ติดอันดับ

สหรัฐอเมริกาคัดค้านการขยายกำลังทางทหารของจีนในทะเลจีนใต้

เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส

จีนเสี่ยงต่อการบาดหมางกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเพิ่มมากขึ้น และสร้าง “กำแพงยักษ์แห่งการโดดเดี่ยวตนเอง” ในขณะที่จีนดำเนินการขยายกำลังทางทหารทั่วทั้งทะเลจีนใต้ นายแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวเตือนเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2559

นายคาร์เตอร์กล่าวในการประชุมสุดยอดด้านความมั่นคงที่สิงคโปร์ว่า ประเทศต่าง ๆ ทั่วทั้งภูมิภาคอินโดเอเชียแปซิฟิกยังคงวิตกกังวลต่อการอ้างสิทธิแห่งอำนาจอธิปไตยโดยส่วนใหญ่เหนือทะเลจีนใต้ของจีน และความพยายามของจีนในการสนับสนุนการอ้างสิทธิเหล่านี้ด้วยการสร้างฐานทัพทางทหารบนเกาะต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นและการเพิ่มการลาดตระเวนทางทะเล

“การกระทำของจีนในทะเลจีนใต้เป็นการโดดเดี่ยวตนเอง ในช่วงเวลาที่ทั่วทั้งภูมิภาคกำลังร่วมมือกันและสร้างเครือข่ายระหว่างกัน” นายคาร์เตอร์กล่าวปราศรัยที่การประชุมประจำปีที่เรียกว่า การประชุมแชงกรีลาไดอะล็อก “เป็นที่น่าเสียดายหากการกระทำเหล่านี้ยังคงดำเนินต่อไป ในท้ายที่สุด จีนจะสร้างกำแพงยักษ์แห่งการโดดเดี่ยวตนเอง”

การอ้างสิทธิเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ของจีนได้ทำให้ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขุ่นเคือง และได้รับการคัดค้านจากสหรัฐอเมริกาซึ่งได้ดำเนินการลาดตระเวนใกล้หมู่เกาะที่ถือครองโดยจีนเพื่อเรียกร้องเสรีภาพในการเดินเรือ น่านน้ำที่มีข้อพิพาทดังกล่าวถูกล้อมรอบด้วยเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญทั่วโลก

ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย และเวียดนามได้ต่อสู้ในการอ้างสิทธิในพื้นที่นี้ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งน้ำมันและก๊าซขนาดใหญ่

ฟิลิปปินส์ได้ยื่นฟ้องจีนต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวรในกรุงเฮก โดยคาดว่าจะได้รับคำพิพากษาในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แต่จีนได้กล่าวว่าจีนจะไม่ยอมรับคำตัดสินใด ๆ

“สหรัฐอเมริกามองว่าคำตัดสินที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นโอกาสสำหรับจีนและประเทศที่เหลือในภูมิภาคที่จะให้คำมั่นอีกครั้งหนึ่งต่ออนาคตแห่งหลักศีลธรรม ฟื้นฟูการทูต และลดความตึงเครียดแทนที่จะทำให้เพิ่มขึ้น” นายคาร์เตอร์กล่าว

นายคาร์เตอร์ระบุว่า กุญแจสำคัญสำหรับความมั่นคงในภูมิภาคคือ การเสริมสร้างความร่วมมือทางทหารทั่วทั้งภูมิภาคและการปฏิบัติตาม “หลักการที่สำคัญ” อาทิ การแก้ไขปัญหาข้อพิพาทต่าง ๆ อย่างสันติผ่านกระบวนการทางกฎหมาย และการพัฒนา “เครือข่ายความมั่นคงตามหลักศีลธรรม”

“เราสามารถหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดในอดีตก็ต่อเมื่อทุกคนอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน เช่นเมื่อประเทศต่าง ๆ ท้าทายซึ่งกันและกันในการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งพลังและอำนาจ ซึ่งก่อให้เกิดหายนะสำหรับภูมิภาค” นายคาร์เตอร์กล่าว

นอกจากนี้ นายคาร์เตอร์ยังเสนอแนะว่าสหรัฐฯ และจีนจะได้รับประโยชน์จากความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีขึ้น ทั้งในด้านการสร้างความเข้าใจและเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

จากการรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่แล้ว เครื่องบินรบสองลำของจีนดำเนินการสกัดกั้นที่ “ไม่ปลอดภัย” ต่อเครื่องบินสอดแนมของสหรัฐฯ ในน่านฟ้าสากลเหนือทะเลจีนใต้ ซึ่งทำให้ความตึงเครียดเพิ่มสูงขึ้นในน่านน้ำที่สำคัญทางยุทธศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง

“อเมริกาต้องการขยายข้อตกลงระหว่างกองทัพกับจีนเพื่อไม่เพียงแต่การลดความเสี่ยง แต่ยังมุ่งเน้นที่ความร่วมมือซึ่งปฏิบัติได้จริง” นายคาร์เตอร์กล่าว

การเข้าร่วมการประชุมสุดยอดของนายคาร์เตอร์เป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันทางการทูตของสหรัฐฯ ที่ครอบคลุม หรือที่เรียกว่า “การปรับสมดุล” เพื่อสร้างและรักษาไว้ซึ่งพันธมิตรในภูมิภาคอินโดเอเชียแปซิฟิกซึ่งอเมริกาเห็นว่ามีความสำคัญต่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของตนในระยะยาว

จากการรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 จีนระงับความพยายามในการถมทะเลเพื่อสร้างเกาะในห่วงโซ่หมู่เกาะสแปรตลีไว้ชั่วคราวในปลายปี พ.ศ. 2558 และแทนที่ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มเติมโครงสร้างทางทหารบนพื้นที่ที่สร้างขึ้นมา

รายงานพบว่าโดยรวมแล้ว จีนได้เพิ่มเติมผืนดินมากกว่า 1,295 เฮกตาร์บนเกาะทั้งเจ็ดที่ตนครอบครองในหมู่เกาะสแปรตลี และจีนได้เพิ่มทางขึ้นลงของเครื่องบินที่มีความยาวอย่างมากบนสามในเจ็ดเกาะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button