถติดต่อกับโกปาสซัสได้เกินกว่าระดับเบื้องต้น

โดยอินโดนีเซียและอีกห้าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เปิดตัวสนธิสัญญา “ดวงตาของเรา” ใน พ.ศ. 2561 ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธอิสลามและปรับปรุงความร่วมมือในภัยคุกคามด้านความมั่นคง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลกอย่างอินโดนีเซียประสบปัญหาในการควบคุมการเกิดกลุ่มหัวรุนแรงที่ได้รับแรงจูงใจจากกองกำลังติดอาวุธของรัฐอิสลามในตะวันออกกลาง

ทั้งสองฝ่ายกล่าวในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมระหว่างนายชานาแฮน กับ นายรามิซาร์ด ราชูดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอินโดนีเซีย โดยกล่าวว่า สหรัฐฯ กำลังมองหาแนวทางที่จะทำให้ความสัมพันธ์กับโกปาสซัสเป็นปกติ “รัฐมนตรีทั้งสองยืนยันการสนับสนุนการขยายการฝึกซ้อมระหว่างกองทัพในปีหน้า และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยรบพิเศษของกองทัพที่เริ่มใน พ.ศ. 2563 ดีขึ้น โดยการฝึกซ้อมรบร่วมผสมกับโกปาสซัส” แถลงการณ์ระบุ

พ.ท. เดฟ อีสต์เบิร์นโฆษกกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า การวางแผนการฝึกยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่น่าจะเป็นเวลาสี่ถึงหกสัปดาห์และมีผู้เข้าร่วมประมาณ 150 คน “ในขณะที่การวางแผนเพิ่งจะเริ่มต้น แนวคิดในขั้นต้นจะรวมถึงหัวข้อต่าง ๆ เช่น การตอบสนองต่อวิกฤต การช่วยเหลือตัวประกัน และการปกป้องสิทธิมนุษยชน รวมถึงหัวข้ออื่น ๆ” พ.ท. อีสต์เบิร์น กล่าว รอยเตอร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button