รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวหาว่าจีน “สร้างความเกรงกลัวและการบีบบังคับ” ในทะเลจีนใต้
เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส
การเสริมกำลังทหารของจีนในทะเลจีนใต้และการเคลื่อนกำลังระบบอาวุธขั้นสูงในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทเป็นยุทธวิธีในการสร้างความเกรงกลัวและบีบบังคับประเทศเพื่อนบ้าน นายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกากล่าวเมื่อต้นเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561
ระหว่างการปราศรัยในการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงที่เป็นที่จับตาอย่างมากในสิงคโปร์เพียงไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีกำหนดการที่จะพบกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ นายแมททิสยังกล่าวอีกว่า กองทัพสหรัฐฯ จะยังคงสนับสนุนนักการทูตที่กำลังผลักดันให้มีการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่าง “สมบูรณ์ ตรวจสอบได้ และไม่สามารถย้อนคืนได้” ในคาบสมุทรเกาหลี
นายแมททิส (ภาพ) กล่าวว่า รัฐบาลจีนได้เคลื่อนกำลังยุทโธปกรณ์จำนวนหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือ ขีปนาวุธจากพื้นดินสู่อากาศ และอุปกรณ์รบกวนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไปทั่วทะเลจีนใต้ที่ซึ่งจีนได้สร้างเกาะขนาดเล็กและพื้นที่ทางทะเลต่าง ๆ ให้เป็นฐานทัพทางทหารที่แข็งแกร่ง
นอกจากนี้รัฐบาลจีนยังได้นำเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ลงจอดในเกาะวู้ดดี้ในหมู่เกาะพาราเซล
“แม้ว่าจีนจะกล่าวอ้างในทางตรงกันข้าม แต่การจัดวางระบบอาวุธเหล่านี้มีความสัมพันธ์โดยตรงกับการใช้ประโยชน์ทางทหารเพื่อจุดประสงค์ของการสร้างความเกรงกลัวและการบีบบังคับ” นายแมททิสกล่าวในที่ประชุมแชงกรีลาไดอะล็อกเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2561 ในสิงคโปร์
นอกจากนี้นายแมททิสยังได้ตำหนินายสี จิ้นผิง ที่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ที่ทำเนียบขาวเมื่อ พ.ศ. 2558 ว่ารัฐบาลจีนจะไม่จัดกำลังทางทหารบนพื้นที่เกาะในทะเลจีนใต้
คำปราศรัยของนายแมททิสในสิงคโปร์เป็นครั้งที่สองที่นายแมททิสได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนี้ตั้งแต่เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
นายแมททิสวกกลับสู่หัวข้อที่ตนและเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระดับอาวุโสอื่น ๆ ได้กล่าวย้ำมาตั้งแต่นายทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่ง นั่นคือสหรัฐฯ จะยังคงมีบทบาทในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกต่อไป และประเทศพันธมิตรควรที่จะร่วมมือกับรัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ใช่รัฐบาลจีน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้กล่าวหาจีนว่าใช้เศรษฐศาสตร์ “เชิงขจัดคู่แข่ง” ในการเอารัดเอาเปรียบประเทศเพื่อนบ้าน นายแมททิสกล่าวเน้นว่า สหรัฐฯ สนับสนุนการยุติข้อพิพาทโดยสันติ “การค้าและการลงทุนที่เสรี เป็นธรรม และเป็นผลประโยชน์ต่อทุกฝ่าย” และการยึดมั่นในกฎกติกาและบรรทัดฐานระหว่างประเทศ
เมื่อไม่นานนี้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ยกเลิกคำเชิญชวนที่จะให้จีนเข้าร่วมการฝึกทหารทางทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกที่จัดขึ้นทุกสองปี นายแมททิสระบุการกระทำนี้ว่าเป็น “การตอบโต้ในขั้นแรก”
“ผลที่จะตามมาในอนาคตเมื่อประเทศต่าง ๆ สูญเสียไมตรีจิตจากประเทศเพื่อนบ้านนั้นมีความรุนแรงกว่านี้มาก” นายแมททิสกล่าวเตือน
“จีนเชื่อว่าการเพิ่มพูนหนี้สินให้กับประเทศเพื่อนบ้านและการลดเสรีภาพของการกระทำทางการเมืองเป็นวิธีการในการเข้าหา ท้ายที่สุดแล้ววิธีการเหล่านี้จะไม่ได้ผล”
คณะผู้แทนที่หวังจะได้รับความกระจ่างในความตั้งใจของนายทรัมป์สำหรับการประชุมสุดยอดที่จะจัดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนกับนายคิม ผู้นำเกาหลีเหนือ ไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมมากนักจากนายแมททิส แต่นายแมททิสได้กล่าวว่า ประเด็นของการเคลื่อนกำลังพลถาวรของทหารสหรัฐฯ ประมาณ 28,500 นายไปยังเกาหลีใต้จะไม่เป็น “ประเด็นในการเจรจา”
“ในคาบสมุทรเกาหลี เรายืนหยัดที่จะเคียงข้างพันธมิตรของเรา โดยสนับสนุนนักการทูตของเราซึ่งเป็นผู้นำในความพยายามนี้” นายแมททิสกล่าว
“จุดมุ่งหมายของเรายังคงเป็นการปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ตรวจสอบได้ และไม่สามารถย้อนคืนได้ของคาบสมุทรเกาหลี”