ชาวศรีลังกาจำนวนมากไม่ไว้วางใจแรงจูงใจของจีนสำหรับการลงทุนในบริเวณท่าเรือ
เจ้าหน้าที่ฟอรัม
ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 ชาวศรีลังกาหลายร้อยคนรวมถึงพระสงฆ์ (ดังภาพ) ประท้วงการเปิดเขตการลงทุนที่วางแผนไว้ที่จะได้รับเงินทุนจากจีน และการที่รัฐบาลให้จีนเช่าท่าเรือในบริเวณใกล้เคียงในเมืองแฮมบันโตตา ประเทศศรีลังกา จากการรายงานของสำนักข่าวหลายแห่ง
ผู้ประท้วงโต้แย้งว่า รัฐบาลของนายไมตรีปาละ สิริเสนา ประธานาธิบดีศรีลังกา มีเจตนาที่จะขับไล่ครอบครัวหลายพันครัวเรือนออกจากพื้นที่เพื่อเปิดพื้นที่เขตอุตสาหกรรมใหม่ขนาด 6,070 เฮกตาร์ให้กับจีน รอยเตอร์รายงาน
ตำรวจจับกุมผู้ประท้วง 52 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 21 คนในระหว่างการประท้วง รอยเตอร์ระบุ ตำรวจใช้สิ่งกีดขวางบนถนน แก๊สน้ำตา และรถฉีดน้ำเพื่อควบคุมฝูงชน ซึ่งผู้ประท้วงหลายคนได้ขว้างก้อนหินใส่ผู้สนับสนุนรัฐบาลซึ่งตอบโต้ในแบบเดียวกัน จากการรายงานของเอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส และดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส (เอพี)
นายรานิล วิกรามาสิงหะ นายกรัฐมนตรีศรีลังกาซึ่งเข้าร่วมในงานเปิดเขตอุตสาหกรรมแม้ว่าจะมีการประท้วงกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ข้อตกลงกับจีนเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อลดภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นจากการสร้างท่าเรือแฮมบันโตตาของศรีลังกา นายวิกรามาสิงหะและนายสิริเสนา ประธานาธิบดี กล่าวโทษนายมาฮินดา ราชปักษา อดีตประธานาธิบดี ซึ่งรัฐบาลของนายราชปักษามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับจีนว่า เป็นผู้ทำให้เกิดหนี้สินและผลักดันให้เกิดการประท้วงต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม ทั้งท่าเรือและสนามบินดำเนินงานอย่างขาดทุน เจ้าหน้าที่รัฐบาลกล่าว
นักวิเคราะห์บางส่วนกล่าวว่า จีนสร้างท่าเรือและสนามบินมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 5.25 หมื่นล้านบาท) ในเขตพื้นที่ตอนใต้ของเมืองแฮมบันโตตาซึ่งอยู่ห่างประมาณ 240 กิโลเมตรทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโคลัมโบซึ่งเป็นเมืองหลวง ในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ “สร้อยไข่มุก” จากการรายงานของเอพี ยุทธศาสตร์ดังกล่าวนำมาซึ่งการสร้างเครือข่ายฐานทัพจีนและความสัมพันธ์ทั่วทั้งมหาสมุทรอินเดียและพื้นที่โดยรอบบริเวณชายฝั่งของอินเดียเพื่อเพิ่มอิทธิพลของจีนในเอเชียใต้
นายดี.วี. ชานากา หนึ่งในสมาชิกรัฐสภาของศรีลังกาและผู้จัดการประท้วงกังวลว่า เขตอุตสาหกรรมจะกลายเป็น “อาณานิคมของจีน” เอพีรายงาน
“เราต่อต้านการให้เช่าที่ดินที่ผู้คนอยู่อาศัยและทำการเกษตร ในขณะที่มีพื้นที่ที่ระบุไว้สำหรับเขตอุตสาหกรรม” นายชานากากล่าว “เมื่อเราให้พื้นที่อันกว้างใหญ่ขนาดนั้นไปเปล่า ๆ เราจะไม่สามารถหยุดยั้งดินแดนนั้นจากการกลายเป็นอาณานิคมของจีนได้”
รัฐบาลของนายสิริเสนาใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงกับบริษัทไชน่า เมอร์แชนท์ พอร์ต โฮลดิ้งส์ เพื่อพัฒนาท่าเรือซึ่งจีนเป็นผู้สร้าง ภายใต้เงื่อนไขว่าจีนจะเป็นเจ้าของร้อยละ 80 ผ่านการเช่า 99 ปีเพื่อแลกกับเงินลงทุน 1.12 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3.92 หมื่นล้านบาท)
จีนยังได้สัญญาว่า “หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี” จีนจะลงทุนอีก 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.75 แสนล้านบาท) ในอีกสามถึงห้าปีข้างหน้า และสร้างงาน 100,000 ตำแหน่ง นายหยี เซี่ยนหลาง เอกอัครราชทูตจีนกล่าวในระหว่างพิธีเปิดเขตการลงทุนซึ่งมีผู้ประท้วง รอยเตอร์รายงาน
พระมากามา มหานามา ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรปกป้องทรัพย์สินแห่งชาติของพระสงฆ์กล่าวว่า พระสงฆ์จะยื่นกฤษฎีกาต่อรัฐบาลเพื่อหยุดยั้งการเช่า กฤษฎีกาดังกล่าวได้รับเกียรติตามประเพณีดั้งเดิมโดยกษัตริย์ของศรีลังกา เอพีระบุ
“นี่เป็นวิธีในการส่งข้อความว่า พระสงฆ์ไม่เห็นด้วย” พระมหานามากล่าวกับเอพี “เก้าสิบเก้าปีหมายถึงสองชั่วอายุคนเป็นอย่างน้อย เมื่อจีนตั้งรกรากที่นี่ มีอะไรที่รับประกันได้ว่าเราจะได้ดินแดนกลับคืนมา นี่เป็นการคุกคามที่สำคัญต่อการทำลายวัฒนธรรมและการเปลี่ยนแปลงทางประชากรศาสตร์”
นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมือง 26 ปีของศรีลังกาในปี พ.ศ. 2552 จีนได้ลงทุนเป็นจำนวนหลายล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐานของศรีลังกา
