ติดอันดับ

ญี่ปุ่นรุดหน้าการลงทุนเชิงคุณภาพในแอฟริกา

ญี่ปุ่นโฆษณาตนเองว่ามุ่งมั่นที่จะเป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพในแอฟริกา โดยหวังที่จะสร้างจุดยืนที่แตกต่างจากสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยญี่ปุ่นกล่าวในการประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกา ณ นครโยโกฮามาที่เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2562

“ผมให้คำมั่นสัญญานี้กับคุณ รัฐบาลญี่ปุ่นจะพยายามอย่างเต็มที่ทุกวิถีทาง เพื่อให้อำนาจการลงทุนภาคเอกชนของญี่ปุ่นที่มีมูลค่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6.13 แสนล้านบาท) ในอีกสามปีข้างหน้าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นโดยฉับพลัน” นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในสุนทรพจน์เปิดงานที่การประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกา ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น “เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยสร้างความก้าวหน้าของบริษัทญี่ปุ่นในแอฟริกา”

“การเดินหน้าการพัฒนาของแอฟริกาผ่านประชากร เทคโนโลยี และนวัตกรรม” คือหัวข้อการประชุมสามวันซึ่งจัดขึ้นซ้ำเป็นครั้งที่เจ็ดนับจากครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2559 ประเทศในทวีปแอฟริกาทั้งหมด 53 ประเทศยกเว้นซูดานได้เข้าร่วมในการประชุม ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะเจแปนนิวส์

การประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกาสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2562 พร้อมกับการรับข้อเสนอแถลงการณ์ร่วม 13 หน้า ที่โน้มน้าวการเปลี่ยนแปลงของญี่ปุ่นจากการให้ความช่วยเหลือโดยรัฐบาล เป็นการส่งเสริมการลงทุนภาคเอกชน หนังสือพิมพ์เดอะเจแปนไทมส์รายงาน นอกจากนี้ แถลงการณ์ดังกล่าวยังกำหนดโครงการริเริ่มของญี่ปุ่นสำหรับอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ตามรายงานของเดอะเจแปนนิวส์(ภาพ: นายแอนโตนิโอ กูแตเรส เลขาธิการสหประชาชาติ (จากทางขวา) นายทาโระ โคโนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น และนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เข้าร่วมการประชุมพิเศษเรื่องสันติภาพและเสถียรภาพที่จะงอยแอฟริการะหว่างการประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกา ณ นครโยโกฮามาเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2562)

“เราสามารถกำหนดทิศทางที่มั่นคงในการเป็นพันธมิตรของแอฟริกา ซึ่งกำลังพัฒนาอย่างกระตือรือร้น” นายอาเบะกล่าวระหว่างพิธีปิด

ญี่ปุ่นริเริ่มการประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกาใน พ.ศ. 2536 และได้จัดขึ้นทุกห้าปีจนถึง พ.ศ. 2556 หลังจากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นการจัดทุกสามปีแทน ตามรายงานของเว็บไซต์แอฟริกานิวส์

ญี่ปุ่นพยายามที่จะสร้างความแตกต่างจากจีนโดยส่งเสริม “การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพ” และช่วยแอฟริกาในการจัดการหนี้สาธารณะอย่างถูกต้อง ตามรายงานของเดอะเจแปนนิวส์

ตั้งแต่ พ.ศ. 2543 รัฐบาลจีนได้เพิ่มสินเชื่อมูลค่า 1.43 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.33 ล้านล้านบาท) ให้กับประเทศต่าง ๆ ในแอฟริกา ตามข้อมูลที่รวบรวมโดยโครงการวิจัยจีน-แอฟริกาของวิทยาลัยการต่างประเทศขั้นสูง มหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนให้ความเห็นว่าแผนการลงทุนของจีนเป็นภาระต่อประเทศในทวีปแอฟริกา เช่น แองโกลา เอธิโอเปีย เคนยา และสาธารณรัฐคองโก ซึ่งเป็นหนี้ในระดับสูงจากโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่เป็นไปไม่ได้ในทางการเงิน ยิ่งไปกว่านั้น ข้อตกลงที่ขาดความโปร่งใสและการกำกับดูแลที่เพียงพอ สร้างและดำเนินการโดยบริษัทจีนที่มุ่งเน้นผลประโยชน์ของตนเหนือกว่าประโยชน์แก่พลเมืองและประเทศในแอฟริกา

“ความกังวลอย่างใหญ่หลวงคือหลายประเทศในแอฟริกาจะมีหนี้มหาศาล และโครงสร้างพื้นฐานที่ใหญ่โตมโหฬาร แต่ไม่สามารถบำรุงรักษาและดำเนินการได้อย่างมีผลกำไร ผมเปรียบเทียบได้กับการยืมเงินมาเพื่อซื้อรถพลังงานไฟฟ้าเทสลาทั้ง ๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงไฟฟ้าได้อย่างเพียงพอ” นายโอเบิร์ต ฮอดซี แห่งมหาวิทยาลัยเฮลซิงกิในฟินแลนด์ กล่าวกับหนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2562

แถลงการณ์ที่ได้รับการรับรองจากการประชุมสุดยอดจี 20 ในโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2562 เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งจีนพิจารณาความสามารถทางการคลังของประเทศผู้รับ เมื่อให้สินเชื่อโครงสร้างพื้นฐาน เดอะเจแปนไทมส์รายงาน

แถลงการณ์ดังกล่าวยังเรียกร้องให้กลุ่มประเทศจี 20 พิจารณาถึงความโปร่งใส สิ่งแวดล้อม ความพร้อมรับมือต่อภัยพิบัติ และความสามัคคีกันในสังคม

“ประเทศที่ติดหนี้สินอย่างหนักเป็นประเทศที่ยากต่อการสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจ” นายอาเบะกล่าวในที่ประชุมระหว่างประเทศแห่งโตเกียวเพื่อการพัฒนาแอฟริกา โดยเผยถึงแผนการส่งผู้เชี่ยวชาญไปยัง 30 ประเทศในแอฟริกาเพื่อเสนอการฝึกอบรมเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงและหนี้สิน ตามรายงานของเดอะเจแปนไทมส์

ญี่ปุ่นมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่ประเทศในทวีปแอฟริกามากว่า 30 ปีแล้ว ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ญี่ปุ่นใช้เงิน 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 45.5 ล้านบาท) เพื่อสนับสนุนการสร้างเสถียรภาพของชุมชนในไนจีเรียทางตะวันออกเฉียงเหนือ ซีเอ็นเอ็นรายงาน ส่วนในเคนยา ญี่ปุ่นให้เงินช่วยเหลือเพื่อสนับสนุนศูนย์ฝึกอบรมทั่วประเทศ ตอนนี้ญี่ปุ่นต้องการเพิ่มขอบข่ายการช่วยเหลือในด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button