ติดอันดับ

บรรดาผู้นำเรียกร้องให้มีการแบ่งปันข่าวกรองเพิ่มขึ้นเพื่อต่อสู้กับรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้เข้าร่วมกับบรรดาผู้นำในอินโดเอเชียแปซิฟิกซึ่งกำลังเพิ่มจำนวนสูงขึ้นในการเรียกร้องให้มีการแบ่งปันข่าวกรองระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงให้มากขึ้นเพื่อลดภัยคุกคามจากรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์

“จากมุมมองของชาวออสเตรเลีย เรามองเห็นภัยอันตรายที่แท้จริงซึ่งกลุ่มผู้ก่อการร้ายในภูมิภาคนี้อาจได้รับแรงบันดาลใจจากการโจมตีต่าง ๆ ดังเช่นที่เราได้เห็นในอังการา เบรุต บามาโก และปารีส และเราให้ความสนใจเป็นอย่างมากในข้อเท็จจริงที่ว่า ในแต่ละปีชาวออสเตรเลียนับแสนคนเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพื่อธุรกิจ การศึกษา หรือวันหยุดพักผ่อน” นายแมลคัม เทิร์นบุลล์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 จากรายงานของรอยเตอร์

นายซาอัด อุสมาน เนซูชัน หัวหน้าองค์การต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของอินโดนีเซีย ได้ร้องขอในทำนองเดียวกันเพียงไม่กี่วันก่อนการแสดงความคิดเห็นของนายเทิร์นบุลล์ โดยได้ร้องขอให้ประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “เพิ่ม” การแบ่งปันข่าวกรองในขณะที่ความกังวลเพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับการที่นักรบที่ไปต่อสู้ในต่างประเทศเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติเกรงว่าอาจเป็นไปได้ที่นักรบเหล่านี้จะปฏิบัติการก่อการร้ายโจมตีเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในกรุงปารีสเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

“เราต้องเตรียมการป้องกันล่วงหน้าเกี่ยวกับนักรบที่กลับมา และต้องทำโดยผ่านความร่วมมือและการแบ่งปันข่าวกรองกับหลายประเทศในภูมิภาค” นายเนซูชันกล่าวกับรอยเตอร์ “ประเทศเหล่านี้จะต้องแบ่งปันหากมีข้อมูลเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของขบวนการญิฮาด”

การส่งสัญญาณเตือนภัยในการร่วมมือกันไม่ใช่เป็นเพียงมาตรการเดียวที่ประเทศเหล่านี้ได้ทำ

รอยเตอร์รายงานว่า ในขณะที่นายเทิร์นบุลล์กล่าวว่าออสเตรเลียไม่มีแผนการปรับกลยุทธ์ด้านการทหารสำหรับการต่อสู้กับรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ แต่เมื่อไม่นานมานี้ นายเทิร์นบุลล์ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของออสเตรเลียตรวจสอบความพร้อมสำหรับการตอบสนองต่อการบาดเจ็บเป็นจำนวนมากจากการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

รอยเตอร์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของอินโดนีเซียได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยที่สถานฑูตต่างประเทศในกรุงจาการ์ตา และนายเนซูชันกล่าวว่า ประชาชนสามารถคาดหวังที่จะเห็นการรักษาความปลอดภัยที่เพิ่มมากขึ้นและการตรวจตราที่เข้มงวดมากขึ้นในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทั้งอินโดนีเซีย

“บางคนที่นี่มีความตั้งใจที่จะเปิดการโจมตี ดังนั้น พวกเขาจะทำหากมีโอกาส” นายเนซูชันกล่าวกับรอยเตอร์ “ความรับผิดชอบของเราในขณะนี้คือ ลดโอกาสของพวกเขา”

ทางการอินโดนีเซียเชื่อว่ามีชาวอินโดนีเซียประมาณ 400 ถึง 500 คนกำลังต่อสู้ในซีเรีย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ ไฟแนนเชียลไทมส์

รอยเตอร์รายงานว่า ชาวออสเตรเลียจำนวนมากถึง 120 คนอาจกำลังต่อสู้ร่วมกับรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนต์ และองค์กรหัวรุนแรงอื่น ๆ ในอิรักและซีเรีย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button