เทพี องค์น้อย
พราหมณ์ฮินดูได้เจิมน้ำมันให้กับเด็กหญิงน้อยอายุ 3 ขวบ ในฐานะที่เป็น “เทพีที่มีชีวิตอยู่” หรือกุมารีแห่งกาฐมาณฑุ หนูน้อยจะอยู่ในพระราชวังในใจกลางเมืองหลวงของเนปาลจนกระทั่งโตเป็นสาว
กุมารีคนใหม่คือ ด.ญ.ตีชานา สักกะ ในชุดแดง ถูกนำมาจากบ้านสู่จตุรัสดูร์บาร์อันเก่าแก่เพื่อทำพิธีกรรมแรกรับที่กินเวลาไม่นาน
หลักจากนั้น บิดาของตีชานาก็ได้อุ้มเธอข้ามจตุรัสหินซึ่งยังคงเห็นร่องรอยจากแผ่นดินไหวเมื่อ พ.ศ. 2558 ไปยังวิหารและพระราชวังที่เธอจะอาศัยอยู่ภายใต้การดูแลของยามที่ได้มอบหมายหน้าที่พิเศษ
ตีชานาเดินในระยะทางสั้น ๆ โดยมีครอบครัวของเธอขนาบข้างพร้อมด้วยบุรุษในชุดคลุมสีแดงที่ไม่ใส่รองเท้า ซึ่งจะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอจะได้ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนโดยไม่แต่งหน้าเป็นกุมารีจนกระทั่งเริ่มเป็นสาว
“ผมรู้สึกหลายอย่าง ลูกสาวผมกลายเป็นกุมารี และนั่นคือสิ่งที่ดี แต่ก็มีความเศร้าเนื่องจากเธอจะถูกแยกจากครอบครัวเรา” นายบิชยา รัตนา สักกะ ผู้เป็นพ่อกล่าว
ตีชานามีน้องชายฝาแฝดชื่อกฤษณะ ซึ่งร้องไห้ตอนที่เห็นพี่สาวถูกนำตัวไปจากครอบครัว
ในฐานะกุมารี ตีชานาจะถูกมองว่าเป็นร่างทรงของเทพีฮินดูที่ชื่อทาเลจู และจะได้รับอนุญาตให้ออกจากวิหารเพียง 13 ครั้งต่อปีในโอกาสวันฉลองศาสนาพิเศษ
พราหมณ์ฮินดูสังเวยสัตว์ตอนเที่ยงคืน โดยเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมแรกรับของกุมารีในฐานะเทพีที่ยังมีชีวิตอยู่ ตามประวัติศาสตร์ ควาย แพะ ไก่ เป็ด และไข่ 108 รายการ จะถูกสังเวยเป็นส่วนหนึ่งของพิธีดังกล่าว โดยตัวเลขนี้เป็นเลขดีในศาสนาฮินดู แต่เลขดังกล่าวได้ถูกบีให้ลดลงโดยองค์กรสิทธิสัตว์
ประเพณีกุมารี ซึ่งหมายถึง “เจ้าหญิง” ในภาษาสันสกฤต มาจากชุมชนนิวาร์ ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองของหุบเขากาฐมาณฑุ ซึ่งผสมปัจจัยของศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธไว้ด้วยกัน และกุมารีที่สำคัญที่สุดจะเป็นผู้แทนของสามราชอาณาจักรที่เคยมีอยู่ในหุบเขา ได้แก่ กาฐมาณฑุ ปาตัน และบักตาปูร์
พิธีนี้เคยเป็นพิธีที่เชื่อมโยงกับราชวงศ์เนปาล แต่แม้สิ้นการมีราชวงศ์ฮินดูในเนปาลแล้วตั้งแต่ พ.ศ. 2551 พิธีนี้ก็ยังคงมีต่อไป
เอเจนส์ ฟรานซ์ เพรส
