การฝึกฝนความพร้อมรับมือเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเตรียมพร้อมของกองทัพในอินโดแปซิฟิก
โจเซฟ แฮมมอนด์
ทหารเกณฑ์ใหม่ของกองทัพบกนิวซีแลนด์ (ในภาพ) ใช้การหายใจแบบยุทธวิธีและการสร้างมโนภาพเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขณะที่มุ่งเป้าไปที่เป้าหมายการฝึกซ้อม ในขณะเดียวกัน ทหารสิงคโปร์ฝึกจัดการกับความวิตกกังวลในสนามรบผ่านการสัมผัสกับตัวกระตุ้นความตึงเครียดจำลองอย่างต่อเนื่อง ในออสเตรเลีย ทหารใช้แอปฯ สมาร์ทโฟนเพื่อตรวจสอบติดตามระดับความเครียดในระหว่างปฏิบัติหน้าที่
ทั้งหมดเหล่านี้คือตัวอย่างการฝึกฝนความพร้อมรับมือ ซึ่งเป็นแง่มุมที่สำคัญมากขึ้นในการเตรียมความพร้อมของชายและหญิงสำหรับรับราชการทหารในกองทัพบกของประเทศในอินโดแปซิฟิก
“กองทัพที่มีความพร้อมรับมือคือกองทัพที่มีความสามารถในการตอบสนอง อยู่รอด และเติบโตในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและท้าทาย” โฆษกหญิงของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวกับฟอรัม “เจ้าหน้าที่ทางทหารจากภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเข้าร่วมการฝึกกับกองทัพออสเตรเลีย ทั้งในออสเตรเลียและประเทศของตนเอง”
กองทัพออสเตรเลียได้ใช้แบทเทิลสมาร์ทตั้งแต่ พ.ศ. 2552 เพื่อปลูกฝังการจัดการตนเองและความพร้อมรับมือให้แก่เจ้าหน้าที่ทางทหาร โครงการดังกล่าวครอบคลุมสี่ด้านคือ พฤติกรรมการปรับตัว การปรับวิธีคิดตามสถานการณ์ การจัดการการตอบสนองทางสรีรวิทยา และการควบคุมอารมณ์
เจ้าหน้าที่ทหารจะทดสอบการตอบสนองของตนในสี่ด้านเหล่านี้ และปรับเปลี่ยนหากการตอบสนองเบื้องต้นไม่เป็นผลหรือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไม่สำเร็จ โฆษกกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียกล่าวเสริม เป้าหมายดังกล่าวเป็นไปเพื่อการเสริมสร้างสุขภาพจิตและความพร้อมรับมือรายบุคคล และเพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพสูงสุดในรายบุคคลและทีม
นอกเหนือจากแบทเทิลสมาร์ท กองทัพออสเตรเลียยังใช้แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนไฮเรสและเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เจ้าหน้าที่และครอบครัวจัดการกับความเครียดพร้อมทั้งสร้างความพร้อมรับมือ
ในนิวซีแลนด์ การฝึกความพร้อมรับมือถูกบรรจุลงในหลักสูตรทุกระดับของการฝึกของกองทัพบก ตามที่อธิบายไว้ในวารสารข่าวแจกของกองทัพบก ฉบับเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 การฝึกจะมุ่งไปที่ขั้นตอนของวงจรการพัฒนาความพร้อมรับมือ ได้แก่ เตรียมพร้อม ดำเนินการ และฟื้นฟู
การอบรมการเตรียมความพร้อมด้านจิตใจและการฟื้นฟูจิตใจจะดำเนินการโดยผู้ฝึกสอนทั้งก่อนและหลังการฝึกปฏิบัติภาคสนามที่สำคัญในแต่ละครั้ง ข่าวแจกของกองทัพบกระบุเพิ่มเติม เช่น ที่สนามยิงปืน ทหารจะได้ฝึกการหายใจแบบยุทธวิธีและการสร้างมโนภาพเพื่อเพิ่มความแม่นยำและการกำหนดเวลา
ทหารจะถูกผลักดันให้ก้าวออกจากพื้นที่ปลอดภัยอย่างจงใจ จากนั้นจะให้ฝึกทบทวนตนเองเพื่อปรับปรุงการตอบสนองและการฟื้นฟูจากตัวกระตุ้นความเครียดในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญในอนาคต
กองทัพบกสิงคโปร์ได้นำเสนอโครงการความพร้อมรับมือเฉพาะด้านเมื่อ พ.ศ. 2561 ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านประสิทธิภาพของทหาร ที่เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ใหญ่กว่าเพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้สู่ระดับสูงสุด ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ทูเดย์
ในระหว่างการฝึกฝนพื้นฐานทางทหาร ทหารจะได้เรียนรู้ทักษะการจัดการความเครียดและความวิตกกังวล ตามเอกสารข้อเท็จจริงของศูนย์ความเป็นเลิศด้านประสิทธิภาพของทหาร ครึ่งหลังของการฝึก ทหารจะต้องเผชิญกับตัวกระตุ้นความเครียดอย่างต่อเนื่องตามปฏิบัติการทั่วไปของการต่อสู้ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้สถานการณ์และพัฒนาทักษะการปรับตัวให้เฉียบคม เช่น การทดสอบปฏิกิริยาของทหารต่อสมาชิกในทีมที่หายตัวไป หรือการมอบหมายหน้าที่เป็นเวลานานกว่าที่คาดไว้ การฝึกที่จะรับมือกับการเผชิญสิ่งดังกล่าวช่วยให้ทหารสามารถฟื้นฟูจากความล้มเหลวและปฏิบัติงานต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง ตามรายงานของศูนย์ความเป็นเลิศด้านประสิทธิภาพของทหาร
โจเซฟ แฮมมอนด์ เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของฟอรัม รายงานจากภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
