ติดอันดับ

นายวิโดโดประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอินโดนีเซีย

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กล่าวเมื่อกลางเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ว่าตนชนะการเลือกตั้งใหม่หลังจากได้รับการลงคะแนนเสียงประมาณร้อยละ 54 ซึ่งเป็นการกลับลำคำมั่นที่กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะรอผลอย่างเป็นทางการ หลังจากคู่แข่งของนายวิโดโดอ้างสิทธิ์ในชัยชนะ ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้

นายวิโดโด (ภาพ) ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า ผู้นำของมาเลเซีย สิงคโปร์ ตุรกี และประเทศอื่น ๆ อีกมากมายร่วมแสดงความยินดีกับตนในการดำรงตำแหน่งสมัยที่สอง

การคาดการณ์ผลการเลือกตั้งอิงตามสิ่งที่เรียกว่าการนับคะแนนด่วนในหน่วยเลือกตั้งตัวอย่างโดยองค์กรสำรวจที่มีความน่าเชื่อถือสูง นายวิโดโดกล่าวว่าขณะนี้ ทุกหน่วยเลือกตั้งตัวอย่างนับคะแนนเสร็จหรือใกล้เสร็จแล้ว ซึ่งการนับคะแนนด่วนมีความแม่นยำในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว

“เราทุกคนทราบว่าการนับคะแนนด่วนเป็นวิธีการคำนวณตามหลักวิทยาศาสตร์ จากประสบการณ์การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาของอินโดนีเซีย ความแม่นยำอยู่ที่ร้อยละ 99.9 แทบจะเหมือนผลการนับคะแนนจริง” นายวิโดโดกล่าว

อดีต พล.อ. ปราโบโว ซูเบียนโต คู่แข่งของนายวิโดโด อ้างว่าเขาชนะโดยได้รับคะแนนเสียงร้อยละ 62 จากการเลือกตั้ง โดยอิงตามการนับคะแนนของทีมหาเสียงของตน ซึ่งเป็นการกล่าวอ้างซ้ำเดิมเหมือนเมื่อครั้งที่เขาพ่ายแพ้นายวิโดโดใน พ.ศ. 2557

ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องประกาศผลอย่างเป็นทางการภายในวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก เป็นด่านหน้าของระบอบประชาธิปไตยในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีรัฐบาลเผด็จการ และคาดว่าจะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกใน พ.ศ. 2573 การดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของนายวิโดโด ประธานาธิบดีคนแรกของอินโดนีเซียที่ไม่ได้มาจากชนชั้นนำของจาร์กาตา สามารถผนึกความเป็นประชาธิปไตยของประเทศที่มีอายุสองทศวรรษ

นายซูเบียนโต ผู้ยึดมั่นระบบชาตินิยม ออกหาเสียงโดยอาศัยความหวั่นวิตก เน้นสิ่งที่ตนเล็งเห็นว่าเป็นจุดอ่อนของอินโดนีเซีย และความเสี่ยงจากการแสวงหาประโยชน์โดยมหาอำนาจต่างชาติหรือความแตกแยก

นายวิโดโดกล่าวว่าได้ส่งตัวแทนไปพูดคุยกับนายซูเบียนโตและทีมหาเสียงของเขา

“ผมส่งทูตไปพบนายปราโบโวเมื่อบ่ายนี้เพื่อนัดพบกัน และหากประชาชนเห็นการพบปะกันของเรา เราจะแสดงให้เห็นได้ว่าการเลือกตั้งสิ้นสุดลงอย่างราบรื่น ปลอดภัย และสงบสุข” นายวิโดโดกล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงของประเทศ รวมถึงผู้บัญชาการทหารและตำรวจกล่าวก่อนหน้านี้ว่าจะปราบปรามความพยายามใด ๆ ที่จะทำลายความสงบเรียบร้อยของประชาชน ในระหว่างการจัดทำผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติอย่างเป็นทางการ

นายวิรันโต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงผู้ใช้ชื่อต้นเพียงชื่อเดียว กล่าวในการแถลงข่าวกับผู้บัญชาการตำรวจและทหารทุกเหล่าว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงจะ “กระทำการอย่างเด็ดขาด” ในการต่อต้านภัยคุกคามใด ๆ ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง

นายวิรันโตกล่าวว่าผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงร้อยละ 80.5 ให้ผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี “มีความชอบธรรมสูง”

นายติโต การ์นาเวียน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกล่าวว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งและศาลเป็นสถาบันที่เหมาะสมต่อการแก้ไขข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือกตั้ง

ผู้สนับสนุนหัวแข็งชาวมุสลิมของนายซูเบียนโต วางแผนรวมตัวสวดภาวนาครั้งใหญ่ในใจกลางกรุงจาการ์ตา

“ผมขอร้องทุกคนอย่าชุมนุมกัน ทั้งการระดมพลเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะ หรือการระดมพลด้วยความไม่พึงพอใจ” นายการ์นาเวียนกล่าว

การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นแบบทดสอบการจัดการครั้งใหญ่ โดยผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง 193 ล้านคน หน่วยเลือกตั้งมากกว่า 800,000 แห่ง และคน 17 ล้านคนมีส่วนร่วมในการรับรองถึงความราบรื่นในการจัดการเลือกตั้ง มีการใช้เฮลิคอปเตอร์ เรือ และม้าเพื่อรับบัตรลงคะแนนเสียงจากพื้นที่ห่างไกลและเข้าถึงไม่ได้ของประเทศ

การลงคะแนนเสียงดำเนินไปอย่างราบรื่นและเรียบร้อย ยกเว้นบางเขตที่ปัญหาด้านการขนส่งทำให้เกิดความล่าช้า ถือเป็นความสำเร็จอันน่าทึ่งของประเทศที่แวดล้อมด้วยความรุนแรงทางการเมือง

การหาเสียงของนายวิโดโดเน้นถึงความก้าวหน้าของตนในการลดความยากจน และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ไม่เพียงพอของอินโดนีเซียด้วยท่าเรือใหม่ ถนนที่เก็บค่าผ่านทาง สนามบิน และรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน โดยอย่างหลังสุดกลายเป็นจริงในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 ด้วยการเปิดสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงจาการ์ตาที่แออัดมายาวนาน

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button