ติดอันดับ

ญี่ปุ่นเรียกร้องให้จีนยุติการสำรวจน้ำมันในพื้นที่ทะเลจีนตะวันออก

รอยเตอร์

ญี่ปุ่นเรียกร้องให้จีนยุติการก่อสร้างแท่นสำรวจน้ำมันและก๊าซในทะเลจีนตะวันออกที่อยู่ใกล้กับน่านน้ำซึ่งถูกอ้างสิทธิโดยประเทศทั้งสอง เนื่องจากมีความกังวลว่าการขุดเจาะดังกล่าวของจีนอาจจะเป็นการดึงเอาก๊าซหรือน้ำมันออกมาจากแหล่งสำรองในอาณาเขตของญี่ปุ่น

กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้เพิ่มข้อเรียกร้องของตนในรายงานกลาโหมประจำปี หลังจากที่สมาชิกพรรครัฐบาลที่นิยมความแข็งกร้าวร้องเรียนในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558 ว่าร่างรายงานฉบับเดิมนั้นมีท่าทีนิ่มนวลต่อจีนมากเกินไป เจ้าหน้าที่ของกระทรวงกล่าว

รายงานเปิดเผยว่าจีนได้กลับไปทำการสำรวจในทะเลจีนตะวันออกอีกครั้งเมื่อสองปีที่แล้ว ในปี พ.ศ. 2555 รัฐบาลญี่ปุ่นทำให้รัฐบาลจีนโกรธโดยซื้อหมู่เกาะที่มีกรณีพิพาท ก่อนหน้านั้น รัฐบาลจีนได้ลดกิจกรรมต่าง ๆ ตามข้อตกลงกับญี่ปุ่นที่จะร่วมกันพัฒนาทรัพยากรใต้ทะเลในพื้นที่พิพาท

เรายืนยันว่าจีนเริ่มการก่อสร้างแท่นสำรวจใหม่ในมหาสมุทรแล้ว และเราคัดค้านการพัฒนาฝ่ายเดียวของจีนอีกครั้งและเรียกร้องให้จีนยุติการกระทำดังกล่าวกระทรวงกลาโหมระบุ

เจ้าหน้ากระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า แท่นสำรวจถูกสร้างขึ้นในฝั่งของจีนตามที่กำหนดโดยเส้นแบ่งครึ่งที่แบ่งแยกเขตเศรษฐกิจจำเพาะของทั้งสองประเทศ

รัฐบาลญี่ปุ่นกังวลว่าแท่นสำรวจนี้จะดึงเอาก๊าซจากแหล่งก๊าซที่ทับซ้อนกันบริเวณเส้นแบ่งครึ่ง และยังอาจถูกใช้เป็นสถานีเรดาร์หรือฐานสำหรับอากาศยานไร้คนขับหรืออากาศยานชนิดอื่น ๆ ที่ใช้ตรวจตราดูกิจกรรมต่าง ๆ ทางอากาศและทางทะเลใกล้กับหมู่เกาะขนาดเล็กที่มีกรณีพิพาท ซึ่งญี่ปุ่นเรียกว่าเกาะเซนกากุและจีนเรียกว่าเกาะเตียวหยู

กระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของจีนไม่ได้ตอบสนองต่อการขอความเห็นในรายงานของญี่ปุ่นโดยทันที

รายงานไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งหรือจำนวนแท่นสำรวจที่จีนสร้างขึ้น

นอกจากนี้ รายงานดังกล่าวที่มีความยาว 500 หน้าที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อะเบะ ยังแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ที่มีข้อพิพาท ซึ่งญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ต่างวิพากษ์วิจารณ์โครงการถมดินเพื่อสร้างพื้นที่ของจีนว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาค

เป็นครั้งแรกที่รายงานมีภาพถ่ายจากดาวเทียมรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นภาพเกาะของจีนในทะเลจีนใต้ที่สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์

โครงการของจีนรุดหน้าอย่างรวดเร็ว โดยจีนได้ถมดินบนแนวหินโสโครกเจ็ดแห่งในหมู่เกาะสแปรตลี และสร้างโครงสร้างพื้นฐานรวมทั้งทางวิ่งเครื่องบินและที่จอดเรือในพื้นที่บางส่วน สหรัฐฯ เป็นชาติแรกที่ออกมาให้ความเห็นว่าการกระทำดังกล่าวสร้างความกังวลให้กับประชาคมนานาชาติรายงานระบุ

จีนอ้างสิทธิในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ซึ่งมีพื้นที่ทั้งสิ้น 3.5 ล้านตารางกิโลเมตร นอกจากนี้ยังมีบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวันและเวียดนามที่ปักหลักอ้างสิทธิเหนือดินแดนดังกล่าวเช่นเดียวกัน

ญี่ปุ่นไม่ได้อ้างสิทธิเหนือดินแดน แต่กลัวว่าฐานปฏิบัติการทหารของรัฐบาลจีนในพื้นที่ดังกล่าวอาจทำให้จีนมีอิทธิพลมากขึ้นในภูมิภาคนี้ ที่มีการลำเลียงสินค้าผ่านเข้าออกในแต่ละปีคิดเป็นมูลค่าการค้าถึง 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือราว ๆ 175.5 ล้านล้านบาท) ซึ่งโดยมากเป็นการลำเลียงสินค้าเข้าออกจากญี่ปุ่น

จีนกล่าวว่าสิ่งปลูกสร้างในทะเลจีนใต้ของตนมีไว้เพื่อการป้องกันตลอดจนการให้บริการแก่ประชาชนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่น ๆ

ญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการฝึกร่วมระหว่างกองทัพเรือของทั้งสองประเทศในทะเลจีนใต้และพื้นที่รอบ ๆ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2558 นายกรัฐมนตรีอะเบะและประธานาธิบดี เบนิกโน อากีโนที่ 3 ของฟิลิปปินส์กล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายอาจเริ่มเจรจากันเพื่อให้ญี่ปุ่นสามารถเข้าถึงฐานปฏิบัติการของฟิลิปปินส์ได้

ญี่ปุ่นยังระบุว่าตนอาจเริ่มทำการลาดตระเวนทางอากาศในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกล่าวว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็นการแทรกแซง

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button