ข่าวผู้ก่อการร้ายแผนก

หน่วยเฉพาะกิจร่วมระหว่าง ฟิลิปปินส์ มาเลเซียและอินโดนีเซีย เพื่อเฝ้าระวังและต่อต้านการก่อการร้าย

รอยเตอร์

นายโรดรีโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ระบุในช่วงต้นเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 ว่าตนจะร่วมหารือกับอินโดนีเซียและมาเลเซียเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากรัฐอิสลาม

นายดูแตร์เตได้แสดงความเต็มใจที่จะเปิดพรมแดนให้กับกองกำลังรักษาความมั่นคงของอินโดนีเซียและมาเลเซียที่กำลังไล่ล่าเหล่านักรบอิสลาม นายดูแตร์เตมีแผนที่จะร่วมประชุมกับนาย

โจโก วีโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายนาจิบ ราซะก์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียในเรื่องนี้

“เราเห็นพ้องกันว่า เราสามคนจะหารือกัน เรากำลังรอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น” นายดูแตร์เตกล่าวกับผู้สื่อข่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการหารือในเรื่องใดบ้าง นายดูแตร์เตตอบว่า “แน่นอนว่าจะเป็นเรื่องหน่วยเฉพาะกิจ และผมจะเปิดพรมแดนให้กับทางการมาเลเซียและอินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่จะสามารถข้ามพรมแดนเข้ามาได้”

(ซ้ายสุด) นายติโต คาร์นาเวียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย (จากซ้าย) นายโรนัลด์ เดลา โรซา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ และนายคาลิด อาบู บาการ์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติมาเลเซีย ไขว้แขนกันก่อนเริ่มการประชุมความมั่นคงไตรภาคีในเมืองปาเซย์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้เห็นพ้องร่วมกันว่าจะใช้เครื่องบินสอดแนมและโดรนเพื่อสกัดกั้นกลุ่มหัวรุนแรงที่เคลื่อนที่ข้ามชายแดนระหว่างประเทศ อันเนื่องมาจากความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลของรัฐอิสลามในภูมิภาคนี้

ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าที่กลาโหมของทั้งสามประเทศที่มีพรมแดนติดต่อกันนี้ได้ตกลงที่จะรวบรวมข่าวกรอง ติดตามการสื่อสารและการปราบปรามการไหลบ่าของอาวุธ นักรบและเงิน

นายอานิฟาห์ อามัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย กล่าวในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 ว่า ลัทธิหัวรุนแรงจะต้องถูกตอบโต้ในทันที และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างสามประเทศจะต้องมีความ “ต่อเนื่องและเหนียวแน่น”

“นั่นหมายความว่าหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของเราต้องมีการปฏิสัมพันธ์กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ในเรื่องการแบ่งปันข่าวกรองเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงมาตรการเชิงรุกต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่” นายอามันกล่าวในระหว่างการประชุมความมั่นคงไตรภาคีที่เมืองปาเซย์ ซึ่งเป็นพื้นที่ชานเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์

อินโดนีเซีย มาเลเซียและฟิลิปปินส์ได้เริ่มการลาดตระเวนร่วมกันเพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ที่เป็นเกาะของประเทศเหล่านี้ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ฟิลิปปินส์ได้ตกลงให้มาเลเซียและอินโดนีเซียดำเนินภารกิจ “การไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด” ในน่านน้ำของตนเพื่อต่อสู้กับการลักพาตัวและการกระทำอันเป็นโจรสลัดโดยกลุ่มกบฏอิสลามอาบู ซายาฟ

นายดูแตร์เตได้ระบุในเดือนกันยายน พ.ศ. 2560 ว่า การประชุมกับนายวีโดโดและนายนาจิบอาจเกิดขึ้นหลังจากที่สถานการณ์การปิดล้อมเมืองมาราวีซึ่งอยู่ทางตอนใต้ฟิลิปปินส์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มหัวรุนแรงที่ภักดีต่อรัฐอิสลามได้รับการแก้ไขจนเสร็จสิ้น

นายเดลฟิน โลเรนซานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ (กลาง) ตรวจสอบอาวุธปืนอานุภาพร้ายแรงที่ยึดได้จากพื้นที่หลบซ่อนต่าง ๆ ของกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง ในระหว่างการไปเยือนค่ายทหารในเมืองมาราวี รอยเตอร์

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 กองทัพฟิลิปปินส์เข้าควบคุมเมืองมาราวีให้หลุดพ้นจากการถูกปิดล้อมและประกาศการสิ้นสุดของสงครามกลางเมืองอันรุนแรงที่กินเวลาห้าเดือน และเป็นวิกฤตการณ์ด้านความมั่นคงที่ใหญ่หลวงที่สุดในฟิลิปปินส์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงเวลานั้น มีผู้คนเสียชีวิตกว่า 1,100 คน ในจำนวนนี้มีสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงและผู้นำของกลุ่ม 920 คน ซึ่งผู้นำคนดังกล่าวคือนายอิสนิลอน ฮาปิลอน ตามที่ได้รับการยืนยันโดยผลวิเคราะห์ดีเอ็นเอ

นายเดลฟิน โลเรนซานา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวในช่วงปลายเดือนตุลาคมว่ากองทัพได้ยุติการปฏิบัติการสู้รบหลังจากที่กองกำลังทหารมีชัยในการปะทะครั้งสุดท้ายกลุ่มมือปืนที่ยึดที่มั่นในอาคารหลายแห่งในใจกลางเมืองมาราวี
“ไม่มีกลุ่มหัวรุนแรงในมาราวีอีกต่อไปแล้ว” นายโลเรนซานากล่าวกับผู้สื่อข่าวในการสัมภาษณ์นอกรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมระดับภูมิภาค

พล.ต. เรสติตูโต พาเดีย โฆษกของกองทัพฟิลิปปินส์ยืนยันว่ายังมีการยิงปืนเกิดขึ้นในเมืองดังกล่าว แต่ไม่มี “ผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป” ในเมืองมาราวี พล.ต. พาเดียไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวในเวลาต่อมาว่า กองทัพได้ปราบปราม “ความพยายามที่จริงจังที่สุดในการถ่ายทอดแนวคิดสุดโต่งที่นิยมความรุนแรงและแนวคิดหัวรุนแรงในฟิลิปปินส์และในภูมิภาคนี้”

“เรามีส่วนร่วมในการป้องกันการแพร่กระจายแนวคิดหัวรุนแรงในเอเชีย รวมถึงการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความมั่นคงของโลก” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button