การส่งเสริม ปาสกาล

พล.ร.อ. ดาโต๊ะ อานัวร์ บิน ฮัจ เอเลียส ซึ่งเป็นพลเรือเอกคนแรก นำหน่วย ปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเรือมาเลเซียรับมือกับอุปสรรคใหม่ ๆ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

พล.ร.อ. ดาโต๊ะ อานัวร์ บิน ฮัจ เอเลียส ซึ่งเป็นพลเรือเอกคนแรกแห่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองทัพเรือมาเลเซีย ร่วมพูดคุยนอกรอบกับ ฟอรัม ในระหว่างการประชุมปฏิบัติการพิเศษภาคพื้นแปซิฟิก เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ที่เมืองโฮโนลูลู รัฐฮาวาย พล.ร.อ. เอเลียส ดำรงตำหลายแหน่งในหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่มีชื่อว่า ปาสุกัน คาส เลาต์ หรือ ปาสกาล ซึ่งเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษหลักของกองทัพเรือมาเลเซีย รวมถึงเป็นผู้บัญชาการและเสนาธิการประจำกองบัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพเรือในช่วง 38 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติ

ฟอรัม: เราอยากทราบเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพของคุณ เพราะอะไรคุณจึงสนใจอาชีพทหารเรือ และคุณคิดว่าสิ่งใดช่วยให้คุณประสบความสำเร็จ?

พล.ร.อ. เอเลียส: ผมอยากเข้าร่วมกองทัพเรือตั้งแต่ยังเด็ก วันหนึ่งในระหว่างนิทรรศการเมื่อ พ.ศ. 2515 ผมได้รู้จักกับกองทัพเรือเป็นครั้งแรก พอเห็นเครื่องแบบสีขาวแล้วผมก็ตกหลุมรัก และรู้ตัวว่าอยากทำงานในกองทัพเรือ ผมได้เข้าร่วมกองทัพเรือเมื่อ พ.ศ. 2524 โดยมีสถานะเป็นนักเรียนนายเรือ ผมชอบงานนี้ทันที และคิดว่า นี่แหละคือเคล็ดลับที่ทำให้ผมประสบความสำเร็จ เพราะเป็นงานที่ใช่ ผมจึงประกอบอาชีพเป็นทหารเรือ

ฟอรัม: สิ่งใดทำให้คุณสนใจเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ?

พล.ร.อ. เอเลียส: เรื่องออกจะยาวครับ ผมได้ศึกษาเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่หน่วยเล็ก ๆ ที่ทำบางสิ่งที่พิเศษมากกว่าการเป็นเพียงเจ้าหน้าที่ธรรมดา ความท้าทายในสงครามพิเศษ การได้รับมอบหมายภารกิจ และทุ่มเททำสุดกำลังเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผม ผมเข้าร่วมหน่วยปฏิบัติการพิเศษเมื่อ พ.ศ. 2529 และสำเร็จการฝึกดำน้ำ กระโดดร่ม ตลอดจนการฝึกอบรมพิเศษอื่น ๆ ภายในเวลาหนึ่งปี ผมชอบที่ได้ดำน้ำ กระโดดร่ม และทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ทั่วไปทำไม่ได้ นี่แหละคือความท้าทาย หลังจากปฏิบัติหน้าที่บนเรือเป็นเวลาห้าปี ผมได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้นำกองเรือรบของหน่วยรบพิเศษแห่งกองทัพเรือ

ฟอรัม: ก่อนเข้ารับตำแหน่งพลเรือเอกคนแรก มีเหตุการณ์ที่น่าประทับใจอะไรบ้างในระหว่างที่คุณปฏิบัติหน้าที่?

พล.ร.อ. เอเลียส: ผมได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหน่วยภารกิจพิเศษของกองทัพเรือ เพื่อปฏิบัติภารกิจของสหประชาชาติในโซมาเลีย ซึ่งรู้จักกันในชื่อ ยูโนซอม 2 เมื่อ พ.ศ. 2538 และเป็นส่วนหนึ่งในหน่วยภารกิจพิเศษ จากนั้น ผมก็ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าหน้าที่สังเกตการณ์ทางทหารใน พ.ศ. 2541 ที่แองโกลา ซึ่งมีชื่อว่า ภารกิจสังเกตการณ์ในแองโกลาของสหประชาชาติ หรือ โมนัว เป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งในขณะนั้น ผมยังเป็นจ่าหรือนาวาตรีในกองทัพเรือ ระหว่างการเดินทางเพื่อปฏิบัติหน้าที่ ผมได้เผชิญกับสถานการณ์ต่อสู้แบบประชิดอย่างน้อยสี่ครั้งในพื้นที่เหมืองและหมู่บ้านโดยรอบที่ถูกโจมตี ผมตอบโต้การโจมตีจากพลเรือนในช่วงที่เลวร้ายที่สุดของการก่อจลาจล เมื่อฝ่ายกบฏต้องการฆ่าเด็กและผู้หญิง ผมช่วยชีวิตผู้คนไว้ได้ 20 ชีวิต ซึ่งจากเหตุการณ์นั้นทำให้ผมได้รับเหรียญกล้าหาญอันทรงเกียรติ ใน พ.ศ. 2543 จากกษัตริย์มาเลเซีย

ฟอรัม: และเหตุการณ์นั้นเป็นจุดเริ่มต้นทางอาชีพของคุณใช่ไหม?

พล.ร.อ. เอเลียส: หน่วยปฏิบัติการพิเศษมอบโอกาสให้มากมาย และผมก็ได้รับโอกาสให้ทำอาชีพทหารต่อไปในออสเตรเลีย สหรัฐฯ และอินโดนีเซีย โดยทางกองทัพส่งผมไปศึกษายังต่างประเทศ เช่น ใน พ.ศ. 2549 ผมได้เข้าเรียนในวิทยาลัยยุทธนาวี ในเมืองโรดไอแลนส์ ผมได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการของกองบัญชาการหน่วยปฏิบัติการร่วม เจ3 ในกัวลาลัมเปอร์ เป็นเวลาประมาณห้าปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 ถึง พ.ศ. 2558 ระหว่างดำรงตำแหน่ง ผมได้รับโอกาสให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเรื่องการต่อต้านการก่อการร้ายทางทะเลและสงครามพิเศษ รวมทั้งมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันและได้ร่วมงานกับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมในหลายประเทศ นอกจากนี้ ผมยังปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้อำนวยการให้กับการฝึกซ้อมการต่อต้านการก่อการร้ายแบบหลายภารกิจในลังกาวี รวมทั้งนิทรรศการแสดงเครื่องบินและเรือนานาชาติลังกาวีประจำ พ.ศ. 2558 ด้วย ผมเดินทางไปอินโดนีเซียครั้งที่สองเมื่อ พ.ศ. 2559 เพื่อเข้าศึกษาในสถาบันวิชาการเตรียมพร้อมรับมือนานาชาติแห่งสาธารณรัฐอินโดนีเซีย หรือรู้จักกันในชื่อเลนฮันนัส หลังกลับจากอินโดนีเซีย ผมก็ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพลเรือเอกในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2560 และได้รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการประจำหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเรือ

ฟอรัม: อุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดซึ่งกองทัพเรือมาเลเซียเผชิญอยู่ในปัจจุบันคืออะไร?

พล.ร.อ. เอเลียส: อุปสรรคใหญ่หลวงที่สุดเรื่องหนึ่งที่เราเผชิญอยู่ในปัจจุบันคือการปรับกองเรือให้ทันสมัย เรามีแผนการปฏิรูปกองเรือรบของกองทัพเรือมาเลเซียจาก 15 ชั้นเหลือ 5 ชั้น ซึ่งเป็นแผนการปฏิรูปเรือเก่าที่ใช้มานานด้วยเรือใหม่ โดยเหมาะกับสภาพแวดล้อมที่พัฒนาขึ้นและอนาคต (โครงการ 15 เหลือ 5 คือแผนการหลักที่จะลดเรือจำนวน 15 ชั้นในปัจจุบันให้เหลือเพียง 5 หมวดหมู่ ได้แก่ เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง เรือรองรับหลายปฏิบัติการ เรือป้องกันชายฝั่ง เรือลาดตระเวนและเรือดำน้ำรุ่นใหม่)

จากการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลและความท้าทายทางเศรษฐกิจ ทำให้กองทัพเรือและหน่วยปฏิบัติการพิเศษมีความกดดันหลายด้าน หน่วยปฏิบัติการพิเศษดำรงอยู่ได้ด้วยกองเรือ โดยต้องมีการกำหนดระดับที่เหมาะสมให้กับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ มาเลเซียถือเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจสูงมากเพราะล้อมรอบด้วยทะเล เราจึงต้องมีฐานแนวระนาบเพื่อปกป้องชายแดน แผนการ 15 เหลือ 5 เป็นแผนที่ดีเยี่ยม แต่ถ้าไม่ได้ดำเนินการอย่างเหมาะสม ถ้าเรือไม่ได้จัดส่งมาตามกำหนดเวลา ก็จะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเรือเก่าที่ใช้มานาน ซึ่งบางครั้งค่าบำรุงรักษาเรือที่มีอายุเพิ่มขึ้นก็อาจแพงขึ้น ค่าใช้จ่ายสำหรับเรือที่ใช้มานานอาจสูงขึ้นเพราะค่าอุปกรณ์ที่ล้าสมัยเพิ่มสูงขึ้น นอกจากนี้ การตัดสินใจของหน่วยงานด้านกลาโหมมาเลเซียก็เป็นเรื่องท้าทายเช่นกัน

ทางรัฐบาลยืนกรานให้สร้างเรือส่วนใหญ่ภายในประเทศ ทำให้เรื่องนี้เป็นหนึ่งในความท้าทาย นับเป็นความท้าทายที่ดี เพราะการสร้างเรือดำน้ำเองนั้นดีสำหรับประเทศเรามากกว่า นี่เป็นการเคลื่อนไหวที่น่าพอใจและเป็นต้นแบบที่ดีให้ประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ ดำเนินรอยตามภารกิจของเรา สำหรับประเทศที่กำลังพัฒนา สิ่งที่สำคัญมากสำหรับประเทศเหล่านั้น โดยเฉพาะในตะวันออกเฉียงใต้ คือการดำเนินอุตสาหกรรมกลาโหม ความภาคภูมิใจที่ได้ผลิตยุทโธปกรณ์ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญ นี่เป็นหนึ่งในความท้าทายที่กองทัพเรือมาเลเซียต้องดำเนินการเพื่อให้พร้อมต่อการป้องกันประเทศใน พ.ศ. 2573 เรือใหม่ ๆ จะเข้ามาอยู่ในคลังของเรา ส่วนเรือลำเก่าก็จะปลดประจำการ แต่ความล่าช้าของการจัดส่งเรือตามสัญญาของผู้ผลิตอาจก่อให้เกิดปัญหา

ฟอรัม: มีสิ่งใดอีกบ้างที่กองทัพเรือมาเลเซีย ต้องดำเนินการเพื่อให้พร้อมสำหรับทศวรรษที่จะมาถึง?

