ติดอันดับ

ความสัมพันธ์ทางการทูตและที่ตั้งทำให้สิงคโปร์เหมาะที่จะจัดการประชุมสุดยอดระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีเหนือ

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ความสัมพันธ์ทางการทูตของสิงคโปร์กับเกาหลีเหนือ ประกอบกับที่ตั้งที่ค่อนข้างใกล้ ทำให้สิงคโปร์เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการจัดการประชุมสุดยอดระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริก าและนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีใต้

ผู้นำทั้งสองมีกำหนดการที่จะประชุมร่วมกันที่สิงคโปร์ในวันที่ 12 มิถุนายน แม้ว่าคำแถลงของสำนักข่าวอย่างเป็นทางการของเกาหลีเหนืออาจทำให้เกิดความสงสัยว่าการประชุมนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

สิงคโปร์เป็น “สถานที่ที่เหมาะสมที่สุด” สำหรับการประชุมสุดยอดนี้ นายทอม แพลนต์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์และการแพร่กระจายอาวุธแห่งสถาบันรอยัล ยูไนเต็ด เซอร์วิส ในกรุงลอนดอนกล่าว “นายคิมจะอยู่ในดินแดนที่เป็นมิตร ไม่ใช่ดินแดนที่เป็นปรปักษ์ แต่ก็ไม่ใช่บ้านของตัวเอง”

(ภาพ: ภาพของนายโดนัลด์ ทรัมป์ (ขวา) และนายคิม จองอึน ปรากฏบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ที่ประกาศการประชุมสุดยอดที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 12 มิถุนายนที่สิงคโปร์)

ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ระยะทางที่ใกล้กว่าสำหรับนายคิมเมื่อเทียบกับประเทศในยุโรป ประสบการณ์ของกองกำลังรักษาความปลอดภัยของสิงคโปร์เป็นสิ่งสำคัญ และความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสิงคโปร์และเกาหลีเหนือที่มีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518

สิงคโปร์เป็นสถานที่ที่คุ้นเคยสำหรับเกาหลีเหนือ ซึ่งมีสถานทูตตั้งอยู่ใจกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจของสิงคโปร์

การปกครองระบอบพรรคเดียวตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับอิสรภาพใน พ.ศ. 2508 เป็นการรับรองถึงเสถียรภาพของประเทศ และทำให้เกิดประเทศที่มีความมั่นคงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดของโลกประเทศหนึ่ง เนื่องจากตั้งอยู่ระหว่างประเทศที่มีประชากรเป็นชาวมิสลุมเป็นส่วนใหญ่สองประเทศ นั่นคือมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มผู้เห็นใจขบวนการรัฐอิสลาม ทำให้สิงคโปร์มีความปลอดภัยจากภัยคุกคามการก่อการร้าย

นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการประชุมที่ต้องมีการรักษาความปลอดภัยระดับสูงสุด การประท้วงไม่สามารถมีได้โดยที่ไม่ได้รับอนุญาต มีการจำกัดการเคลื่อนไหวอย่างเคร่งครัด และมีความสามารถในการควบคุมสื่อมวลชน

สิงคโปร์มักได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากนักเสรีนิยมสิทธิพลเมืองว่าเป็นประเทศที่กดขี่ประชาชน สิ่งที่ได้รับการร้องเรียนสูงสุดได้แก่ การกักขังเชิงป้องกันโดยที่ไม่มีหมายจับหรือข้อกล่าวหา การจับตาการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์หรือทางโทรศัพท์ที่เป็นส่วนตัวโดยไม่มีหมายอนุญาตเช่นกัน การใช้กฎหมายหมิ่นประมาทเพื่อลดการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล และการใช้กฎหมายอันเข้มงวดที่จำกัดเสรีภาพในการสมาคม ตามข้อมูลจากรายงานด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

ในอดีตที่ผ่านมา รัฐวิสาหกิจของเกาหลีเหนือเคยทำข้อตกลงด้านธุรกิจทั้งแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมายกับบริษัทสิงคโปร์ เมื่อได้รับแรงกดดันจากสหรัฐฯ และมีรายงานของสหประชาชาติรั่วไหลออกมา สิงคโปร์ได้ตัดความสัมพันธ์ทางการค้ากับเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการใน พ.ศ. 2560 เพื่อปฏิบัติตามมาตรการคว่ำบาตร

นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อสหรัฐฯ เช่นกัน

สิงคโปร์เป็นคู่ค้าที่สำคัญ เป็นนักลงทุนขนาดใหญ่อันดับสองในภูมิภาคเอเชีย และเป็นผู้สนับสนุนการแสดงตนทางทหารของสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกมาเป็นเวลานาน นอกจากนี้สิงคโปร์ยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคของบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ หลายบริษัท รวมถึง กูเกิล เฟสบุ๊ค และแอร์บีแอนด์บี ทั้งสองประเทศมีความสัมพันธ์ทางการทูตตั้งแต่ พ.ศ. 2509

