ญี่ปุ่นและเวียดนามกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง
รอยเตอร์
เวียดนามเห็นพ้องกับญี่ปุ่นในเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 ที่จะเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงให้มากขึ้นระหว่างสองประเทศ และเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายล่าสุดที่พยายามสร้างความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับรัฐบาลญี่ปุ่นในขณะที่จีนยังคงมีพฤติกรรมแบบยืนกรานในน่านน้ำที่มีกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้
นายชินโซ อะเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายเหงียน ฝู จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้บรรลุข้อตกลงหลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญสหรัฐฯ ระบุว่า ดูเหมือนจีนกำลังเตรียมการที่จะสร้างทางวิ่งเครื่องบินแห่งที่สามในพื้นที่ที่กำลังมีความขัดแย้งในทะเลจีนใต้
จีนอ้างสิทธิในพื้นที่ทะเลจีนใต้ที่ทับซ้อนกับการอ้างสิทธิของเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ไต้หวันและบรูไน นอกจากนี้ จีนยังมีความขัดแย้งกับญี่ปุ่นเกี่ยวกับเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนตะวันออกอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ในปี พ.ศ. 2558 ญี่ปุ่นได้บรรลุข้อตกลงกับมาเลเซียและฟิลิปปินส์ที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“เรามีข้อกังวลอันใหญ่หลวงร่วมกัน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ที่เป็นอยู่อย่างต่อเนื่องแต่เพียงฝ่ายเดียวและทำให้ความตึงเครียดทวีความรุนแรงขึ้น พฤติกรรมดังกล่าวประกอบด้วยการถมทะเลเพื่อสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่และการสร้างฐานที่มั่นในทะเลจีนใต้ ซึ่งผมคิดว่าความพยายามในการแก้ไขข้อกังวลนี้ร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง” นายอะเบะกล่าวในการแถลงข่าวโดยไม่เอ่ยชื่อประเทศจีน
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังตกลงที่จะมอบเรือที่เคยประจำการแก่เวียดนามเพิ่มจากหกลำที่ส่งมอบไปแล้ว เพื่อช่วยส่งเสริมการลาดตระเวนทางทะเล
“เราเห็นพ้องกันว่า ข้อพิพาททั้งหมดควรได้รับการแก้ไขด้วยสันติวิธีโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศรวมทั้งอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล” นายจ่องกล่าวผ่านล่าม
ในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ญี่ปุ่นตกลงมอบเงินทุนส่งเสริมการพัฒนาให้แก่เวียดนามเป็นจำนวน 2.86 หมื่นล้านเยน (239 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 8.6 พันล้านบาท) เพื่อให้เวียดนามสร้างโรงพยาบาลกลางในนครโฮจิมินห์