ติดอันดับ

เกาหลีใต้จะพัฒนาขีดความสามารถของดาวเทียมลาดตระเวน

ฟีลิกซ์ คิม

เกาหลีใต้กำลังพัฒนาชุดดาวเทียมลาดตระเวนทางทหารกำลังสูงจำนวนห้าดวง สำนักงานโครงการจัดซื้อด้านกลาโหมของสาธารณรัฐเกาหลีตั้งชื่อรหัสโครงการมูลค่า 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2.96 หมื่นล้านบาท) นี้ว่า “โครงการ 425” โครงการดังกล่าวมีแผนการที่จะสร้างดาวเทียมที่ติดตั้งอุปกรณ์ตรวจจับใหม่ล่าสุดที่สามารถระบุและติดตามวัตถุเคลื่อนที่บนพื้นดินที่มีขนาดเล็กเท่ารถยนต์ในคาบสมุทรเกาหลีและบริเวณใกล้เคียง รายงานต่าง ๆ ระบุ ดาวเทียมชุดนี้จะช่วยให้เกาหลีใต้สามารถเฝ้าระวังภัยคุกคามจากโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ

โครงการ 425 เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของดาวเทียมลาดตระเวนของเกาหลีใต้ ดร.คิม เจ-ยอป จากบัณฑิตวิทยาลัยยุทธศาสตร์การป้องกันแห่งชาติของมหาวิทยาลัยฮันนัมในสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวต่อฟอรัมเมื่อปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2561

สำนักงานโครงการจัดซื้อด้านกลาโหมของสาธารณรัฐเกาหลีประกาศเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2561 ว่าบริษัทโคเรียน เอโรสเปซ อินดัสตรีส์ จะเป็นผู้นำกลุ่มบริษัทซึ่งประกอบด้วยบริษัทฮันวา ซิสเต็มส์ ของเกาหลีใต้ และบริษัทธาเลส อเลเนีย สเปซ ของฝรั่งเศสและอิตาลี ในฐานะผู้ประมูลรายใหญ่ในโครงการ 425 สำนักข่าวยอนฮัปของเกาหลีใต้รายงาน โดยทั้งสามบริษัทมีส่วนร่วมในการพัฒนาดาวเทียมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับดาวเทียมให้กับรัฐบาลเกาหลีใต้มาเป็นเวลาหลายปี

ปัจจุบัน ขีดความสามารถด้านดาวเทียมของเกาหลีใต้สำหรับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเชิงยุทธศาสตร์มาจากดาวเทียมอเนกประสงค์จำนวนสามดวง ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อว่า ชุดอารีรัง ดร.คิมอธิบาย

“ดาวเทียมสามดวงนี้สามารถเฝ้าระวังจุดหนึ่งของโลกทุกแปดชั่วโมงประมาณสองถึงสามครั้งต่อวัน คือเช้า กลางวัน และกลางคืน” ดร.คิมกล่าว ขีดความสามารถนี้อาจเพียงพอในการได้มาซึ่งข้อมูลลักษณะทางภูมิประเทศโดยทั่วไปของข้าศึกที่เป็นมหาอำนาจ แต่ยังไม่เพียงพอในการได้มาซึ่งข้อมูลที่สำคัญสำหรับความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะภัยคุกคามทางทหารที่เร่งด่วนและมีข้อจำกัดด้านเวลา เช่น ระบบเคลื่อนที่ที่สามารถปล่อยอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงอย่างขีปนาวุธทิ้งตัวที่ติดหัวรบนิวเคลียร์และพาหนะลำเลียงทางบกของระบบดังกล่าว”

หลังจากที่ยิงขึ้นและสามารถปฏิบัติการเต็มรูปแบบแล้ว ดาวเทียมทั้งห้าดวงในโครงการ 425 อาจสามารถเฝ้าระวังจุดจุดหนึ่งบนพื้นผิวโลก 10 ครั้งต่อวัน โดยแบ่งเป็นช่วงทุกสองหรือสามชั่วโมง ดร.คิมกล่าว

