อินโดนีเซีย: การตอบสนอง ต่อภัยพิบัติ เพิ่มงบประมาณเป็นสองเท่า

อินโดนีเซียจะเพิ่มงบประมาณการตอบสนองต่อภัยพิบัติขึ้นเป็นสองเท่า โดยมีมูลค่า 15 ล้านล้านรูเปียห์ (1.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.3 หมื่นล้านบาท) ใน พ.ศ. 2562 เจ้าหน้าที่กล่าวหลังจากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้กับสามภูมิภาคของหมู่เกาะอันกว้างใหญ่เมื่อ พ.ศ. 2561

ใน พ.ศ. 2561 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับปีที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่าทศวรรษ โดยมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 คนจากเหตุการณ์ สึนามิและแผ่นดินไหวในหมู่เกาะสุลาเวสี ลอมบอก รวมถึงชวาตะวันตกและเกาะสุมาตรา

อินโดนีเซียคร่อมอยู่บนวงแหวนแห่งไฟของแปซิฟิกที่มีการสั่นสะเทือน และเกิดแผ่นดินไหว การปะทุของภูเขาไฟ สึนามิ และเหตุการณ์เฉพาะพื้นที่บ่อยครั้ง รวมถึงดินถล่ม น้ำท่วม และไฟป่า

นายนูฟรันซา วีรา ซักตี โฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า จะมีการจัดสรรงบประมาณห้าล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท) ให้กับการฟื้นฟูและการบูรณะ ในขณะที่อีก 10 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท) จะสงวนไว้สำหรับการตอบสนองต่อภัยพิบัติ

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโดกล่าวว่าเงินจำนวนมากจะนำไปใช้ในด้านการศึกษาและการตอบสนองต่อภัยพิบัติ

“ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เสี่ยงต่อภัยพิบัติของเรา เราจึงต้องเตรียมพร้อม ตอบสนอง ตื่นตัว และปรับตัวเมื่อเผชิญหน้ากับภัยพิบัติธรรมชาติทุกชนิด “ นายวิโดโดกล่าวในระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกของ พ.ศ. 2562

นอกจากนี้ นายวิโดโดยังเรียกร้องให้บรรจุการเตรียมความพร้อมด้านภัยพิบัติลงในหลักสูตรของโรงเรียนรัฐ และขอให้มีการต่ออายุระบบเตือนภัยสึนามิล่วงหน้าทั่วประเทศที่หมดอายุ

ใน พ.ศ. 2561 กระทรวงการคลังกล่าวว่ามีแผนที่จะเปิดตัวกลยุทธ์ใหม่ใน พ.ศ. 2562 เพื่อระดมทุนสำหรับการฟื้นฟูภัยพิบัติ ซึ่งอาจรวมถึงการขาย “พันธบัตรภัยพิบัติ” โดยรัฐบาลกลางจะทำประกันภัยทรัพย์สินของรัฐจากภัยพิบัติ และสร้างเครื่องมือในการจัดหาเงินทุนสำหรับความเสี่ยงทางภัยพิบัติสำหรับภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบ รอยเตอร์