ฝ่ายนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปเรียกร้องการ สั่งห้ามใช้ “หุ่นยนต์สังหาร” ทั่วโลก

สหภาพยุโรปแสดงความเห็นต่อต้านการใช้ “หุ่นยนต์สังหาร” เมื่อกลางเดือนกันยายน พ.ศ. 2561 ขณะที่รัฐสภายุโรปผ่านมติการเรียกร้องให้นานาชาติสั่งห้ามพัฒนา ผลิต และใช้อาวุธที่สังหารได้โดยไม่ต้องใช้การตัดสินใจจากมนุษย์

อาวุธสังหารอัตโนมัติเป็นเครื่องจักรที่ตั้งโปรแกรมให้เลือกและโจมตีเป้าหมายโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์โดยไม่มีมนุษย์ควบคุม ฝ่ายที่ต่อต้านกลัวว่าอาวุธเหล่านี้อาจเป็นอันตรายในการโจมตีทางไซเบอร์ หรือเนื่องมาจากความผิดพลาดจากการเขียนโปรแกรม

“ฉันทราบว่าอาจฟังเหมือนการอภิปรายเกี่ยวกับอนาคตที่ห่างไกลหรือนิยายวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ใช่” นางเฟอเดริกา โมกรินี ผู้แทนระดับสูงของสหภาพยุโรปด้านการต่างประเทศและนโยบายความมั่นคง กล่าวระหว่างการอภิปรายในรัฐสภาหนึ่งวันก่อนการลงคะแนนเสียง

มติดังกล่าวตั้งเป้าจะหยุดการพัฒนาและใช้อาวุธสังหารอัตโนมัติล่วงหน้า

ประเทศต่าง ๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา จีน อิสราเอล เกาหลีใต้ รัสเซีย และสหราชอาณาจักร มีแนวโน้มจะพึ่งพาระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติพร้อมด้วยกองหน้าอย่างโดรนติดอาวุธ ตามรายงานของกลุ่มไม่แสวงหาผลกำไรฮิวแมนไรตส์วอตช์

ใน พ.ศ. 2560 ทีเอเอสเอสซึ่งเป็นสำนักข่าวรัสเซียรายงานว่า กลุ่มคาลาชนิคอฟซึ่งเป็นผู้ผลิตอาวุธสัญชาติรัสเซียได้พัฒนาอาวุธอัตโนมัติที่สามารถ “ระบุเป้าหมายและทำการตัดสินใจ”

สมาชิกส่วนใหญ่ในการอภิปรายของรัฐสภายุโรปเห็นชอบกับมตินี้ โดยกล่าวว่าการใช้อาวุธดังกล่าวเป็นปัญหาต่อสิทธิมนุษยชนและกฎหมายมนุษยธรรม บางส่วนกังวลว่ากฎหมายดังกล่าวอาจจำกัดความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ในด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

ความกังวลอีกข้อของสมาชิกรัฐสภาคือความเสี่ยงด้านความมั่นคงที่สหภาพอาจต้องเผชิญ หากยุโรปสั่งห้ามการใช้อาวุธดังกล่าวแต่ประเทศอื่น ๆ ไม่มีการสั่งห้าม

“ระบบอาวุธสังหารอัตโนมัติจะต้องสั่งห้ามใช้อย่างเป็นสากล” นางโบดิล วาเลโร โฆษกด้านนโยบายความมั่นคงสำหรับกลุ่มกรีนส์/พันธมิตรอิสระแห่งยุโรปของรัฐสภายุโรปกล่าว “อำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับการอยู่หรือตาย ควรอยู่ในน้ำมือมนุษย์และไม่ควรมอบให้กับเครื่องจักร”
มติดังกล่าวเรียกร้องให้ยุโรปสร้างจุดยืนร่วมกันก่อนกำหนดการเจรจาระหว่างประเทศที่องค์การสหประชาชาติในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561

การเจรจาในระดับสหประชาชาติ รัฐบาลจาก 26 ประเทศต้องการให้สั่งห้ามการใช้อาวุธปัญญาประดิษฐ์ ตามแถลงการณ์ของกลุ่มกรีนส์/พันธมิตรอิสระแห่งยุโรป

“มตินี้เพิ่มแรงผลักดันที่สำคัญกับก้าวต่อไปในการป้องกันการพัฒนาและการใช้อาวุธดังกล่าว” องค์กรสันติภาพแพ็กซ์ระบุในแถลงการณ์หลังการลงคะแนนเสียงเมื่อเดือนกันยายน รอยเตอร์