“โครงการนี้จะทำให้กองทัพเกาหลีใต้สามารถตอบสนองต่อภัยคุกคามจากอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงของเกาหลีเหนือได้รวดเร็วและแม่นยำมากขึ้นอย่างแน่นอน” ดร.คิมกล่าว “ซึ่งนับเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงที่น่าเป็นห่วงที่สุดสำหรับรัฐบาลเกาหลีใต้”

ดร.คิมอธิบายต่อว่านอกจากนี้ ดาวเทียมชุดใหม่อาจเสริมความสามารถของรัฐบาลเกาหลีใต้ในการพิสูจน์ยืนยันความร่วมมือของรัฐบาลเกาหลีเหนือในการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี หากยังจำเป็นต้องมีการพิสูจน์ยืนยันเมื่อดาวเทียมเหล่านี้ปฏิบัติการเต็มรูปแบบตามที่คาดไว้ใน พ.ศ. 2566 ซึ่งการปลดอาวุธนิวเคลียร์กำลังอยู่ในช่วงการเจรจาในขณะนี้ นอกจากนี้ ดาวเทียมชุดนี้จะไม่ได้รับผลกระทบจากข้อตกลงล่าสุดระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่จำกัดการเคลื่อนไหวของอากาศยานปีกตรึงเหนือคาบสมุทรเกาหลี

“โครงการ 425 จะเปิดทางให้รัฐบาลเกาหลีใต้สามารถรักษาและเสริมสร้างขีดความสามารถในการรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับกิจกรรมทางทหารของเกาหลีเหนือจากทั้งแนวหน้าและแนวหลังในพื้นที่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรเกาหลี” ดร.คิมกล่าว “รวมถึงความพยายามในการควบคุมอาวุธ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยเกาหลีใต้ในการเจรจากับเกาหลีเหนือเรื่องสันติภาพและเสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลีอย่างจริงจังมากขึ้น โดยมีจุดยืนที่หนักแน่นยิ่งขึ้นซึ่งได้รับการสนับสนุนจากขีดความสามารถด้านกลาโหมที่มีประสิทธิภาพ”

ดาวเทียมเพื่อการทหารเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในแผนการด้านกลาโหมของรัฐบาลเกาหลีใต้มาเป็นเวลาช้านาน และได้รับการกล่าวถึงในเจ็ดหัวข้อของสมุดปกขาวด้านกลาโหมฉบับล่าสุดของกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งตีพิมพ์เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2560 โดยสมุดปกขาวระบุว่าดาวเทียมมีความจำเป็นสำหรับการตรวจจับการยั่วยุของเกาหลีเหนือตั้งแต่เนิ่น ๆ ความตระหนักรู้ในสนามรบ ระบบข้อมูลข่าวกรองเพื่อการบัญชาการและควบคุม การเพิ่มประสิทธิภาพของการฝึกภารกิจสู้รบ และเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบการชิงโจมตีก่อนของระบบ คิล เชน ของกระทรวงกลาโหม ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำการโจมตีทันทีหลังจากตรวจจับการยั่วยุด้วยนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธที่ใกล้เข้ามาจากรัฐบาลเกาหลีเหนือ

“เพื่อที่จะสามารถตรวจจับสัญญาณการยั่วยุของเกาหลีเหนือตั้งแต่เนิ่น ๆ กองทัพสาธารณรัฐเกาหลีมีแผนการที่จะขยายขีดความสามารถในการเฝ้าระวังโดยอิสระโดยการใช้อากาศยานไร้คนขับลาดตระเวนในพื้นที่ระดับกลางถึงสูง ดาวเทียมอเนกประสงค์ และดาวเทียมลาดตระเวนทางทหาร” รายงานระบุ

นายฟีลิกซ์ คิม เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของฟอรัม รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button