กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ผลักดันขอบเขตความรู้ด้านเทคโนโลยี
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ในขณะที่กฎการปะทะได้เปลี่ยนแปลงไปเพื่อตอบสนองกับภัยคุกคามและขีดความสามารถที่ค่อย ๆ พัฒนาขึ้น กองทัพสหรัฐฯ พยายามอย่างต่อเนื่องที่จะค้นหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงใหม่ ๆ สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งมีภารกิจในการ “ดำเนินการลงทุนที่สำคัญในเทคโนโลยีที่ทันสมัยเพื่อความมั่นคงแห่งชาติ” ได้ดำเนินโครงการใหม่ ๆ จำนวนมากในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2558 ในจำนวนนั้นมีสามโครงการซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อตรวจจับและจำกัดการโจมตีทางไซเบอร์ สลายพิษสารเคมีที่ใช้ในสงคราม และตรวจสอบเพื่อความมั่นใจว่ากองทหารรักษาไว้ซื่งความเหนือกว่าทางยุทธวิธีเหนือคู่ต่อสู้ ได้แก่
โครงการระบบการตรวจจับ การแบ่งแยก และการอธิบายลักษณะการโจมตีอย่างรวดเร็ว มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบอัตโนมัติเพื่อช่วยเหลือผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์และระบบสาธารณูปโภคในการตรวจจับการโจมตีบนโครงสร้างพื้นฐานพลังงานไฟฟ้าของชาติและกู้คืนพลังงานไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว สำนักงานแจ้งทางประกาศ
“นอกเหนือจากผลกระทบที่รุนแรงภายในประเทศ ซึ่งรวมถึงค่าใช้จ่ายด้านเศรษฐกิจและทรัพยากรมนุษย์ การหยุดชะงักของพลังงานไฟฟ้าเป็นเวลานานจะขัดขวางการเคลื่อนที่ของกำลังพลและการส่งกำลังบำรุง ซึ่งลดทอนความสามารถของรัฐบาลในการสร้างความแข็งแกร่งทางทหารหรือดำเนินการแก้ไขปัญหาต่างๆ จากวิกฤตการณ์ระดับสากล” นายจอห์น เอเวอเร็ท ผู้จัดการโครงการของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าว
ระบบการตรวจจับ การแบ่งแยก และการอธิบายลักษณะการโจมตีอย่างรวดเร็วนี้ กำหนดให้มีการออกแบบเครือข่ายฉุกเฉินที่รัดกุม โดยสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์จ่ายพลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลาคับขันภายหลังการโจมตีได้ เนื่องจากเป็นไปได้ว่าแฮกเกอร์อาจฝังรหัสที่เป็นอันตรายลงในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของระบบสาธารณูปโภคในระหว่างการโจมตี เครือข่ายฉุกเฉินนี้จะต้องใช้เทคโนโลยีและมาตรการการรักษาความปลอดภัยขั้นสูงเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับองค์กรสำคัญๆ ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า สำนักงานกล่าว
โครงการข้อตกลงร่วมกันเพื่อเปลี่ยนสารเคมีอันตรายให้ปลอดภัยของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้มอบสัญญาสองฉบับเพื่อพัฒนาต้นแบบระบบการกำจัดที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ซึ่งเปลี่ยนสารเคมีที่เป็นอันตรายถึงชีวิตเป็นสารประกอบที่ปลอดภัยโดยไม่สร้างของเสียที่เป็นอันตราย
นางเชอร์ริล ลินน์ แมกจิโอ ผู้บริหารโครงการร่วมสำหรับการป้องกันทางเคมีและชีววิทยา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในแถลงการณ์ที่เตรียมไว้ว่า “เราสนใจเทคโนโลยีใหม่ที่สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กำลังศึกษาในโครงการข้อตกลงร่วมกันเพื่อเปลี่ยนสารเคมีอันตรายให้ปลอดภัยนี้อย่างมาก เทคโนโลยีนี้จะสามารถทำลายสารเคมีที่ใช้ในสงครามทั่วทุกแห่งในโลก โดยที่ไม่ต้องเคลื่อนย้ายออกนอกสถานที่ ไม่เป็นอันตรายต่อสภาพแวดล้อม และยังประหยัดค่าใช้จ่าย”
สำนักงานกล่าวว่า ผู้ดำเนินโครงการดังกล่าวคำนึงถึงเทคโนโลยี “ขนาดเดียวที่เหมาะสมกับทุกสถานการณ์” ซึ่งจะทำให้สารเคมีใด ๆ เป็นกลางโดยไม่ต้องใช้น้ำหรือสร้างของเสียจำนวนมากที่ต้องใช้กระบวนการเพิ่มเติม โดยมีแนวโน้มที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในอุตสาหกรรมสำหรับการทำความสะอาดหรือลดสถานที่ที่อันตราย
โครงการเทคโนโลยีสควอด เอ็กซ์ คอร์ ของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาวิธีการใหม่ ๆ ในการรวมระบบที่เป็นมิตรกับผู้ใช้เข้าไว้ด้วยกันเพื่อเพิ่มการรับรู้ทางทหารและเพิ่มขีดความสามารถในการสู้รบของทหารราบที่ไม่ได้อยู่ในยานพาหนะโดยไม่เป็นอุปสรรคต่อการรับรู้หรือการเคลื่อนไหวของร่างกายภายใต้สถานการณ์ภาคสนามที่ท้าท้าย ที่ผ่านมา การนำความสามารถที่ทันสมัยต่อการรับรู้ในสถานการณ์แบบทันทีมาใช้กับกองทหารภาคพื้นดินได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นสิ่งที่ท้าทาย
โครงการดังกล่าวต้องสร้าง “ภาพปฏิบัติการแบบ 3 มิติโดยทั่วไปที่ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่ได้จากอุปกรณ์รับสัญญาณเคลื่อนที่แบบผสมผสาน รวมทั้งความสามารถในการระบุที่ตั้งโดยธรรมชาติและค้นหากองทหารฝ่ายเดียวกันและที่ตั้งซึ่งเป็นภัยคุกคามในเกือบทันที” พ.ต.คริสโตเฟอร์ ออโลสกี ผู้จัดการโครงการของสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในการแถลงข่าว สำนักงานดังกล่าวได้ทำสัญญากับหลายบริษัทซึ่งให้สัญญาว่าจะพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อ “มอบการรับรู้ที่ไม่เคยมีมาก่อน ตลอดจนความสามารถในการปรับตัวและความยืดหยุ่นของทหารบกและนาวิกโยธินที่ไม่ได้อยู่ในยานพาหนะ และทำให้สมาชิกหมู่ทหารมีความเข้าใจโดยสัญชาตญานและควบคุมสภาพแวดล้อมของภารกิจที่ซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น”