พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงปราบปรามผู้ต่อต้านทางไซเบอร์อย่างไม่ลดละ

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันครบรอบ 17 ปีที่สาธารณรัฐประชาชนจีนจับกุมตัวนายเหอ เต๋อผู่ ผู้เห็นต่างและนักเคลื่อนไหว ซึ่งได้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกพร้อมกับคนอื่น ๆ อีกเกือบ 200 คน ยื่นต่อการประชุมสมัชชาพรรคแห่งชาติครั้งที่ 16 เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทางการเมือง นายเหอยังคงเป็นผู้เสียสละจากการปราบปรามผู้เห็นต่าง รวมถึงการเซ็นเซอร์การแสดงออกและการพูดทางอินเทอร์เน็ตของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีมาตลอด

ตามรายงานจากนักข่าวไร้พรมแดน ระบุว่า ใน พ.ศ. 2546 หรือหนึ่งปีหลังการจับกุม นายเหอถูกตัดสินว่า “ทำการยุยงปลุกปั่นให้เกิดการโค่นล้มอำนาจของรัฐ” จากการโพสต์บทความทางอินเทอร์เน็ต และรับโทษจำคุก 8 ปีที่เรือนจำหมายเลข 2 ของปักกิ่ง สถานที่ซึ่งเขาต้องทนทุกข์ทรมาน

ข้อมูลจาก hrichina.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์ของฮิวแมนไรท์อินไชน่า เปิดเผยว่า ในจดหมายเปิดผนึกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2545 นายเหอและผู้เห็นต่างอีก 191 คน ได้เรียกร้องให้มีการทบทวนเรื่องขบวนการประชาธิปไตย พ.ศ. 2532 โดยให้ปล่อยตัวนักโทษทางความคิดทุกคน และให้สัตยาบันกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก (ภาพ: นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนยืนอยู่ข้างป้ายประท้วง ก่อนการประท้วงในฮ่องกงเมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2547 เพื่อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้เห็นต่างชาวจีน รวมถึงนายเหอ เต๋อผู่ และนายตู๋ เต้าปิน ซึ่งถูกจับกุมในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ข้อหาโพสต์ข้อความที่ถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลายทางอินเทอร์เน็ต ป้ายดังกล่าวมีข้อความว่า “ปล่อยนายเหอ เต๋อผู่ นายตู๋ เต้าปิน และผู้เห็นต่างคนอื่น ๆ”)

นายเหอจัดอยู่ในกลุ่มนักโทษการเมืองที่เป็นที่จดจำมากที่สุดของจีน นอกจากการมีส่วนร่วมในขบวนการประชาธิปไตย รวมถึงการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อ พ.ศ. 2532 แล้ว นายเหอยังช่วยจัดตั้งพรรคประชาธิปไตยจีนใน พ.ศ. 2541 ซึ่งถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนสั่งห้ามทันที เนื่องจากรัฐบาลจีนเกรงว่าจะไม่สามารถควบคุมพรรคนี้ได้ นักวิเคราะห์กล่าว ตามรายงานจากนักข่าวไร้พรมแดน ระบุว่า หลังจากนั้นไม่นาน พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ควบคุมตัว จับกุม และตัดสินจำคุกสมาชิกพรรคประชาธิปไตยจีนหลายร้อยคน และมีผู้ลงนามในจดหมายเปิดผนึกที่โดดเด่นอีกอย่างน้อย 4 คนถูกสอบสวนในข้อหาล้มล้างการปกครอง

เมื่อ พ.ศ. 2541 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เปิดตัวโครงการโล่ทองคำเพื่อแทนที่การเซ็นเซอร์แบบดั้งเดิม ระบบการจัดการความปลอดภัยขนาดมหึมานี้ มีความพยายามที่จะผสานฐานข้อมูลออนไลน์ที่กว้างขวาง เข้ากับเครือข่ายการเฝ้าระวังแบบครอบคลุมเบ็ดเสร็จซึ่งใช้การจดจำเสียงพูดและใบหน้า โทรทัศน์วงจรปิด บันทึกข้อมูลเครดิต และเทคโนโลยีการเฝ้าระวังทางอินเทอร์เน็ตอีกมากมาย โดยสิ่งที่เรียกว่า เกรทไฟร์วอลล์ เป็นระบบขนาดใหญ่สำหรับจำกัดเนื้อหาและการใช้งานทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโล่ทองคำ โครงการนี้ช่วยให้มั่นใจว่า จีนมีเสรีภาพออนไลน์น้อยที่สุดใน 65 ประเทศที่ได้รับการติดตามจากองค์กรตรวจสอบด้านสิทธิเสรีภาพฟรีด้อมเฮาส์ ตามข้อมูลทางเว็บไซต์ขององค์กรดังกล่าว นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังพยายามขยายการเซ็นเซอร์ไปยังต่างประเทศ โดยการส่งออกเทคโนโลยีการเฝ้าระวังและการตรวจสอบทางอินเทอร์เน็ต รวมทั้งใช้ประโยชน์จากอิทธิพลเพื่อปกปิดมุมมองผู้เห็นต่างนอกอาณาเขตของตน