พล.ร.อ. เอเลียส: มิติใหม่ ๆ ด้านความมั่นคงเปลี่ยนแปลงสนามต่อสู้อย่างต่อเนื่อง ผมเชื่อว่าสื่อสังคมออนไลน์และโลกไซเบอร์จะเป็นตัวพลิกเกม ซึ่ง ณ ตอนนี้ สื่อสังคมออนไลน์เข้ามามีบทบาทสำคัญแล้ว และกฎเกณฑ์ต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ฝ่ายที่ดีอาจได้ประโยชน์จากเรื่องนี้ แต่ฝ่ายผู้ร้ายก็ได้ประโยชน์เช่นกัน ซึ่งกลุ่มไอซิสหรือรัฐอิสลามอิรักและซีเรียได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว จากการใช้สื่อสังคมออนไลน์เพื่อสรรหาผู้เข้าร่วมหน้าใหม่ คนรุ่นอนาคตต้องได้รับการศึกษาและฝึกอบรมสำหรับโลกยุคใหม่ สงครามไซเบอร์จะไม่เหมือนกับที่เราเห็นอยู่ทุกวันนี้เลย กองทัพจำเป็นต้องได้รับการศึกษาด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ กองทัพไซเบอร์สามารถทำให้ชนะการเลือกตั้งได้ ผมเชื่อว่าก่อนที่เราจะออกไปรบ กองทัพไซเบอร์จะทำหน้าที่ในส่วนของตน ทหารไซเบอร์จะดำเนินสงครามในรูปแบบนี้ร่วมกับสงครามด้านข้อมูล แม้กระทั่งในปัจจุบัน บางครั้งคนเราก็นำข้อมูลกับข่าวกรองมาปนกัน และตัดสินใจโดยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอะไรคือความจริงหรือข้อเท็จจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นจริง

ฟอรัม: เป้าหมายสูงสุดที่คุณหวังจะทำให้สำเร็จในฐานะพลเรือเอกคนแรกคืออะไร?

พล.ร.อ. เอเลียส: ผมได้ทำหน้าที่ส่งเสริมปาสกาลให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกในช่วงที่ดำรงตำแหน่งอย่างดีที่สุดแล้ว ใน พ.ศ. 2561 ผมได้เป็นที่ปรึกษาให้กับภาพยนตร์ที่ดำเนินการสร้างโดยได้รับอนุมัติจากผมและผู้บัญชาการกองทัพเรือมาเลเซีย คณะผู้ถ่ายทำเดินทางมาพบผม และถ่ายทอดเรื่องราวของผมในแองโกลา โดยถ่ายทำไว้เป็นส่วนหนึ่งในภาพยนตร์เรื่องปาสกัล หน่วยพิฆาตทะเลโหด ซึ่งหาดูได้ทางเน็ตฟลิกซ์
ผมติดตามพัฒนาการของภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมได้ดำเนินงานเพื่อส่งเสริมปาสกาลให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นี่เป็นสุดยอดเรื่องราว ไม่เพียงสำหรับกองทัพมาเลเซียเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศภายนอกด้วย เป็นหนึ่งในการกระทำที่แสดงให้เห็นว่ามีความท้าทายมากมายรออยู่ข้างหน้าเสมอ ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผน แต่ก็ใช้การได้

ฟอรัม: คุณคิดว่าความกังวลด้านความมั่นคงอันดับแรก สำหรับอินโดแปซิฟิกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าคืออะไร?

พล.ร.อ. เอเลียส: ทะเลจีนใต้และการอ้างสิทธิ์ในทรัพยากรของจีน ความกังวลของชาวอเมริกันกำลังเปลี่ยนแปลงไป และสร้างสมดุลให้กับเอเชีย จะมีการปะทะกันทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมหาอำนาจทั้งคู่ โดยมีกองทัพอื่น ๆ อยู่ตรงกลาง ความขัดแย้งด้านพรมแดนจะเป็นหนึ่งในความกังวลด้านความมั่นคงอันดับแรกของอินโดแปซิฟิกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หมู่เกาะสแปรตลีกับทะเลจีนใต้โดยรวม ทั้งหมดนั้นเป็นที่สนใจของเราและทั่วภูมิภาค รวมถึงพื้นที่ซาบาห์ตะวันออกที่มีการลักพาตัวเพื่อเรียกค่าไถ่ โจรสลัด และผู้อพยพผิดกฎหมาย ตลอดจนซาบา หน่วยที่ 1 ของปาสกาลจะจัดการกับปัญหาทางตะวันตกของมาเลเซีย ส่วนหน่วยที่ 2 ของปาสกาลจะรับมือกับการต่อต้านโจรสลัดทางตะวันออกของซาบาห์ โดยทำงานร่วมกับคนของผมโดยตรง

ฟอรัม: คุณเชื่อว่าแนวทางแบบพหุภาคีสำคัญต่อความมั่นคงในภูมิภาคนี้หรือไม่? เพราะเหตุใด?

