ออสเตรเลียเสร็จสิ้นการปฏิบัติการทางอากาศครั้งแรกในซีเรีย
เอเจนซ์ ฟรานซ์ เพรส
เจ้าหน้าที่กลาโหมกล่าวในเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ว่า อากาศยานของออสเตรเลียได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติการครั้งแรกในซีเรียเพียงไม่กี่วันหลังจากที่รัฐบาลออสเตรเลียขยายภารกิจจากอิรักไปยังพื้นที่ที่สามารถต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ได้ดีกว่า
“หน่วยปฏิบัติการทางอากาศเฉพาะกิจออสเตรเลียได้เสร็จสิ้นการปฏิบัติภารกิจครั้งแรกในซีเรียในชั่วข้ามคืน และบินกลับฐานในตะวันออกกลางเรียบร้อยแล้วโดยปราศจากอุบัติการณ์ใด ๆ” กระทรวงกลาโหมระบุในแถลงการณ์ “ไม่มีการใช้อาวุธระหว่างภารกิจการดังกล่าว”
แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า การปฏิบัติการครั้งนี้มีการใช้เครื่องบิน เอฟ/เอ-18 เอ ฮอร์เน็ต ของกองทัพอากาศออสเตรเลียสองลำ เครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศ เคซี-30 เอหนึ่งลำ และเครื่องบินควบคุมและเตือนภัยล่วงหน้าทางอากาศ อี-7 เอหนึ่งลำ
น.อ.สตู เบลลิงแฮม ผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการทางอากาศเฉพาะกิจออสเตรเลียกล่าวว่า เครื่องบินฮอร์เน็ตทำหน้าที่ตรวจสอบกิจกรรมของข้าศึกทางภาคตะวันออกของซีเรีย และรายงานไปยังศูนย์ปฏิบัติการร่วมทางอากาศของกองกำลังผสมนานาชาติ
“นอกจากนี้ เครื่องบินฮอร์เน็ตยังได้เตรียมพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจเร่งด่วนที่มีความสำคัญสูงสุด ซึ่งอาจรวมถึงการตรวจการณ์และการใช้อาวุธ” น.อ.เบลลิงแฮมกล่าว
ออสเตรเลียได้เข้าร่วมกับกองกำลังผสมนานาชาติเพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์อยู่แล้ว แต่เพิ่งตกลงใจที่จะขยายการปฏิบัติการไปยังซีเรีย โดยระบุว่าหลักการทางกฎหมายคือการร่วมกันต่อต้านกลุ่มที่ไม่เคารพพรมแดนเพื่อปกป้องความมั่นคงของอิรัก
“เราไม่สามารถเอาชนะกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ในอิรักได้หากเราไม่เอาชนะกลุ่มนี้ในซีเรีย” นายโทนี แอบบอตต์ นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียในขณะนั้นกล่าวในระหว่างการประกาศภารกิจ
แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมระบุว่า อากาศยานของออสเตรเลียจะยังคงวางแผนและดำเนินการโจมตีทางอากาศเพื่อต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ต่อไป โดยเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของกองกำลังผสมนานาชาติในการกวาดล้างและทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มนี้
กลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลแวนต์ “ควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคตะวันออกของซีเรียซึ่งใช้เป็นแหล่งระดมนักรบมาเข้ากลุ่มและหารายได้จากน้ำมัน และยังเป็นฐานที่มั่นในการวางแผนและเตรียมการโจมตีในอิรักอย่างต่อเนื่อง” น.อ.เบลลิงแฮมกล่าวเพิ่มเติม