การปราบปรามนายเหอของพรรคคอมมิวนิสต์จีนไม่ได้จบลงแค่การคุมขัง ในการปล่อยตัวนายเหอเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2554 นายเหอ “ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายทำร้าย เนื่องจากไม่ยอมให้ผลักเข้าไปในรถตำรวจ และได้รับบาดเจ็บที่คอและมือทั้งสองข้าง จากข้อมูลของพยาน” ฮิวแมนไรท์อินไชน่ารายงาน

นางชารอน โฮม ผู้อำนวยการบริหารฮิวแมนไรท์อินไชน่ากล่าวว่า “การทุบตีนายเหอ เต๋อผู่ เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่หลังจากสิ้นสุดการจำคุก 8 ปี ข้อหาเขียนบทความและจดหมายเปิดผนึก ซึ่งเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญจีน” “การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจละเมิดสิทธิของเสรีชนอย่างเปิดเผยและโหดร้าย เป็นข้อบ่งชี้ล่าสุดของสถานการณ์สิทธิมนุษยชนที่เลวร้ายลงในประเทศจีน”

17 ปีหลังจากที่นายเหอถูกจับกุม ดูเหมือนว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีแต่จะเพิ่มการเซ็นเซอร์ประชาชนทางอินเทอร์เน็ตและที่อื่น ๆ มากขึ้น เช่น ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562 ศาลประชาชนกลางเหมียนหยางตัดสินว่านายหวาง ฉี “เผยความลับของรัฐแก่ต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย” และ “เจตนาให้ความลับรั่วไหล” ฮิวแมนไรท์อินไชน่ารายงานว่า ศาลพรรคคอมมิวนิสต์จีนตัดสินจำคุกนายหวาง 12 ปี และตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 4 ปี ในข้อหาโพสต์ข้อความจาก “รายงานของคณะกรรมการกฎหมายทางการเมืองท้องถิ่นซึ่งบันทึกการปราบปรามขั้นรุนแรงต่อผู้ร้องเรียน”

นายหวางก่อตั้งเว็บไซต์ 64 เทียนหวั่ง (64tianwang.com) เมื่อ พ.ศ. 2541 เพื่อช่วยเหลือบุคคลในการค้นหาญาติที่สูญหายและสนับสนุนกลุ่มคนที่ไร้ทางสู้ เช่น เหยื่อการค้ามนุษย์ เรดิโอฟรีเอเชียรายงานว่า สาธารณรัฐประชาชนจีนได้ปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ของนายหวางในจีน ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2546 เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้กักขังนายหวางไว้ที่ศูนย์กักกันเหมียนหยางหลังการจับกุมเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2559 ฮิวแมนไรท์อินไชน่ารายงานว่า เว็บมาสเตอร์รายนี้เคยถูกจำคุกมาแล้วสองครั้ง และล่าสุดถูกจำคุกเป็นเวลา 8 ปี ซึ่งช่วงเวลานั้น นายหวางถูกซ้อมและเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เช่น มีน้ำในสมอง โรคหัวใจรูมาติก และภาวะไตวายเรื้อรัง

“แม้ว่าในทางหนึ่งจะคาดเดาได้อยู่แล้ว แต่นี่คือการคุกคามอย่างอุกอาจต่อการใช้สิทธิอย่างสันติ ซึ่งการตัดสินของศาลกลางเน้นย้ำถึงความหมายของ ‘หลักนิติธรรม’ ของจีน” นางชารอน โฮม จากฮิวแมนไรท์อินไชน่ากล่าว “ซึ่งหมายถึงการใช้กฎหมายลงโทษ ปิดปาก ละเมิดและทรมานพลเมืองจีน เนื่องจากพยายามเปิดเผยและแก้ไขปัญหาทางสังคมที่ร้ายแรง”