ญี่ปุ่นจะเพิ่มการแสดงตนในทะเลจีนใต้
รอยเตอร์
ญี่ปุ่นจะเพิ่มกิจกรรมของตนในทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาทโดยผ่านการฝึกการลาดตระเวนร่วมกับสหรัฐอเมริกา และการฝึกปฏิบัติการกับกองทัพเรือต่าง ๆ ในภูมิภาค นางโทโมมิ อินาดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2559
นางอินาดะกล่าวในการปราศรัยที่ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศซึ่งเป็นคณะวิจัยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ว่า การมีส่วนร่วมที่เพิ่มขึ้นของญี่ปุ่นในพื้นที่ดังกล่าวจะรวมถึงการสร้างขีดความสามารถสำหรับประเทศต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่ง ซึ่งญี่ปุ่นมีความกังวลเช่นเดียวกับสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการดำเนินการอ้างสิทธิเหนืออาณาเขตเป็นบริเวณกว้างของจีน นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีข้อพิพาทของตนกับจีนเกี่ยวกับอาณาเขตในทะเลจีนตะวันออก
นางอินาดะกล่าวว่า หากโลกให้อภัยความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงหลักนิติธรรมและยอมให้มี “การบิดเบือนข้อบังคับ” ได้สำเร็จ “อาจส่งผลกระทบไปทั่วโลก”
“ในสถานการณ์นี้ ดิฉันขอสนับสนุนอย่างแข็งขันกับปฏิบัติการเสรีภาพในการเดินเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯ ซึ่งช่วยเหลืออย่างมากในการสนับสนุนกฎระเบียบทางทะเลระหว่างประเทศ” นางอินาดะกล่าว “ในส่วนของญี่ปุ่น เราจะเพิ่มการมีส่วนร่วมในทะเลจีนใต้ เช่น โดยผ่านการฝึกการลาดตระเวนร่วมกันระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลกับกองทัพเรือสหรัฐฯ และการฝึกปฏิบัติการแบบทวิภาคีและพหุภาคีกับกองทัพเรือในภูมิภาค”
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังจะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศต่าง ๆ ตามแนวชายฝั่งในทะเลจีนใต้ นางอินาดะกล่าวก่อนที่จะเดินทางไปเจรจากับนายแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ที่เพนตากอน
ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2559 ญี่ปุ่นกล่าวว่าพร้อมที่จะมอบชุดเรือลาดตระเวนใหม่ให้กับเวียดนามในขั้นตอนล่าสุดเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายทางทะเลของประเทศต่าง ๆ ที่มีข้อพิพาทด้านอาณาเขตกับจีน นอกจากนี้ยังตกลงที่จะมอบเรือลาดตระเวนขนาดใหญ่สองลำ และให้ยืมเครื่องบินตรวจการณ์ที่เคยประจำการแล้วไม่เกินห้าลำแก่ฟิลิปปินส์ซึ่งเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ขัดแย้งกับจีนเกี่ยวกับปัญหาอำนาจอธิปไตยในทะเลจีนใต้
ในการตอบคำถามต่อความคิดเห็นของนางอินาดะ กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ว่า “สหรัฐอเมริกายินดีสำหรับความสนใจในการขยายกิจกรรมทางทะเลของญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้ เราดำเนินการอย่างต่อเนื่องในการค้นหาวิธีที่จะยกระดับความพยายามในความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นเพื่อมีส่วนช่วยในด้านความมั่นคงและเสถียรภาพของภูมิภาคนี้”
เพียงไม่กี่วันหลังจากการแสดงความคิดเห็นของนางอินาดะ จีนกล่าวหาญี่ปุ่นว่าพยายามที่จะสร้าง “ความสับสน” ให้กับสถานการณ์ในทะเลจีนใต้
ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียนี้ได้ถูกบั่นทอนมาอย่างยาวนานด้วยการโต้แย้งในเรื่องประวัติศาสตร์ในช่วงสงครามที่เจ็บปวดและการทะเลาะกันเกี่ยวกับทะเลจีนตะวันออกท่ามกลางปัญหาอื่น ๆ ซึ่งจีนได้ประณามซ้ำ ๆ ถึงสิ่งที่จีนมองว่าเป็นการแทรกแซงโดยสหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรเช่นญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้
นายลู กังโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคได้เห็นพ้องกันว่าปัญหาทะเลจีนใต้ควรได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจาระหว่างภาคีคู่พิพาทที่เกี่ยวข้องโดยตรง และจีนและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ควรร่วมกันรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคนี้
“เรามาดูผลลัพธ์จากการสร้างความวุ่นวายของญี่ปุ่นในช่วงเวลาเดียวกันนี้ โดยกำลังพยายามที่จะสร้างความสับสนให้กับสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ภายใต้การเสแสร้งหรือการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาคมนานาชาติ” นายลูกล่าวในงานแถลงข่าวประจำวันเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการประกาศของญี่ปุ่น
การกระทำของญี่ปุ่นได้เพียงแค่ผลักไสประเทศอื่น ๆ ให้ออกห่างจากตน และล้มเหลวในการกระตุ้นความสนใจให้ประเทศอื่น ๆ เห็นมุมมองของญี่ปุ่น นายลูกล่าวเพิ่มเติม
“จีนแน่วแน่ในความตั้งใจที่จะปกป้องอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ทางทะเลของตน” นายลูกล่าว
จีนอ้างสิทธิเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ซึ่งมีการค้าขายผ่านเส้นทางเดินเรือมูลค่าประมาณ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 175 ล้านล้านบาท) ในแต่ละปี นอกจากนี้ บรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนามยังอ้างสิทธิในทะเลจีนใต้ซึ่งเชื่อกันว่าอุดมไปด้วยทรัพยากรพลังงานและปลาจำนวนมาก
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2559 ภายหลังจากที่ฟิลิปปินส์ได้นำเรื่องขึ้นฟ้องร้อง ศาลอนุญาโตตุลาการในกรุงเฮกตัดสินว่าการอ้างสิทธิของจีนในเส้นทางน้ำไม่ถูกต้อง ซึ่งรัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะยอมรับคำตัดสินดังกล่าว
