นักลงทุนในเวียดนาม เรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่กับการปราบปรามการทุจริต
กการปราบปรามการทุจริตอย่างเข้มงวดในเวียดนามเมื่อ พ.ศ. 2560 ทำให้นักลงทุนต่างชาติบางส่วนขวัญเสีย แต่ขณะนี้นักลงทุนเต็มไปด้วยความหวังมากขึ้น นักลงทุนบางส่วนถึงกับกล่าวว่าบรรยากาศทางธุรกิจกำลังดีขึ้นด้วยเหตุนี้ ในขณะที่การรณรงค์ของรัฐบาลของนายเหงียน ฟู้ จ่อง เลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ ได้ชะลอการทำข้อตกลงบางอย่างในประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากระบบราชการในยุคโซเวียต แต่ก็ไม่ได้ยับยั้งนักลงทุนต่างชาติจากการลงทุนในเวียดนาม
เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตร้อยละ 6.8 ใน พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่งที่สุดนับแต่ พ.ศ. 2553 ในขณะที่เงินไหลเข้าโดยตรงจากต่างประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์สองปีติดต่อกันโดยสูงถึง 1.75 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.77 แสนล้านบาท) ใน พ.ศ. 2560 การปราบปรามการทุจริตเป็นสิ่งน่าจะเกิดขึ้นมานานแล้วสำหรับนักลงทุนต่างชาติบางส่วน เกือบสองในสามของประชากรเวียดนามต้องจ่ายสินบนเพื่อเข้าถึงบริการสาธารณะ องค์กรนานาชาติเพื่อความโปร่งใสระบุในรายงานฉบับ พ.ศ. 2560 โดยจาก 16 ประเทศในเอเชียที่ได้รับการสำรวจ มีเพียงอินเดียที่เลวร้ายอย่างมาก
การต่อต้านการทุจริตเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุนต่างชาติจำนวนมาก นางสมหทัย พานิชชีวะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทอมตะที่ดำเนินธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของไทยกล่าว โดยประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ในเวียดนามเมื่อเดือน มกราคม พ.ศ. 2561 “เราคิดว่ารัฐบาลจริงจังเกี่ยวกับการแสดงให้สาธารณชนเห็นว่าการลงทุนในเวียดนามไม่ใช่เพียงการ “รู้จักคน” อีกต่อไป แต่เกี่ยวกับการ “รู้วิธี” มากกว่า” นางสมหทัยกล่าว
สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าเงื่อนไขทางธุรกิจเป็นเรื่องง่ายสำหรับนักลงทุนต่างชาติ ผู้บริหารระดับต้นต้องค้นหาอุปสรรคของความท้าทายใหม่ ๆ นายอดัม ซิทคอฟฟ์ ผู้อำนวยการบริหารของหอการค้าอเมริกันในกรุงฮานอยกล่าว อย่างไรก็ตาม มันยังช่วยให้เห็นถึงการติดสินบนที่หยั่งรากลึก การจัดการที่ผิดพลาด และการเล่นพรรคเล่นพวกภายในรัฐวิสาหกิจในประเทศ ในขณะที่การผลักดันการแปรรูปรัฐวิสาหกิจซึ่งล่าช้ามานานกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
เวียดนามล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในปีที่ผ่านมา แต่มีแผนการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชนมากกว่า 100 รายการ รวมทั้งการขายหุ้นบางส่วนในประมาณ 400 บริษัทภายใน พ.ศ. 2563 “ดูเหมือนว่าผู้จัดการรัฐวิสาหกิจ อย่างน้อยผู้ที่สำคัญที่สุดมีความระมัดระวังในกิจกรรมของตนมากขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแปรรูปรัฐวิสาหกิจในบางส่วน การเลิกกิจการ และอื่น ๆ“ หอการค้ายุโรปกล่าวในแถลงการณ์ รอยเตอร์
