ติดอันดับ

ฟิลิปปินส์เรียกสหรัฐฯ ว่าเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุด

เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส

ผู้บัญชาการทหารของฟิลิปปินส์ยกย่องสหรัฐอเมริกาว่าเป็น “พันธมิตรอันดับ 1” ของฟิลิปปินส์ และประกาศว่าจะกลับเข้าสู่การซ้อมรบตามปกติ หลังจากที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต เรียกร้องความสัมพันธ์ที่อบอุ่นมากขึ้น

ในช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 นายดูเตอร์เตปฏิญาณว่าจะ “เป็นมิตร” กับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณการสิ้นสุดของการวิจารณ์อย่างไม่ยอมอ่อนข้อ ซึ่งรวมถึงความตั้งใจที่จะยุติการฝึกปฏิบัติการทางทหารทั้งหมดร่วมกัน และการโจมตีส่วนตัวต่อนายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น

พล.อ. เอดูอาร์โด อาโน ผู้บัญชาการทหารซึ่งเดินทางกลับจากการพบปะกับพล.ร.อ. แฮร์รี่ บี. แฮร์ริส จูเนียร์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิกที่รัฐฮาวายเมื่อต้นเดือนตุลาคมกล่าวว่า ชาติพันธมิตรทั้งสองได้ตกลงที่จะเพิ่มการฝึกปฏิบัติการทางทหารร่วมกันในปี พ.ศ. 2561 หลังจากลดจำนวนการฝึกปฏิบัติการลงในปี พ.ศ. 2560

“ประธานาธิบดีกล่าวว่า ‘ผมต้องการผูกมิตรกับสหรัฐฯ มากกว่านี้’ ดังนั้น เราจึงมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและการฝึกปฏิบัติการมากขึ้น” พล.อ. อาโนกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงมะนิลา “นายดูเตอร์เตกล่าวว่าจะร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาต่อไป สหรัฐฯ ยังคงเป็นพันธมิตรอันดับ 1 ของเรา”

พล.อ. อาโนทางด้านซ้ายมือของนายดูเตอร์เตในภาพกล่าวว่า การฝึกปฏิบัติการร่วมกันในปี พ.ศ. 2561 จะมุ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับการต่อต้านการก่อการร้าย การตอบสนองภัยพิบัติ และการป้องกันอาณาเขต

ในขณะที่นายดูเตอร์เตพยายามที่จะลดความเป็นพันธมิตรของฟิลิปปินส์กับสหรัฐอเมริกาไม่นานหลังจากที่เขาเข้าดำรงตำแหน่ง นายดูเตอร์เตยังคาดหวังในการสร้างความสัมพันธ์อันอบอุ่นมากขึ้นกับจีนและรัสเซีย

นายดูเตอร์เตประกาศถึง “การแยก” ฟิลิปปินส์ออกจากสหรัฐอเมริกาในระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งในปีที่ผ่านมา

นายดูเตอร์เตได้อธิบายในภายหลังว่า เขาโกรธนายโอบามาสำหรับการวิจารณ์สงครามยาเสพติดของเขา ซึ่งมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนและทำให้กลุ่มสิทธิมนุษยชนเตือนว่า นายดูเตอร์เตอาจกระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

นายดูเตอร์เตกล่าวเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2560 ว่า ข้อพิพาทดังกล่าวเป็น “เหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วซึ่งไม่มีความสำคัญ” ในขณะที่ขอบคุณสหรัฐอเมริกาสำหรับการช่วยเหลือฟิลิปปินส์สู้รบกับกลุ่มหัวรุนแรงชาวมุสลิมซึ่งได้ยึดครองดินแดนบางส่วนของเมืองมาราวีซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ตั้งแต่วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สหรัฐฯ ได้ให้ข่าวกรอง อาวุธ และการฝึกแก่กองกำลังทหารในท้องถิ่นที่พยายามยึดเมืองมาราวีกลับคืนมา

การสู้รบดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 900 คน และเพิ่มความหวาดกลัวว่ารัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรียกำลังพยายามก่อตั้งฐานทัพเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในฟิลิปปินส์

พล.อ. อาโนกล่าวเมื่อเดือนตุลาคมว่า ฟิลิปปินส์จะยังคงดำเนินความสัมพันธ์ทางทหารอย่างใกล้ชิดกับจีน โดยกล่าวในพิธีที่จีนส่งคืนปืนไรเฟิลโจมตีจำนวน 3,000 กระบอกและกระสุนมูลค่า 168 ล้านเปโซ (3.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 105.6 ล้านบาท) ให้กับกองทัพฟิลิปปินส์สำหรับใช้ในการสู้รบกับผู้ก่อการร้าย

“สหรัฐฯ ไม่ใช่ศัตรูของเรา จีนไม่ใช่ศัตรูของเรา ลำดับความสำคัญสูงสุดของเรา คือ ผลประโยชน์ของประเทศ” พล.อ. อาโนกล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button