ติดอันดับ

ประเทศต่าง ๆ ในเอเชียลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) 10 ประเทศและประเทศเพื่อนบ้านที่มีขนาดใหญ่ของอาเซียนห้าประเทศได้ลงนามสนับสนุนข้อตกลงนิวเคลียร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจหกประเทศ ซึ่งแม้แต่นายจอห์น เคอร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังระบุว่า วันครบรอบ 70 ปีของการทิ้งระเบิดที่เมืองฮิโรชิมาเน้นให้เห็นถึงความสำคัญของข้อตกลงดังกล่าวในการป้องกันการแพร่กระจายของอาวุธปรมาณู

ในแถลงการณ์ร่วมที่ประกาศจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระบุว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของประเทศสมาชิกอาเซียนรวมทั้งออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์และเกาหลีใต้ต่างยินดีที่มีการบรรลุข้อตกลงนี้กับอิหร่าน โดยพิจารณาว่าเป็น “มติที่สำคัญ” ที่อาจช่วยแก้ไขข้อกังวลที่เร่งด่วนที่สุดของโลกข้อหนึ่งหากข้อตกลงนี้ได้รับการปฏิบัติตาม แถลงการณ์ร่วมดังกล่าวออกมาในวันสุดท้ายของการประชุมด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาเลเซีย

หากดำเนินการตามข้อตกลงอย่างเต็มที่ “ประชาคมนานาชาติจะสามารถแก้ไขความท้าทายด้านความมั่นคงระหว่างประเทศที่สำคัญได้ด้วยวิธีการที่สันติ” แถลงการณ์ระบุและมีเนื้อหาเพิ่มเติมว่า ข้อตกลงนี้ “จะเป็นหลักประกันถึงการดำเนินโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อสันติเท่านั้น” ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นโครงการบังหน้าเพื่อปกปิดการพัฒนาอาวุธปรมาณู ซึ่งอิหร่านปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

ประเทศสมาชิกอาเซียนประกอบด้วยบรูไน กัมพูชา อินโดนีเซีย ลาว มาเลเซีย พม่า สิงคโปร์ ไทย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีชาติอื่น ๆ ที่ลงนามในแถลงการณ์ดังกล่าวได้แก่ จีน รัสเซียและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนร่วมในการเจรจาข้อตกลงกับอิหร่าน

การสนับสนุนข้อตกลงอย่างเปิดเผยของบรรดาประเทศในภูมิภาคเอเชียเป็นผลมาจากการที่นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ พยายามที่จะโน้มน้าวฝ่ายนิติบัญญัติสหรัฐฯ ที่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอิหร่านให้ลงมติสนับสนุนข้อตกลงดังกล่าว ที่จะเป็นมาตรการควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านเพื่อแลกเปลี่ยนกับการยกเลิกการคว่ำบาตร

ก่อนแถลงการณ์ร่วมของอาเซียนจะออกมาเพียงไม่นาน นายเคอร์รีได้พบปะกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในช่วงที่ญี่ปุ่นและชาติอื่น ๆ มีพิธีรำรึกเนื่องในวันครบรอบ 70 ปีของการทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิมาในปี พ.ศ. 2488 นายเคอร์รีกล่าวว่า พิธีรำลึกในวันครบรอบดังกล่าวเป็น “เครื่องเตือนใจที่ทรงพลังมหาศาล” เพื่อให้ตระหนักถึงผลกระทบของสงคราม และยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของข้อตกลงกับอิหร่าน

“มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่คิดถึงมัน” นายเคอร์รีกล่าวและเพิ่มเติมว่า ตนได้เห็นพิธีที่จัดขึ้นที่สวนสันติภาพฮิโรชิมาเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ระเบิดปรมาณูในปี พ.ศ. 2488

“เห็นได้ชัดเจนโดยไม่ต้องพูดอะไรเลยว่าเหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังมหาศาล ที่ทำให้เราไม่เพียงแต่ตระหนักถึงผลกระทบของสงครามต่อประชาชนและประเทศต่าง ๆ ที่ยังหลงเหลืออยู่จนถึงทุกวันนี้ แต่ยังตอกย้ำความสำคัญของข้อตกลงที่เราได้บรรลุกับอิหร่านเพื่อลดความเป็นไปได้ของการมีอาวุธนิวเคลียร์เพิ่มขึ้น” นายเคอร์รีกล่าวกับผู้สื่อข่าว “สหรัฐอเมริกาและประเทศอื่น ๆ กำลังทำงานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัสเซียและสหรัฐอเมริกาที่มีข้อตกลงร่วมกัน เพื่อลดจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ที่มีอยู่

นายเคอร์รียังยกย่องความสัมพันธ์อันแข็งแกร่งในปัจจุบันระหว่างสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น และแสดงความเคารพต่อผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในฮิโรชิมา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button