ติดอันดับ

ออสเตรเลียจะช่วยพัฒนาอินเทอร์เน็ตและฐานทัพเรือของติมอร์-เลสเต

ออสเตรเลียได้ประกาศข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยเรื่องความมั่นคงทางทะเลกับติมอร์-เลสเตในช่วงปลายเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562 โดยประเทศซึ่งเพิ่งเป็นประชาธิปไตยจะได้รับโครงสร้างพื้นฐานทางทะเลและการเชื่อมโยงอินเทอร์เน็ตใต้ทะเลกับทั่วโลก เนื่องจากสาธารณรัฐประชาชนจีนมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ ในภูมิภาคนี้

นายสกอตต์ มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี ประกาศ “บทใหม่ในความสัมพันธ์ระหว่างเรา” เมื่อเข้าพบนายตาอูร์ มาตัน รูอัก นายกรัฐมนตรีของติมอร์-เลสเต ในกรุงดิลี เพื่อแลกเปลี่ยนหนังสือทางการทูต ที่จะเปิดใช้ข้อตกลงฉบับใหม่ว่าด้วยเรื่องการแบ่งปันรายได้จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติใต้ทะเล การเยือนครั้งนี้เป็นโอกาสครบรอบ 20 ปีที่องค์การสหประชาชาติลงมติอนุมัติ ทำให้ประเทศซึ่งกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของเกาะเป็นอิสระจากอินโดนีเซีย (ภาพ: นายสกอตต์มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย (ซ้าย) รับของที่ระลึกเป็นผ้าทอแบบดั้งเดิมของติมอร์-เลสเตซึ่งเรียกว่า “เทส” จากนายฟรานซิสโก กูแตร์เรส ประธานาธิบดีติมอร์-เลสเต ในระหว่างการประชุมที่เมืองดิลี ประเทศติมอร์-เลสเต เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562)

นายมอร์ริสันยังใช้โอกาสนี้ประกาศงบประมาณช่วยเหลือความมั่นคงทางทะเลใหม่ ซึ่งออสเตรเลียจะจ่ายให้กับท่าเรือแห่งใหม่ที่ฐานทัพเรือในเมืองเฮรา บนชายฝั่งทางตอนเหนือของติมอร์-เลสเต โดยจะสอนการใช้งานเรือลาดตระเวนชั้นการ์เดียน 2 ลำที่ออสเตรเลียจะมอบให้ใน พ.ศ. 2566

นายมอร์ริสันกล่าวว่า ออสเตรเลียจะมอบเรือฝึกให้กับติมอร์-เลสเต เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการรับมอบเรือลาดตระเวนและเป็นผู้จ่ายค่าการออกแบบแนวคิดการปรับปรุงฐานที่กว้างขึ้น

นอกจากนี้ ออสเตรเลียจะจ่ายค่างานวิศวกรรมและการออกแบบที่จำเป็นในการเชื่อมโยงติมอร์-เลสเตผ่านสายใยแก้วนำแสง เข้ากับระบบเคเบิลของออสเตรเลียที่เชื่อมระหว่างเมืองทางตอนเหนือของดาร์วินและพอร์ตเฮดแลนด์

นายมอร์ริสันกล่าวอีกว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะทำงานร่วมกับติมอร์-เลสเตในด้านการเงินและการก่อสร้าง

“ความสัมพันธ์ของออสเตรเลียและติมอร์-เลสเตจะยั่งยืน เราเคารพในอำนาจอธิปไตยและเอกราชที่คุณได้มาอย่างยากลำบาก และเราจะเดินร่วมทางกับคุณต่อไป” นายมอร์ริสันกล่าว

ติมอร์-เลสเตเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่ไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบใยแก้วนำแสง และยังคงใช้บริการดาวเทียมที่ช้าและมีราคาแพง

การแบ่งรายได้จากพลังงานทางทะเลติมอร์ รวมถึงเขตเกรตเทอร์ซันไรส์ที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1.5 ล้านล้านบาท) เป็นต้นตอความขัดแย้งทางการทูตระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน

