ติดอันดับ

กองทัพเรือฟิลิปปินส์ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย เพื่อจัดการกับภัยคุกคามทางทะเลและความต้องการด้านมนุษยธรรม

ฟีลิกซ์ คิม

การปรับปรุงกองทัพเรือฟิลิปปินส์ให้ทันสมัย จะเป็นการนำเครื่องมือใหม่ ๆ มาใช้เพื่อให้ตอบโต้กับภัยคุกคามทางทะเลในน่านน้ำของฟิลิปปินส์ได้ดีขึ้น รวมทั้งเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ กองทัพเรือฟิลิปปินส์จะเพิ่มเฮลิคอปเตอร์ปราบปรามเรือดำน้ำ 2 ลำ และยานพาหนะจู่โจมสะเทินน้ำสะเทินบก 4 ลำ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการดังกล่าว

เฮลิคอปเตอร์เคเอเอวี-7เอ1 เอเอวี จำนวน 4 ลำ และเฮลิคอปเตอร์เอดับเบิลยู159 ไวลด์แคท จำนวน 2 ลำได้เข้าประจำการเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 เฮลิคอปเตอร์เอดับเบิลยู159 เครื่องยนต์คู่ สำหรับหลากหลายบทบาทและภารกิจ สามารถตรวจจับและร่วมต่อสู้ในภัยคุกคามเรือดำน้ำ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปราบปรามเรือดำน้ำของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ น.อ. โจนาธาน ซาตา โฆษกกองทัพเรือฟิลิปปินส์กล่าวกับ ฟอรัมในขณะเดียวกัน เฮลิคอปเตอร์เอเอวีจะช่วยให้นาวิกโยธินฟิลิปปินส์ทำการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกบนชายหาดที่เป็นข้อพิพาท

“ในทำนองเดียวกัน ความสามารถเหล่านี้มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบโต้กิจกรรมทางทะเลที่ผิดกฎหมาย เช่น การก่อการร้าย การกระทำอันเป็นโจรสลัด การค้ามนุษย์ การค้ายาเสพติดและอาวุธปืน การประมงที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนภัยคุกคามด้านความมั่นคงทางทะเลอื่น ๆ รวมถึงปฏิบัติการตอบสนองด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติทั่วทั้งอาณาเขตอันกว้างขวางของประเทศ รวมทั้งภายในแนวการสื่อสารทางทะเล” น.อ. ซาตากล่าวเพิ่มเติม

ในแต่ละปี ฟิลิปปินส์มีการสูญเสียเป็นมูลค่าเกือบ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3 ล้านล้านบาท) เนื่องจากการทำประมงผิดกฎหมายที่ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมในน่านน้ำของฟิลิปปินส์ ตามรายงานของกระทรวงเกษตรฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ ชาวประมงฟิลิปปินส์ยังตกเป็นเป้าหมายการลักพาตัวของกลุ่มอะบูซัยยาฟ ซึ่งเป็นองค์กรหัวรุนแรงอยู่บ่อยครั้ง เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 กลุ่มอะบูซัยยาฟต้องสงสัยว่าซุ่มโจมตีเรือประมงฟิลิปปินส์และจับลูกเรือ 10 คนเป็นตัวประกัน ตามรายงานของสำนักข่าวพีเอ็นเอ ซึ่งเป็นสำนักข่าวอย่างเป็นทางการของรัฐบาลฟิลิปปินส์

ฟิลิปปินส์ยังมีความเสี่ยงสูงจากพายุไซโคลน แผ่นดินไหว น้ำท่วม ดินถล่ม สึนามิ การปะทุของภูเขาไฟ และไฟป่าอีกด้วย ฟิลิปปินส์ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ 565 ครั้งตั้งแต่ พ.ศ. 2533 ที่คร่าชีวิตผู้คนเกือบ 70,000 รายและก่อให้เกิดความเสียหาย 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 7.1 แสนล้านบาท) ตามรายงานของกองทุนโลกเพื่อลดความเสี่ยงและฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ

เฮลิคอปเตอร์ปราบปรามเรือดำน้ำ (ภาพ) สามารถ “โจมตีทั้งเป้าหมายบนพื้นผิวและใต้พื้นผิวโดยอิสระ หรือร่วมกับเรือฟริเกตและกองกำลังพันธมิตรที่เชื่อมกันอยู่” น.อ. ซาตากล่าว “ความสามารถของเฮลิคอปเตอร์ไวลด์แคท จะช่วยให้กองทัพเรือสามารถดำเนินการปกป้องทรัพยากร ปฏิบัติการขัดขวางทางทะเล ความมั่นคงของสายการสื่อสารทางทะเล รวมทั้งการค้นหาและกู้ภัยทางทะเลได้”

นอกจากนี้ เฮลิคอปเตอร์ดังกล่าวยังสามารถติดอาวุธจรวด ปืนกล ขีปนาวุธ ตอร์ปิโด และระเบิดลึกได้อีกด้วย

น.อ. ซาตาอธิบายว่า เฮลิคอปเตอร์เอเอวีจะจอดอยู่บนเรือยกพลขึ้นบกชั้นทาร์แลค 2 ลำ ซึ่งจะช่วยให้นาวิกโยธินสามารถปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งจัดหาอาวุธปืนที่จำเป็นเพื่อโจมตีเป้าหมายและสนับสนุนทหารเมื่อมีการลงจอดที่ชายหาด เฮลิคอปเตอร์เอเอวีติดตั้งปืนกลขนาดจุด 50 เครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 40 มม. และเครื่องยิงควัน

น.อ. ซาตากล่าวว่า ความสามารถในการจัดการกับภัยคุกคามแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญของแผนการปรับปรุงกองทัพเรือให้ทันสมัย

ที่ตั้งเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศที่เป็นหมู่เกาะนี้ ตั้งอยู่ใกล้กับพื้นที่ที่ประเทศอื่นใช้ร่วมกันเป็นเส้นทางการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ รวมทั้งมีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์ น.อ. ซาตากล่าวเพิ่มเติม แม้ว่าเหตุผลนี้จะทำให้ฟิลิปปินส์ต้องเผชิญกับภัยคุกคามทางทะเล แต่ก็นำมาซึ่งผลประโยชน์เช่นกัน

กองทัพเรือฟิลิปปินส์ “ตระหนักถึงโอกาสและความรับผิดชอบที่คล้ายคลึงกันที่มีร่วมกันของภูมิภาค และแสดงการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในด้านความร่วมมือทางทะเล สันติภาพ และเสถียรภาพ” น.อ. ซาตาสรุป การพัฒนาทักษะล่าสุดสะท้อนให้เห็นถึง “ความพยายามของกองทัพเรือในการปฏิบัติหน้าที่จัดการทรัพยากรทางทะเลและทะเลของประเทศ เพื่อมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค”

ฟีลิกซ์ คิม เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button