“ฝั่งเกาหลีเหนือน่าจะมีประเด็นด้านโลจิสติกส์และระเบียบวิธีการต่าง ๆ ที่ต้องการให้สถานที่จะใช้จัดการประชุมสุดยอดจัดเตรียมให้ ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงว่าการมีสถานทูตเกาหลีเหนือตั้งอยู่ในประเทศที่จะเป็นเจ้าภาพการประชุมเป็นเงื่อนไขหนึ่งของการประชุมครั้งนี้” นายมัลคอล์ม คุก นักวิชาการอาวุโสแห่งสถาบันการศึกษาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยูซอฟ ไอแชค ในสิงคโปร์กล่าว

สิงคโปร์อยู่ห่างจากเกาหลีเหนือ 4,800 กิโลเมตร มีระยะทางการบินที่สะดวก หากจะบินไปยังยุโรปตะวันตก คงต้องมีการหยุดแวะเติมเชื้อเพลงหนึ่งหรือสองครั้ง

“เนื่องจากสิงคโปร์ไม่ได้อยู่ไกลจนเกินไปอย่างประเทศในยุโรป ทำให้เครื่องบินส่วนตัวของนายคิม จองอึน สามารถบินมาโดยไม่ต้องแวะเติมเชื้อเพลิง และไม่ได้อยู่ใกล้จนอาจมองได้ว่านายทรัมป์กำลัง ‘ให้ทาง’ นายคิมโดยการยอมเดินทางมาไกลกว่าอีกฝ่ายหนึ่ง” นายนาห์ เลียง ทวาง นักวิจัยแห่งสถาบันกลาโหมและยุทธวิธีศึกษากล่าว

นายเดวิด เอเดลมัน อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสิงคโปร์กล่าวว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความเหมาะสมที่สุด เพราะเป็น “คนกลางที่ซื่อสัตย์ของทั้งชาติตะวันตกและชาติตะวันออก”

“สิงคโปร์เป็นมิตรที่ดีต่อสหรัฐฯ แต่สิงคโปร์ก็มีความพยายามที่จะเป็นมิตรต่อทุกฝ่าย ทำให้ได้รับการไว้วางใจจากรัฐบาลต่าง ๆ รอบโลก” นายเอเดลมันกล่าว

ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมของสิงคโปร์ต้อนรับคู่ค้าจากทุกแห่ง ไม่ว่าจะมีลัทธิทางการเมืองใดก็ตาม

“เราหวังว่าการประชุมนี้จะพัฒนาโอกาสสำหรับสันติภาพในคาบสมุทรเกาหลี” กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์

ในพ.ศ. 2558 สิงคโปร์ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดครั้งประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งมาแล้วระหว่างสองผู้นำที่มีประวัติของความไม่ไว้วางใจซื่งกันและกันมาเป็นเวลานาน นั่นคือนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และนายหม่า อิง-จิ่ว ประธานาธิบดีไต้หวันในขณะนั้น ซึ่งเป็นการประชุมในลักษณะนี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่การก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อ พ.ศ. 2492

นอกจากนี้ สิงคโปร์ยังเคยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับภูมิภาคต่าง ๆ รวมถึงการประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อ พ.ศ. 2550 และ พ.ศ. 2561 ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 ได้มีการจัดการประชุมด้านความมั่นคงที่สิงคโปร์เป็นประจำทุกปี โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่จากประเทศต่าง ๆ รวมถึงสหรัฐฯ จีนและเกาหลีใต้เข้าร่วม

เมื่อใดที่มีการประชุมในระดับนี้ สิงคโปร์จะตั้งด่านรอบบริเวณสถานที่จัดการประชุม โดยมีทหารกุรข่าชาวเนปาลยืนประจำการ

เมื่อ พ.ศ. 2558 ทหารกุรข่าได้ยิงใส่รถที่วิ่งฝ่าด่านสี่ด่านและพุ่งเข้าชนสิ่งกีดขวางคอนกรีต คนขับเสียชีวิตในขณะที่ผู้โดยสารสองคนถูกจับกุม โดยปรากฏว่าเป็นการขับรถชนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่ใช่การโจมตีแต่อย่างใด

แขกระดับสูงจากต่างประเทศจะไม่ถูกผู้ประท้วงรบกวนเช่นกัน การประท้วงในสิงคโปร์สามารถทำได้ในบริเวณที่ระบุไว้เท่านั้น นั่นคือ สวนสาธารณะฮงลิม ซึ่งมีขนาด 0.9 เฮกตาร์

องค์การนิรโทษกรรมสากลกล่าวว่า การแก้ไขรัฐบัญญัติว่าด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนของสิงคโปร์ได้มอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่ของรัฐมากขึ้นในการควบคุมการรวมตัวของประชาชน และเคยมีการจับกุมผู้เข้าร่วมการประท้วงโดยสันติมาแล้ว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button