อดีตสายลับชาวออสเตรเลียและทนายความของเขาถูกดำเนินคดีในประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากเปิดเผยในข้อกล่าวหาเมื่อ พ.ศ. 2555 ว่าออสเตรเลียได้ดักฟังในห้องของคณะรัฐมนตรีติมอร์-เลสเตใน พ.ศ. 2547 เพื่อให้ได้รับผลประโยชน์ที่ไม่เป็นธรรมในการเจรจาสนธิสัญญาทะเลติมอร์ สนธิสัญญาที่ลงนามเมื่อ พ.ศ. 2549 ถูกยกเลิก และมีการลงนามในสนธิสัญญาทดแทนซึ่งเอื้อประโยชน์ต่อติมอร์-เลสเตใน พ.ศ. 2561

การฟ้องคดีกระตุ้นให้มีการประท้วงตามท้องถนนในเมืองดิลี โดยผู้สนับสนุนของผู้แจ้งเบาะแสชาวออสเตรเลีย คนในฝูงชนบางคนที่พบกับคณะผู้ติดตามชาวออสเตรเลียได้สวมเสื้อยืดที่มีลายภาพถ่ายของนายเบอร์นาร์ด คอลแลรี นักกฎหมายผู้ถูกควบคุมตัว

นางเชอร์ลี แช็กเคิลตัน ชาวออสเตรเลียวัย 87 ปีหลบหนีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อส่งข้อร้องเรียนที่มีการลงนาม 4,000 รายชื่อซึ่งเรียกร้องให้ถอนข้อกล่าวหาให้แก่นางมาริส เพย์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศที่เป็นหนึ่งในคณะผู้ติดตามนายมอร์ริสัน

นางแช็กเคิลตันเป็นภรรยาม่ายของผู้สื่อข่าวทางโทรทัศน์ชาวออสเตรเลียหนึ่งในห้าราย ซึ่งเสียชีวิตขณะรายงานเกี่ยวกับการบุกรุกติมอร์-เลสเตของอินโดนีเซียที่ชายแดนเมืองบาลิโบใน พ.ศ 2518 นับตั้งแต่นั้น นางได้รณรงค์ให้นำตัวฆาตกรเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

“แม้ฉันไม่ใช่ทนาย แต่ฉันก็ทราบว่าอะไรถูกอะไรผิด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิด” นางแช็กเคิลตันกล่าวในการดำเนินคดีของออสเตรเลีย

นายมอร์ริสันจะไม่ได้รับการยกย่องในคดีดังกล่าว

“นี่เป็นเรื่องภายในประเทศออสเตรเลีย ซี่งตอนนี้อยู่ในชั้นศาล จึงเป็นเรื่องที่ผมไม่อยากแสดงความเห็น” นายมอร์ริสันกล่าวกับผู้สื่อข่าว

ผู้ร่างกฎหมายของติมอร์เลสเตบางคนต้องการรับการลงทุนจากจีนในเรื่องการส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของเขตเกรทเตอร์ซันไรส์ไปยังประเทศของตน สร้างความหวาดหวั่นว่าติมอร์-เลสเตอาจติดหนี้จีนมากเกินไปเช่นเดียวกับประเทศเกาะอื่น ๆ ที่ไม่มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจในภูมิภาค

สัญญาสายเคเบิลอินเทอร์เน็ตจะเป็นไปตามพันธสัญญาของออสเตรเลียที่จะต้องออกค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในการเดินสายเคเบิลที่คล้ายกัน จากซิดนีย์ไปยังปาปัวนิวกินีและหมู่เกาะโซโลมอน

มีการเสนอสายเคเบิลให้แก่ปาปัวนิวกินีและโซโลมอนเพื่อป้องกันหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน จากการให้บริการเครือข่ายทางเลือก ออสเตรเลียขัดขวางไม่ให้หัวเว่ยเป็นเครือข่ายบรอดแบนด์ของชาติ และเผยเครือข่าย 5จี ในเรื่องของความมั่นคง

ออสเตรเลียเป็นผู้นำกองกำลังทหารขององค์การสหประชาชาติซึ่งนำสันติสุขมาสู่ติมอร์-เลสเต หลังจากผลพวงอันโหดร้ายในการแยกตัวเป็นเอกราชใน พ.ศ. 2542 ชาวติมอร์เลสเตได้เชิญทหารออสเตรเลียกลับมาใน พ.ศ. 2549 เพื่อกอบกู้ความสงบเรียบร้อยหลังจากการยึดอำนาจทางทหาร

การเยือนของนายมอร์ริสันเป็นการเยือนครั้งแรกในรอบ 12 ปีของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ออสเตรเลียกำลังเดินหน้าโครงการความช่วยเหลือในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก เพื่อต่อต้านการลงทุนจากจีนที่ถลำลึกยิ่งขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button