ญี่ปุ่นเพิ่มคลังแสงสรรพาวุธพร้อมจับตามองจีน
ทอม แอบกี
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นวางแผนเปิดตัวยุทโธปกรณ์ทางการทหารใหม่ที่ทรงพลัง ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงและเรือดำน้ำสอดแนมไร้คนประจำการ เพื่อป้องปรามและป้องกันประเทศจากภัยคุกคามของจีนที่อาจเกิดขึ้นdefendagainst
แผนการดังกล่าวออกแบบมาเพื่อเพิ่มการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ในขณะที่จำนวนบุคลากรทางการทหารลดลงอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากการลดลงของจำนวนประชากรในช่วงอายุดังกล่าว โดยเมื่อนำไปใช้งาน ยุทโธปกรณ์ทางการทหารดังกล่าวอาจท้าทายความหวังของจีนที่ต้องการมีอำนาจเหนือภูมิภาค
“ผมคิดว่าสามารถพูดได้เลยว่าการกระทำของญี่ปุ่นจะทำให้หลาย ๆ อย่างยุ่งยากมากขึ้นสำหรับผู้วางนโยบายของจีน” นายเจฟฟรีย์ ดับเบิลยู. ฮอร์นัง นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมของญี่ปุ่นแห่งแรนด์ คอร์ปอเรชัน กล่าวกับ ฟอรัม“เพราะตอนนี้ทางตะวันออกของจีนมีกองกำลังความสามารถสูงที่กำลังพัฒนาอาวุธซึ่งไม่มีในประเทศใดที่อยู่รายรอบจีน”
สิ่งหนึ่งที่ญี่ปุ่นให้ความสำคัญคือการป้องกันหมู่เกาะเซ็งกะกุซึ่งตั้งอยู่ในทะเลจีนตะวันออก และจีนได้อ้างสิทธิในเกาะนี้โดยมิชอบด้วยกฎหมาย นายฮอร์นังอธิบาย
ขีปนาวุธนำวิถีความเร็วเหนือเสียงซึ่งสามารถหลบเลี่ยงเรดาร์และขีปนาวุธร่อนพิสัยกลาง เป็นหนึ่งในแม่ข่ายระบบต่าง ๆ ที่ญี่ปุ่นจะติดตั้งได้ภายในช่วงกลางทศวรรษ 2020 (พ.ศ. 2563-2572) “ญี่ปุ่นกำลังมองหายุทโธปกรณ์เต็มรูปแบบที่สามารถหาได้ เพื่อพัฒนาการป้องกันตนเองต่อภัยคุกคามที่เคลื่อนย้ายได้ง่ายมากจากจีน” นายฮอร์นังกล่าว
ญี่ปุ่นได้จัดทำแผนการเพื่อจัดตั้งฐานทัพป้องกันภาคพื้นดินขนาดเล็กในหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงใต้บางแห่ง แต่ละแห่งจะมีกำลังทหาร 500 ถึง 600 นาย โดยญี่ปุ่นวางแผนให้ฐานทัพสี่แห่งดังกล่าวมีแท่นยิงขีปนาวุธภายใน พ.ศ. 2564 “ญี่ปุ่นกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากสภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศเพื่อป้องกันจากจีนให้ได้ดีที่สุด” นายฮอร์นังกล่าว “ญี่ปุ่นไม่มีงบประมาณเท่าจีน และไม่มีกำลังพลเท่าจีน ดังนั้น สิ่งที่ทำได้คือใช้สภาพทางภูมิศาสตร์ของประเทศให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มความสามารถ และพยายามหยุดจีนให้ได้ภายในหมู่เกาะแรก”
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังพิจารณาการจัดตั้งกองเรือดำน้ำสอดแนมไร้คนประจำการ “ญี่ปุ่นภาคภูมิใจในเรือดำน้ำของตนมาตลอด” นายฮอร์นังกล่าว “การที่ญี่ปุ่นนำคนออกและทำให้เรือดำน้ำไม่ต้องใช้คนประจำการนั้นไม่ได้มีความแตกต่างอะไรมากมาย แต่สะท้อนถึงความเป็นจริงของความยากลำบากในการสรรหาบุคลากรในการป้องกันประเทศ และการลดลงของประชากรที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ”
แผนของกระทรวงกลาโหมประกอบด้วยการจัดซื้ออากาศยานสอดแนมโกลบอล ฮอว์กไร้คนขับสามลำ แผนการระยะยาวในการซื้อเครื่องบินขับไล่เอฟ-35 เพิ่มเติม 105 ลำ และรายการสิ่งที่ต้องการซึ่งมีทั้งโดรนต่อสู้ขั้นสูง อากาศยานสงครามอิเล็กทรอนิกส์ และการดัดแปลงเรือบรรทุกเครื่องบิน (ภาพ: เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมเผยโฉมเครื่องบินขับไล่ล่องหน เอฟ-35เอ ลำแรกที่ประกอบในญี่ปุ่น เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561) ขณะที่แผนการดังกล่าวสร้างความกังวลให้จีนอย่างแน่นอน แต่จำนวนเงินอาจสร้างความกังวลให้ญี่ปุ่น นายฮอร์นังกล่าว
“ผมได้สนทนากับเจ้าหน้าที่ในกระทรวงกลาโหม” นายฮอร์นังกล่าว “บรรดาเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ‘เรายอมรับว่าทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้น่าจะเป็นการเพิ่มงบประมาณ’ แต่การทำเช่นนั้น ญี่ปุ่นต้องยกเพดานเทียมร้อยละ 1 ของจีดีพีออกไป” ซึ่งหมายถึงธรรมเนียมของญี่ปุ่นในการรักษาสัดส่วนงบประมาณกลาโหมไม่ให้เกินร้อยละ 1 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
นายทอม แอบกี เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากประเทศสิงคโปร์
