ติดอันดับ

กองทัพสิงคโปร์ได้รับพื้นที่มากเพียงพอในการฝึกซ้อมภายใต้รหัสวอลเลอบี

ทอม แอบกี

เมื่อประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กต้องการพื้นที่เพื่อจัดการฝึกซ้อมภาคสนามสำหรับบุคลากรทหาร 3,000 นาย สิงคโปร์หันความสนใจไปที่พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์อย่างออสเตรเลีย ที่มีพื้นที่โล่งกว้างขวางและสภาพภูมิประเทศขรุขระ เหมาะเป็นสถานที่สำหรับการฝึกซ้อมภายใต้รหัสวอลเลอบี ซึ่งเป็นการฝึกซ้อมเอกภาคีที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 กันยายนถึง 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“ที่นี่คุณจะเห็นว่ากองทัพบกสิงคโปร์ดำเนินการฝึกซ้อมในระดับและในขอบเขตรวมทั้งความซับซ้อนที่ใหญ่โตเกินกว่าจะทำได้ในสิงคโปร์ เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่ที่เรามีในบ้านเกิดของเรา” ดร. โมฮัมหมัด มาลิกิ บิน ออสมัน รัฐมนตรีช่วยอาวุโสแห่งกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ระบุในข่าวประชาสัมพันธ์ โดยเสริมว่าพื้นที่เพื่อการฝึกซ้อมอ่าวชอลวอเทอร์ของควีนส์แลนด์มีขนาดเกือบสี่เท่าของประเทศสิงคโปร์

กองบัญชาการกองพันทหารราบที่ 7 และทหารกองพันที่ 1 ของกองทัพบกสิงคโปร์ ประกบคู่กับสี่หน่วยจากกองทัพอากาศสิงคโปร์ ซึ่งหน่วยดังกล่าวประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์ การขนส่ง การป้องกันทางอากาศแบบแบ่งส่วน และการป้องกันทางอากาศเชิงยุทธวิธี ในชุดปฏิบัติการภาคสนามตามกรอบการฝึกวอลเลอบีกรอบแรกจากสองกรอบ โดยมีการเตรียมการสำหรับกองทหารด้วยการฝึกซ้อมแผนบนโต๊ะ การฝึกซ้อมจริง และเกมสงคราม

“เมื่อเราปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยจะทำให้การฝึกซ้อมรู้สึกสมจริง ซึ่งผมคิดว่าเป็นประสบการณ์สำคัญที่ต้องมีสำหรับสมาชิกผู้รับใช้ชาติซึ่งกำลังฝึกซ้อมเพื่อให้พร้อมต่อปฏิบัติการ” จ.ส.ท. มาร์คัส ซี แห่งกองทัพบกให้ข้อสังเกต

สภาพแวดล้อมที่ร้อนและแห้งแล้งทำให้มีการสั่งห้ามฝึกซ้อมโดยใช้กระสุนจริงในกรอบที่สองของการฝึกซ้อมภายใต้รหัสวอลเลอบี ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมถึง 3 พฤศจิกายน และมีกองบัญชาการกองพลน้อยยานเกราะที่ 8 กรมทหารยานเกราะสิงคโปร์กองพันที่ 41 และกองพันขนส่งกองทัพบกสิงคโปร์ที่ 3 จากกองทัพบกสิงคโปร์ ตลอดจน หน่วยเฮลิคอปเตอร์ หน่วยขนส่ง และหน่วยป้องกันทางอากาศแบบแบ่งส่วนของกองทัพอากาศสิงคโปร์เข้าร่วม

ข่าวประชาสัมพันธ์ระบุว่าแม้จะมีการสั่งห้ามดังกล่าว แต่กองทัพก็ได้ดำเนินการในส่วนยานเกราะ ผ่านการฝึกซ้อมการยิงปืนใหญ่และการจัดทัพไปจนถึงการฝึกซ้อมการเติมเสบียงและการฝึกซ้อมร่วมทางบกกับทางอากาศ ซึ่งประกอบด้วยการลงจอดทางอากาศโดยมีเครื่องบินขนส่ง ซี-130 เข้าร่วม โดยระบุอีกว่าการยกระดับการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพบกและกองทัพอากาศสิงคโปร์ พร้อมกับการเสริมสร้างขีดความสามารถเชิงปฏิบัติการจากทั้งสองกองทัพ เป็นผลประโยชน์หลักของการฝึกซ้อมในครั้งนี้ด้วย

“ไม่ว่าจะมีการสั่งห้ามฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริงหรือไม่ก็ตาม การอยู่ที่นี่ ในพื้นที่เพื่อการฝึกซ้อมอ่าวชอลวอเทอร์ก็นับว่าเป็นสิทธิพิเศษแล้ว และเราทุกคนตื่นเต้นที่จะทำภารกิจการฝึกปฏิบัติภารกิจของกองร้อยของเราให้สำเร็จลุล่วง” ส.ท. มูฮัมหมัด ฟัดฮ์ลี บิน โรสลี แห่งกองทัพบกกล่าว “ผมมั่นใจว่าเราจะเอาชนะศัตรูทั้งมวลร่วมกันเป็นกลุ่ม”

การฝึกซ้อมภายใต้รหัสวอลเลอบีครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533 ที่อ่าวชอลวอเทอร์ โดยมีบุคลากรจากกองทัพบกสิงคโปร์เข้าร่วม 1,200 นายตามข้อตกลงว่าด้วยสถานะของกองกำลังซึ่งรัฐบาลออสเตรเลียและสิงคโปร์ลงนามในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 ตามข้อมูลของวิทยาลัยการสงครามออสเตรเลีย บันทึกข้อตกลงระดับรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมที่ลงนามเมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2548 เปิดโอกาสให้กองทัพบกสิงคโปร์ส่งบุคลากรไปยังดินแดนออสเตรเลียได้มากถึง 6,600 นายสำหรับการฝึกครั้งนี้

การขยับขยายที่สำคัญกำลังจะเกิดขึ้น ทั้งจำนวนบุคลากรกองทัพบกสิงคโปร์ที่เดินทางมายังออสเตรเลียเพื่อเข้ารับการฝึกซ้อม และพื้นที่ที่ใช้ในการฝึกซ้อม โดยสิงคโปร์และออสเตรเลียประกาศเปิดตัวโครงการริเริ่มการฝึกซ้อมทางทหารระหว่างออสเตรเลียกับสิงคโปร์เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2562

กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียรายงานว่าภายใต้โครงการริเริ่มนี้ สิงคโปร์จะลงทุนเป็นจำนวน 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.1 หมื่นล้านบาท) ในการขยายพื้นที่เพื่อการฝึกซ้อมอ่าวชอลวอเทอร์ และการพัฒนาพื้นที่การฝึกอบรมใหม่ในนอร์ทควีนส์แลนด์ โครงการริเริ่มการฝึกซ้อมทางทหารระหว่างออสเตรเลียกับสิงคโปร์ในท้ายที่สุดจะช่วยให้บุคลากรของกองทัพบกสิงคโปร์มากถึง 14,000 นายดำเนินการฝึกซ้อมในเซ็นทรัลควีนส์แลนด์และนอร์ทควีนส์แลนด์มากกว่า 18 สัปดาห์ต่อปีเป็นเวลา 25 ปี

นายทอม แอบกี เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากประเทศสิงคโปร์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button