ติดอันดับ

องค์การสหประชาชาติกดดันไม่ให้เกาหลีเหนือลดจำนวนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ

องค์การสหประชาชาติระบุเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2562 ว่ากำลังพยายามโน้มน้าวเกาหลีเหนือไม่ให้ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือต่างประเทศ ซึ่งได้ส่งมาดำเนินงานด้านอาหาร โภชนาการ และสุขภาพที่ “วิกฤต” ในเกาหลีเหนือ

จดหมายที่รอยเตอร์ได้รับระบุว่า เกาหลีเหนือต้องการให้องค์การสหประชาชาติลดจำนวนเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ เนื่องจากโครงการล้มเหลว “จากการแปรความช่วยเหลือขององค์การสหประชาชาติให้กลายเป็นเรื่องทางการเมืองโดยกองทัพศัตรู”

องค์การสหประชาชาติประมาณการณ์ว่ามีประชากร 10.3 ล้านคนซึ่งเป็นประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ ต้องการความช่วยเหลือ และมีประชากรเกาหลีเหนือร้อยละ 41 ที่ขาดสารอาหาร ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 รัฐบาลเกาหลีเหนือระบุว่ากำลังเผชิญภาวะขาดแคลนอาหารในปีนี้ และต้องลดปริมาณอาหารลงครึ่งหนึ่ง โดยโทษภัยแล้ง น้ำท่วม และการคว่ำบาตร

นายสเตฟาน ดูจาร์ริค โฆษกขององค์การสหประชาชาติกล่าวว่า องค์การสหประชาชาติกำลัง “เจรจากับรัฐบาลเกาหลีเหนือเกี่ยวกับประเด็นการลดกำลังเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือต่างประเทศในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี”

“ปฏิบัติการขององค์การสหประชาชาติขณะนี้มีการดำเนินงานอย่างค่อยเป็นค่อยไปในภาคพื้นดินแล้ว และการมีขีดความสามารถในระดับปัจจุบันอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญต่อการรับรองว่า องค์การสหประชาชาติจะให้การสนับสนุนโครงการความมั่นคงด้านอาหาร น้ำ โภชนาการที่สำคัญ ตลอดจนการระดมทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง” นายดูจาร์ริคกล่าวกับผู้สื่อข่าว

โดยระบุว่าใน พ.ศ. 2561 องค์การสหประชาชาติและกลุ่มความช่วยเหลือในระดับนานาชาติ ได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชากรมากกว่า 2 ล้านคน

ในจดหมายเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2562 นายคิม ชัง มิน เลขาธิการคณะกรรมการประสานงานแห่งชาติเพื่อสหประชาชาติของเกาหลีเหนือ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การสหประชาชาติซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในเกาหลีเหนือว่า ต้องลดจำนวนเจ้าหน้าต่างประเทศลงภายในสิ้นปีนี้

เกาหลีเหนือต้องการให้ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ต่างประเทศ โดยลดเจ้าหน้าที่โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติเหลือ 1 ถึง 2 คนจาก 6 คน องค์การอนามัยโลกเหลือ 4 จาก 6 คน และองค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ ต้องลดเจ้าหน้าที่ลง 1 ถึง 2 คนจาก 13 คน

นายคิมกล่าวว่าต้องลดจำนวนเจ้าหน้าที่ต่างประเทศในโครงการอาหารโลก “ตามจำนวนความช่วยเหลือด้านอาหารที่จัดหาให้” เมื่อองค์การสหประชาชาติและเกาหลีเหนือตกลงกันได้เกี่ยวกับวิธีดำเนินการตามแผนสำหรับ พ.ศ. 2562 ถึง พ.ศ. 2564

นอกจากนี้ นายคิมยังระบุว่าไม่มีความจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่ประสานงานการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม โดยเสริมว่าเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขององค์การสหประชาชาติอาจ “มาเยือนตามที่จำเป็นและเมื่อจำเป็น” แทน

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางการเจรจาที่ชะงักกลางคันระหว่างสหรัฐอเมริกากับเกาหลีเหนือ ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การยกเลิกโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของรัฐบาลเกาหลีเหนือ โดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติสนับสนุนการคว่ำบาตรเกาหลีเหนืออย่างเป็นเอกฉันท์ตั้งแต่ พ.ศ. 2549 โดยมีจุดประสงค์เพื่อตัดท่อน้ำเลี้ยงสำหรับโครงการดังกล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button