นอร์เวย์เติมพลังสำหรับอนาคต: มากกว่าครึ่งหนึ่งของยอดขายรถใหม่ตอนนี้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าหรือไฮบริด
ตามสถิติในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าและไฮบริดเพิ่มขึ้นเกินครึ่งหนึ่งของรถที่จดทะเบียนใหม่ในนอร์เวย์ใน พ.ศ. 2560 ยอดขายดังกล่าวเกิดขึ้นได้ด้วยเงินอุดหนุนภาครัฐที่ทำให้นอร์เวย์กลายเป็นผู้นำในการเปลี่ยนผ่านจากการใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์
สมาพันธ์ขนส่งทางบกนอร์เวย์ซึ่งเป็นสมาคมอิสระแถลงว่า ยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าโดยสมบูรณ์และรถไฮบริด ซึ่งหมายถึงรถที่ใช้ทั้งพลังงานจากแบตเตอรี่และเครื่องยนต์ดีเซลหรือเบนซิน นับเป็นร้อยละ 52 ของยอดขายของรถใหม่ทั้งหมดใน พ.ศ. 2560 ในนอร์เวย์ เปรียบกับยอดขายเดียวกันใน พ.ศ. 2559 ที่อยู่ที่ร้อยละ 40
“ไม่มีใครเทียบเราติด” ในแง่ของยอดขายรถพลังงานไฟฟ้าในประเทศ นายไอย์วินด์ โซลเบิร์ก ประธานสมาพันธ์ขนส่งทางบกนอร์เวย์กล่าว “เป็นครั้งแรกที่เรามียอดขายของรถใช้เชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์ต่ำกว่าร้อยละ 50 ของยอดขายรถทั้งหมด”
นอร์เวย์ยกเว้นภาษีเกือบทั้งหมดให้กับรถพลังงานไฟฟ้า และยังให้สิทธิประโยชน์เพิ่มเติมที่อาจมีมูลค่าถึงหลายพันเหรียญต่อปี อาทิ ที่จอดรถฟรีหรือรัฐช่วยออกค่าที่จอดรถ การเติมเงินค่าผ่านทางและการใช้ทางพิเศษ เรือข้ามฟากและอุโมงค์
นอร์เวย์ยังผลิตไฟฟ้าเกือบทั้งหมดของประเทศจากพลังงานน้ำ การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะช่วยลดมลพิษทางอากาศและยังจะมีส่วนในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ อีกด้วย
ใน พ.ศ. 2560 องค์การพลังงานระหว่างประเทศระบุว่า นอร์เวย์เป็นผู้นำหลายชาติ ไม่ว่าจะเป็นเนเธอร์แลนด์ สวีเดน จีน ฝรั่งเศสและบริเตน ในด้านยอดขายรถพลังงานไฟฟ้า
รถที่มียอดขายดีที่สุดในนอร์เวย์ใน พ.ศ. 2560 ได้แก่ โฟล์กสวาเกน กอล์ฟ บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3 โตโยตา ราฟ4 และ เทสลา โมเดล เอกซ์ โดยเทสลาเป็นผู้ผลิตที่ผลิตแต่รถพลังงานไฟฟ้า ส่วนผู้ผลิตอื่นผลิตทั้งรถพลังงานไฟฟ้าและไฮบริด
ในหลายประเทศ ราคาที่สูงของรถที่ใช้แบตเตอรี่ ข้อจำกัดเกี่ยวกับระยะทางในการเดินรถระหว่างการชาร์จ และการชาร์จแบตเตอรี่ที่ใช้เวลานาน เป็นปัจจัยไม่ดึงดูดผู้ซื้อ ผู้ผลิตรถยนต์กล่าวว่า ข้อด้อยดังกล่าวลดลงตามกาลเวลาโดยเฉพาะเมื่อมีรถพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ออกมา
“เรามองนอร์เวย์เป็นแม่แบบสำหรับการส่งเสริมการเคลื่อนย้ายด้วยพลังงานไฟฟ้าผ่านแรงจูงใจอัจฉริยะ” โฆษกผู้ผลิตรถบีเอ็ม ดับเบิลยูที่สำนักงานใหญ่นครมิวนิคกล่าว “สถานการณ์น่าจะแตกต่างจากนี้หากไม่มีแรงจูงใจดังกล่าว”
โฆษกผู้ผลิตรถบีเอ็มดับเบิลยูกล่าวด้วยว่า “ตัวอย่างอื่นที่ดี” ของนโยบายเพื่อให้รถพลังงานไฟฟ้าเป็นที่แพร่หลายได้แก่ บริเตน มลรัฐแคลิฟอร์เนีย และเนเธอร์แลนด์
ใน พ.ศ. 2560 รัฐสภานอร์เวย์กำหนดเป้าหมายซึ่งไม่ผูกมัดว่า ภายใน พ.ศ. 2568 รถทั้งหมดที่จำหน่ายจะต้องไม่ปล่อยไอเสียจากแหล่งพลังงานจากเครื่องยนต์ ฝรั่งเศสและบริเตนมีแผนที่จะห้ามการจำหน่ายรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินภายใน พ.ศ. 2583 โดยรวม ยอดขายของรถที่ไม่มีการปล่อยไอเสียในนอร์เวย์เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 ใน พ.ศ. 2560 จากร้อยละ 16 ใน พ.ศ. 2559
นโยบายรถพลังงานไฟฟ้าในนอร์เวย์เป็นสิ่งยากที่จะเลียนแบบ นอร์เวย์ใจกว้างได้เพราะมีรายได้มหาศาลจากการผลิตน้ำมันและแก๊ส ซึ่งได้ช่วยให้ประเทศมีกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก กล่าวคือ หนึ่งล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 32.5 ล้านล้านบาท)
แม้ในนอร์เวย์ ผลประโยชน์ที่ได้ก็ส่งผลให้ภาคการเงินตึงเครียด โดยคาดว่างบประมาณแผ่นดินของนอร์เวย์จำนวน 1.3 ล้านล้านโครนนอร์เวย์จะลดลง 3 พันล้านโครนต่อปีเนื่องมาจากการยกเว้นภาษีในการขายรถพลังงานไฟฟ้า