ติดอันดับ

ออสเตรเลียลงทุนเพื่อพัฒนาฐานทัพเรือปาปัวนิวกินี

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ออสเตรเลียประกาศเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2561 ว่าจะลงทุนเพื่อพัฒนาฐานทัพเรือปาปัวนิวกินีอีกครั้งหนึ่งในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลของจีนในภูมิภาคแปซิฟิกใต้เพิ่มสูงขึ้น

นายสก็อตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย และนายปีเตอร์ โอนีลล์ นายกรัฐมนตรีปาปัวนิกินี ได้พบกันที่เมืองซิดนีย์ในออสเตรเลียเพื่อลงนามในข้อตกลงร่วมเพื่อการพัฒนาฐานทัพเรือลอมบรัมบนเกาะมานัสอีกครั้งหนึ่ง (ภาพ: บุคลากรจากกองทัพปาปัวนิวกินีและกองทัพออสเตรเลียไปเยือนเกาะมานัส)

ข้อตกลงนี้จะส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพของประเทศเพื่อนบ้านทั้งสอง อีกทั้งจะนำไปสู่การมาเยือนของกองทัพออสเตรเลียบ่อยครั้งมากขึ้น ผู้นำทั้งสองกล่าวในแถลงการณ์

“ผมต้องการเสริมสร้างความร่วมมือของเราในแปซิฟิกเพื่อผลประโยชน์ของภูมิภาค เพราะนี่คือบ้านของเรา” นายมอร์ริสันกล่าวในคำปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศ

ออสเตรเลียหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องจัดการกับการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างพันธมิตรที่สำคัญที่สุดคือสหรัฐฯ กับจีนซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางการค้ารายใหญ่ที่สุด

พล.ร.อ. จอห์น ริชาร์ดสัน ผู้บัญชาการทหารเรือสหรัฐฯ ซึ่งได้เดินทางไปเยือนออสเตรเลียเพื่อร่วมประชุมเกี่ยวกับภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและความมั่นคงในระดับภูมิภาค ได้อธิบายถึงโครงการพัฒนาฐานทัพในครั้งนี้ว่าเป็น “โอกาสที่ดีเยี่ยม”

“โครงการนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของภาวะผู้นำที่ออสเตรเลียและกองทัพเรือออสเตรเลียกำลังแสดงให้เห็นในภูมิภาคนี้” พล.ร.อ. ริชาร์ดสันกล่าวต่อผู้สื่อข่าว

“จากมุมมองของกองทัพเรือสหรัฐฯ เราคอยมองหาโอกาสที่จะสนับสนุนการดำเนินการเช่นนี้” พล.ร.อ. ริชาร์ดสันกล่าวเพิ่มเติม

พล.ร.อ. ริชาร์ดสันกล่าวว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะทราบว่าในที่สุดแล้ว เรือรบสหรัฐฯ จะเข้ามาใช้ท่าเรือแห่งนี้หรือไม่

“ขณะนี้เราเห็นแต่เพียงศักยภาพในอนาคต คงต้องรอดูต่อไปว่ารายละเอียดจะออกมาเป็นอย่างไร” พล.ร.อ. ริชาร์ดสันกล่าว

สหรัฐฯ กำลังขยายศูนย์การฝึกหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ ในเมืองดาร์วินทางตอนเหนือของออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ห่างจากพอร์ต มอเรสบี เมืองหลวงของปาปัวนิวกินี ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 1,600 กิโลเมตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่จะเข้าถึงเอเชีย

สาธารณรัฐประชาชนจีนได้เตือนออสเตรเลียและปาปัวนิวกินีให้หยุดแนวคิดแบบ “สงครามเย็น” หลังจากออสเตรเลียประกาศการลงทุนในฐานทัพเรือดังกล่าว

“ผมคิดว่าประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกไม่ควรเป็นเขตอิทธิพลของประเทศใด ๆ เราหวังว่าประเทศต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรวมถึงผู้คนที่เกี่ยวข้อง จะสามารถละทิ้งแนวคิดแบบสงครามเย็นและทฤษฎีเกมศูนย์ มองความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกด้วยความเป็นกลาง และมอบความช่วยเหลือให้แก่ประเทศต่าง ๆ มากขึ้นแทนที่จะคาดคะเนไปต่าง ๆ นานา” นายลู่ คัง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในการบรรยายสรุปประจำวัน

เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 นายมัลคอล์ม เทิร์นบูลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้น ได้กล่าวเตือนจีนว่าออสเตรเลีย “จะมองการตั้งฐานทัพใด ๆ ในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกและประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียด้วยความกังวลอย่างยิ่ง”

นายเทิร์นบูลล์กล่าวคำพูดนี้หลังจากที่จีนและวานูอาตูได้ปฏิเสธรายงานข่าวว่าจีนได้ยื่นข้อเสนอต่อวานูอาตู ซึ่งเป็นประเทศที่เป็นอดีตอาณานิคมร่วมของอังกฤษและฝรั่งเศสและมีประชากร 280,000 คน เกี่ยวกับการสร้างฐานทัพทหารถาวรในบริเวณแปซิฟิกใต้

สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่นกำลังร่วมร่างข้อเสนอเกี่ยวกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายในประเทศสำหรับปาปัวนิวกินีเพื่อเป็นตัวเลือกในการเปรียบเทียบกับข้อเสนอของบริษัทหัวเหว่ย ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนที่สหรัฐฯ มองว่าเป็นภัยคุกคามความมั่นคงทางไซเบอร์

เมื่อเดือนสิงหาคม รัฐบาลออสเตรเลียได้กีดกันบริษัทหัวเหว่ยจากการติดตั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง 5จี ของออสเตรเลียด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง อีกทั้งรัฐบาลออสเตรเลียมีข้อกังวลเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของบริษัทหัวเหว่ยในโครงสร้างโทรคมนาคมของประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่างปาปัวนิวกินี

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button