พล.ร.อ. เอเลียส: ใช่ครับ ผมเชื่อว่าแนวทางแบบพหุภาคีมีความสำคัญ เพราะปัญหาส่วนใหญ่เป็นปัญหาระดับสากล การพัฒนารูปแบบ การแปลความ และการทำงานร่วมกันเป็นสิ่งสำคัญ ประเทศที่ต้องการสันติภาพควรมุ่งมั่นพัฒนาหนทางแก้ไขร่วมที่เอื้อประโยชน์ให้ประเทศที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในหมู่ประเทศต่าง ๆ ควรไว้เนื้อเชื่อใจและเข้าใจกัน เพื่อให้เกิดแนวทางแบบพหุภาคีที่ดีที่สุดด้านความมั่นคงในภูมิภาค

ฟอรัม: คุณมองว่านิยามของอำนาจอธิปไตยที่พัฒนาขึ้นในอินโดแปซิฟิกเป็นอย่างไร?

พล.ร.อ. เอเลียส: แต่ละประเทศต่างมีนิยามของอำนาจอธิปไตยที่ต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผลประโยชน์และลำดับความสำคัญของแต่ละประเทศ รวมถึงวิธีการทำงานของรัฐบาล ซึ่งแต่ละรัฐบาลต่างก็มีเงื่อนไขของตนเอง
เราต้องมีความยืดหยุ่น ความเชื่อใจ และความเชื่อมั่น ผมเห็นด้วยกับแนวทางที่ทำให้อินโดแปซิฟิกมีเสรีภาพและเปิดกว้าง ประเทศส่วนใหญ่เป็นประเทศขนาดเล็ก และควรร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ที่มีขีดความสามารถสูง
ต้องมีวิธีการร่วมมือกันทำบางสิ่ง เพื่อลดทอนกิจกรรมทั้งหมดเหล่านี้ที่อาจเป็นภัยคุกคาม ตราบใดที่ยังมีสถานการณ์ที่อาจผันผวน เช่น ในเกาหลีเหนือ หรือภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่มหัวรุนแรง ประเทศต่าง ๆ จะต้องร่วมมือกันปกป้องอธิปไตย

ฟอรัม: การประชุม เช่น การประชุมปฏิบัติการพิเศษสำหรับพื้นที่แปซิฟิก มีคุณค่าอย่างไร?

พล.ร.อ. เอเลียส: บุคลากรที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมมีแนวโน้มที่จะได้รับการคัดเลือกตามหัวข้อ (ความพร้อมรับมือทางอธิปไตย) และการมีส่วนร่วมในประเทศตนเองในปัจจุบันโดยเฉพาะ ดังนั้น ผมจึงหวังว่าจะถ่ายทอดความคิดของตัวเองได้ ผมไม่ได้มาที่นี่ในฐานะผู้กำหนดนโยบาย ผมเป็นแค่คนที่ทำตามคำสั่ง แต่ในเวทีแห่งนี้เราค่อนข้างมีอิสระ เราสามารถแสดงความคิด และความคิดของเราก็อาจมีค่าพอให้ขบคิดต่อ และอาจใช้เป็นการเริ่มต้นการหารือที่ดี เราพยายามเป็นทหารที่ดี การประชุมนี้เปิดโอกาสให้หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากทั่วโลกมาพบปะกัน ได้ทำความรู้จักกัน ผมได้พบผู้บัญชาการหน่วยปฏิบัติการพิเศษจากประเทศไทยเป็นครั้งแรกที่การประชุมนี้ นี่คือข้อดีของการประชุมปฏิบัติการพิเศษสำหรับพื้นที่แปซิฟิก ผู้บัญชาการไทยอยู่ถัดจากเราไปนี่เอง แต่เรากลับไม่เคยพบกันเลย นับเป็นโอกาสสำหรับการหารือที่ดี