อินเดีย: การอุด”ช่องโหว่” ของความหวาดกลัว
นายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดียเรียกร้องให้มีการประชุมระดับโลกเพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในภูมิภาคและทั่วโลก
โดยในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ขณะเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ชนะการเลือกตั้งอีกสมัย นายโมทีกล่าวกับรัฐสภามัลดีฟส์ ณ กรุงมาเลว่า “การก่อการร้ายไม่ได้เป็นเพียงภัยคุกคามต่อประเทศ แต่ยังรวมถึงอารยธรรมทั้งหมดด้วย”
“ประชาคมระหว่างประเทศได้จัดให้มีการประชุมระดับโลกอยู่ เป็นประจำ และการประชุมหลายครั้งก็เกี่ยวกับภัยคุกคามจากการ เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แล้วประเด็นเรื่องการก่อการร้ายล่ะ?” นายโมทีกล่าว
โดยเรียกร้องให้มีการประชุมระดับโลก “เพื่อให้มีการอภิปรายที่มี เป้าหมายและมุ่งเน้นผลลัพธ์ไปที่การอุดช่องโหว่ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนผู้ก่อการร้าย”
อินเดียกำลังติดตามนโยบายต่างประเทศที่เรียกว่า “กลุ่มเพื่อนบ้านต้องมาก่อน” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่พันธมิตรของอินเดียในเอ เชียใต้ การเดินทางไปยังมัลดีฟส์ของนายโมทีได้รับการจับตามองว่าเป็นการแถลงเจตนารมณ์ที่จะตอบโต้การขยายอำนาจของจีน ซึ่งทำให้เกิดการรุกล้ำ มหาสมุทรอินเดียเชิงกลยุทธ์ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นายโมทีกล่าวในสุนทรพจน์ของตนว่า “ในกลุ่มเพื่อนบ้านของเรานั้น มัลดีฟส์มีความสำคัญมากที่สุด” (ภาพ: นายนเรนทระ โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย โปรยกลีบกุหลาบที่อนุสรณ์มหาตมะ คานธีที่ราชฆาฎก่อนพิธีสาบานตนในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย)
ระหว่างการเดินทางเยือนในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 นายโมทีได้ลงนามในข้อตกลงจำนวนมากกับประเทศมัลดีฟส์ ซึ่งกินความถึงบริการเรือข้ามฟาก ท่าเรือ และสนามแข่งคริกเกตประจำประเทศแห่งใหม่
นายโมทีเดินทางต่อไปยังกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ซึ่งความปลอด ภัยถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในขณะนั้น จากการระเบิดหลายระลอกในวันอาทิตย์ อีสเตอร์ที่คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 250 คนทั่วศรีลังกา
รอยเตอร์