ติดอันดับ

กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านร่วมมือต่อสู้โจรสลัดในช่องแคบสิงคโปร์

ติดอันดับ | Feb 21, 2020:

สิงคโปร์วางแผนปรับโครงสร้างกองกำลังเฉพาะกิจด้านความมั่นคงทางทะเลของตนเอง และยกระดับความร่วมมือกับประเทศชายฝั่งที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดที่เพิ่มขึ้นในช่องแคบสิงคโปร์

การกระอันเป็นโจรสลัดในช่องแคบดังกล่าว (ในภาพ) มีระดับสูงสุดในรอบสี่ปี โดยเกิดเหตุโจรปล้นเรือถึง 31 ครั้งใน พ.ศ. 2562 ทั้ง ๆ ที่จาก พ.ศ. 2559 จนถึง พ.ศ. 2561 มีเหตุการณ์ลักษณะนี้ในช่องแคบสิงคโปร์เพียง 17 ครั้งเท่านั้น ใน พ.ศ. 2562 มีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มโจรติดอาวุธเก้าครั้ง ตามรายงานของศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลตามความตกลงว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อการต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย

โดยมีสองเหตุการณ์ที่ลูกเรือถูกมัดและสิ่งของต่าง ๆ ถูกปล้นไป ซึ่งรวมถึงสร้อยทอง ชิ้นส่วนเครื่องยนต์ และเศษโลหะ หนึ่งในเหตุการณ์ที่ร้ายแรงยิ่งกว่านั้นเกิดขึ้นโดยโจรสลัดหกคนที่พกอาวุธมีดเข้าปล้นเรือบรรทุกน้ำมัน จัก ละลิต ซึ่งลอยอยู่ห่างออกไปทางตอนเหนือของเกาะปูเลานองซา ประเทศอินโดนีเซีย ประมาณ 6.5 กิโลเมตรเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2562 กลุ่มโจรต่อยหน้าลูกเรือคนหนึ่ง แล้วปล้นสร้อยทองจากต้นกลทำให้คอของเขามีรอยช้ำ

นายมาซาฟุมิ คุโรกิ ผู้อำนวยการบริหารของศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลตามความตกลง ว่าด้วยความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อการต่อต้านการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นเรือโดยใช้อาวุธในเอเชีย กล่าวว่าตนหวังให้อินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์เพิ่มการแลกเปลี่ยนข้อมูลและการบังคับใช้กฎหมายในการต่อต้านภัยคุกคามนี้

นายคุโรกิกล่าวว่า “ข้อความดังกล่าวคือการขอให้ประเทศชายฝั่งเพิ่มการเฝ้าระวังและการลาดตระเวนในช่องแคบสิงคโปร์ให้มากขึ้น เนื่องจากมีเหตุการณ์ปล้นเรือเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” ตามรายงานของแชนแนล นิวส์เอเชีย “ช่องแคบสิงคโปร์และช่องแคบมะละกามีความสำคัญอย่างมากต่อการเดินเรือสากล ดังนั้น ประเทศชายฝั่งจึงมีหน้าที่ช่วยกันรักษาช่องแคบดังกล่าวให้ปลอดภัยและมั่นคง”

ดร. เอิง เอ็ง เฮ็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ กล่าวต่อรัฐสภาสิงคโปร์ว่า ตนได้วางแผนดำเนินการตรวจสอบวิธีการปรับโครงสร้างกองกำลังเฉพาะกิจด้านความมั่นคงทางทะเลเพื่อต่อต้านภัยคุกคามให้เสร็จภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะสเตรตส์ไทมส์ กองกำลังเฉพาะกิจของกองทัพเรือสิงคโปร์ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2552 และทำงานร่วมกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานทางทะเล เพื่อดำเนินการลาดตระเวนและการตรวจค้นประจำวันในน่านน้ำอาณาเขตของสิงคโปร์

ในส่วนของความร่วมมือระดับภูมิภาค ตัวแทนจากอินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทยได้พบปะกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของกลุ่มโจรสลัดเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2562 ที่ประเทศสิงคโปร์ ทั้งสี่ประเทศได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวกรอง รวมถึงดำเนินการลาดตระเวนทางทะเลและทางอากาศในช่องแคบมะละกาและช่องแคบสิงคโปร์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 เหตุการณ์ปล้นเรือเมื่อ พ.ศ. 2562 ล้วนเกิดขึ้นตามแนวยาวของช่องแคบสิงคโปร์ ซึ่งมีอินโดนีเซีย มาเลเซีย และสิงคโปร์เป็นผู้ดูแล นายคุโรกิกล่าวว่า เป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบได้ว่าเขตน่านน้ำของใครถูกละเมิดในการปล้นแต่ละครั้ง เพราะกลุ่มโจรข้ามพรมแดนไปมาอย่างต่อเนื่อง “นี่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ” นายคุโรกิกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญทางทะเลคนหนึ่งให้เหตุผลว่า การกระทำอันเป็นโจรสลัดมีจำนวนเพิ่มขึ้นเพราะการบังคับใช้กฎหมายมีแนวโน้มตกต่ำลง ตามรายงานของแชนแนล นิวส์เอเชีย ระบุว่า นายริดซ์วาน ราห์มัต นักวิเคราะห์กลาโหมของกลุ่มสารสนเทศเจนส์ กล่าวว่า อินโดนีเซียได้ส่งเรือจำนวนมากไปยังอาณาเขตที่มีความขัดแย้งกับสาธารณรัฐประชาชนจีนในทะเลจีนใต้ ทำให้เกิดช่องโหว่ในช่องแคบสิงคโปร์

“กองเรือที่ดูแลช่องแคบสิงคโปร์เป็นกองเรือที่กำกับดูแลทะเลนาตูนาด้วย” นายราห์มัตกล่าว “แล้วถ้าคุณเป็นผู้บัญชาการกองทัพเรืออินโดนีเซีย คุณจะจัดลำดับความสำคัญของกองเรือไว้ที่ตำแหน่งใด”

หนังสือพิมพ์ เดอะจาการ์ตาโกลบ รายงานว่าในเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 กองทัพอินโดนีเซียได้แจ้งเตือนกองกำลังรบของตนซึ่งประจำการในส่วนที่เป็นพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ ให้เตรียมตอบโต้เรือจีนที่รุกล้ำเข้ามาในเขตเศรษฐกิจพิเศษของอินโดนีเซีย

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button